“บินไทย-ไทยสมายล์” ยกระดับป้องกัน “ไวรัสโคโรนา” ขั้นสูงสุด กาง 7 มาตรการเข้มตั้งแต่ภาคพื้นถึงบนฟ้า อัดสเปรย์ฆ่าเชื้อ 16 เที่ยวบินกลับจากจีน เรียกความมั่นใจผู้โดยสาร
วันนี้ (28 ม.ค.) สายการบินไทยได้นำสื่อมวลชนเข้าชมการฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและการเช็ดทำความสะอาดภายในเครื่องบิน โดยมีนายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานในการนำชม ณ โรงซ่อมเครื่องบิน (Hangar) ฝ่ายช่างการบินไทย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นายเชิดพันธ์ โชติคุณ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายช่าง (DT) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สายการบินไทยและสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูก ได้เพิ่มมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากประเทศจีนสู่ระดับสูงสุด เพื่อสร้างความปลอดภัยทางด้านสุขภาพให้พนักงานและผู้โดยสาร รวมถึงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการด้วย
โดยนอกจากการทำความสะอาดตามปกติแล้ว การบินไทยได้ดำเนินการอบพ่นสเปรย์ Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคบนเครื่องบินเพิ่มเติม ทั้งในบริเวณห้องโดยสารและห้องนักบิน ในทุกเที่ยวบินที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีนตั้งแต่วันนี้ (28 ม.ค.) เป็นต้นไป ซึ่งปัจจุบันการบินไทยมีเที่ยวบินกลับจากประเทศจีน 9 เที่ยวบินต่อวัน และเที่ยวบินไทยสมายล์ 7 เที่ยวบินต่อวัน รวมเป็นไม่เกิน 16 เที่ยวบินต่อวัน คิดเป็นอัตราการขนส่งผู้โดยสารเฉลี่ย 3,500 คนต่อวัน
ทั้งนี้ การอบพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อบนเครื่องบินจะดำเนินการที่สนามบินสุวรรณภูมิและใช้เวลาทั้งหมด 45 นาทีต่อครั้ง นับจากลูกเรือคนสุดท้ายลงจากเครื่อง แบ่งเป็นเวลาการพ่นยา 15 นาที และการปิดเครื่องบินเพื่อทำการอบฆ่าเชื้ออีก 30 นาที โดยมาตรการนี้จะไม่ส่งผลให้เที่ยวบินต่างๆ ล่าช้า เพราะตามปกติการบินไทยก็เผื่อเวลาเตรียมเครื่องเพื่อทำการบินประมาณ 2 ชั่วโมง ถึง 2 ชั่วโมงครึ่งอยู่แล้ว
“เมื่อมีโรคระบาด การบินไทยก็จะอบพ่นสเปรย์ฆ่าเชื้อบนเครื่องบินในเส้นทางที่มีความเสี่ยง เพื่อดำเนินการป้องกันขั้นสูงสุด โดยในกรณีไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ การบินไทยก็จะพ่นอบน้ำยาฆ่าเชื้อบนเครื่องบินทุกลำที่กลับมาจากประเทศจีน ซึ่งเราก็ใช้มาตรการนี้เมื่อครั้งที่โรคซาร์สและโรคเมอร์สระบาด เพื่อเตรียมพร้อมขั้นสูงสุด” นายเชิดพันธ์กล่าว
นอกจากนี้ ขอให้ผู้โดยสารทุกคนมั่นใจในคุณภาพอากาศบนเครื่องของการบินไทย เพราะการบินไทยใช้ฟิลเตอร์ HEPA ในการกรองอากาศ ซึ่งผู้ผลิตอ้างว่าสามารถกรองอากาศให้มีคุณภาพดีได้ถึง 99.99% จึงมีความปลอดภัยต่อทุกคน
รายงานข่าวจากสายการบินไทยสมายล์เปิดเผยว่า ไทยสมายล์มีแผนจะดำเนินการฆ่าเชื้อบนเครื่องบินที่เดินทางกลับมาจากประเทศจีนทุกเที่ยวบิน ตั้งแต่วันพรุ่งนี้ (29 ม.ค.) เป็นต้นไป โดยไทยสมายล์มีเที่ยวบินไป-กลับประเทศจีน จำนวน 7 เส้นทาง ดังนี้ กรุงเทพฯ – ฮ่องกง, กรุงเทพฯ – เกาสง, กรุงเทพฯ -ฉงชิ่ง, กรุงเทพฯ-ฉางซา, กรุงเทพฯ-เจิ้งโจว, เชียงใหม่ –เกาสง และ ภูเก็ต – ฮ่องกง/ ภูเก็ต-กรุงเทพฯ
เปิด 7 มาตรการป้องกัน
เรืออากาศเอกปรารถนา พัฒนศิริ ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายความปลอดภัย ความมั่นคงและมาตรฐานการบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การบินไทยเริ่มประชุมติดตามสถานการณ์และเตรียมมาตรการรองรับโรคไวรัสโคโรน่าตั้งแต่วันที่ 6 มกราคมที่ผ่านมาและทำการเฝ้าระวังโรคตลอด 24 ชั่วโมง
ต่อมาในวันที่ 23 มกราคมที่ผ่านมา การบินไทยได้ทำการยกระดับการป้องกันเป็นระดับสูงสุด รวมทั้งได้มีการฝึกซ้อมการควบคุมโรคในวันที่ 24 มกราคม โดยได้มีการออกมาตรการในการป้องกันโรคระบาด 7 มาตรการ คือ
- มาตรการคัดกรองในการตรวจรับผู้โดยสารและการบริการภาคพื้น ด้วยการสังเกตอาการผู้โดยสาร ณ จุดบริการ หากพบว่ามีอาการบ่งชี้ ให้รายงานต่อแพทย์ประจำสนามบินเพื่อตรวจดูอาการ และยืนยันความปลอดภัยก่อนเดินทาง
- มาตรการในการให้บริการบนเครื่องบิน โดยพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือในเที่ยวบินที่มีความเสี่ยง, ให้บริการโดยไม่ให้ผู้โดยสารจับต้องเครื่องมืออุปกรณ์บริการอาหาร, เพิ่มความถี่ในการทำความสะอาดภายในห้องน้ำระหว่างเที่ยวบิน, จัดเตรียมหน้ากากอนามัยสำหรับผู้โดยสารที่มีอาการสวมใส่บนเครื่องและสังเกตอาการผู้โดยสารระหว่างเดินทาง หากมีอาการต้องสงสัยให้แยกผู้โดยสาร และแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องลง
- มาตรการจัดเตรียมอากาศยาน และฆ่าเชื้อโรค ด้วยการอบพ่นสเปรย์Calla 1452 ฆ่าเชื้อโรคในเครื่องบินส่วนภายในห้องโดยสารนั้นจะกรองอากาศด้วยฟิลเตอร์ HEPA
- มาตรการทำความสะอาดภายในอากาศยานและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน คือทำความสะอาดแบบลึก (Deep Cleaning)และทำความสะอาด 36 จุดสัมผัสร่วมที่ผู้โดยสารมีโอกาสสัมผัส แบ่งตามพื้นที่เป็น 5 ส่วน ได้แก่ กระเป๋าหน้าที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat Pocket) บริเวณภายในเครื่องบินทั่วไป (Aircraft Interior Cabin) ที่นั่งผู้โดยสาร (Passenger Seat) ครัว (Galley) และห้องน้ำ (Toilet) โดยให้ดำเนินการ ดังนี้ 1. พนักงานต้องใช้อุปกรณ์ป้องกัน (หน้ากาก/ถุงมือ) อย่างเคร่งครัด 2. มัดปากถุงให้แน่นหนา ก่อนนำขยะลงจากเครื่องและทิ้งในจุดที่กำหนด 3. หลังจากปฏิบัติงานต้องล้างมือด้วยสบู่/เจลล้างมือทุกครั้ง
- มาตรการป้องกันและเฝ้าระวังสุขอนามัยพนักงาน ด้วยการเร่งเผยแพร่ความรู้ให้พนักงานเรื่องลักษณะของโรคและการป้องกันตัวเอง ไม่ให้เกิดความตื่นตระหนก, จัดหาอุปกรณ์ป้องกันอันตรายส่วนบุคคล (Personal Protective Equipment : PPE) และวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ ให้พนักงาน, ให้ทำการตรวจสุขภาพ หากพบพนักงานมีอาการต้องสงสัยตามความเห็นแพทย์ และให้หยุดพักจนกว่าจะหายเป็นปกติ
- มาตรการการรับขนส่งสินค้าและไปรษณียภัณฑ์ โดยการตรวจสอบหีบห่อสินค้าให้เป็นไปตามมาตรฐาน, หลีกเลี่ยงการส่งสินค้าที่มีความเสี่ยง, จัดการคลังสินค้าให้ถูกสุขลักษณะปลอดจากการเป็นแหล่งเชื้อโรค
- มาตรการด้านโภชนาการ โดยจัดซื้อวัตถุดิบที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน GAP
วิธีรับมือผู้โดยสารป่วย
เรืออากาศเอกปรารถนากล่าวถึงมาตรการการรองรับบนเครื่องบินกรณีตรวจพบผู้โดยสารมีไข้และมีอาการต้องสงสัยว่า ให้พนักงานต้อนรับบนเครื่องทำการแยกผู้โดยสารและแจ้งด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศก่อนเครื่องบินลงและให้ปฏิบัติดังนี้
- พนักงานต้อนรับทุกคนจะต้องสวมหน้ากาก N-95 ที่ได้ดำเนินการแจกล่วงหน้า
- แจ้งกัปตันผู้บังคับอากาศยาน ประสานศูนย์ควบคุมจราจรทางอากาศและดำเนินการตามคำแนะนำ พร้อมเข้าสู่แผนฉุกเฉินท่าอากาศยานเรื่องโรคติดต่อ
- ประกาศแจ้งหาบุคลากรทางการแพทย์
- ทำการย้ายผู้โดยสารไปบริเวณที่ห่างจากผู้โดยสารคนอื่นและมีพนักงานต้อนรับคอยดูแล
- กันพื้นที่บริเวณห้องน้ำที่ผู้โดยสารป่วยใช้บริการเฉพาะ เพื่อมิให้ผู้โดยสารท่านอื่นใช้ร่วม
- กรณีมีของเหลวหรือสารคัดหลั่งจากร่างกายผู้โดยสารให้ใช้ชุด BiohazardBag หรือถุงพิเศษที่ใช้สำหรับใส่ขยะติดเชื้อ
- ให้ผู้โดยสารทำการสวมหน้ากากอนามัย เพื่อป้องกันการระบาด พร้อมทั้งแจกหน้ากากอนามัยให้กับผู้โดยสารที่อยู่ในระยะ 1 เมตรจากผู้ป่วย
- แจ้งรายละเอียดต่อ หน่วยกักกันและควบคุมโรค ของสนามบินปลายทาง และ 9.จัดทำรายงานอุบัติการณ์และบันทึกในระบบ หลังเสร็จสิ้นเที่ยวบิน
นายถาวร เสนเนียม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า เครื่องบินการบินไทยและไทยสมายล์ทุกลำที่บินมาจากประเทศจีน จะถูกนำมาฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อและเช็ดทำความสะอาดทุกตารางนิ้วตามกระบวนการที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และองค์การอนามัยโลก (WHO) ได้วางมาตรฐานไว้ เพื่อให้ผู้โดยสารที่เป็นลูกค้าของการบินไทยและไทยสมายล์มีความมั่นใจ ขณะเดียวกันบริษัทการบินไทยก็ต้องมั่นใจว่า ได้กำจัดเชื้อโรคให้กับผู้โดยสารที่จะเดินทางต่อในเที่ยวบินถัดไป
- แห่แชร์! จีนยกทัพ ‘รถตักดิน’ เร่งสร้างโรงพยาบาลรับผู้ป่วย ‘ไวรัสอู่ฮั่น’
- สู้ศึกไวรัส! จีนส่ง ‘นักรบชุดกาวน์’บุก ‘อู่ฮั่น’ แหล่งแพร่เชื้อ เกือบ 6,000 คน
- ‘นายกรัฐมนตรี’ ตั้ง ‘หมอหนู’ นำทีมแก้ ‘ไวรัสโคโรนา’
- นักไวรัสจีนชี้ ‘ภูมิคุ้มกันเกิดใหม่’ ลด ‘ปอดบวมจากโคโรนา’ ระบาด ใน 20 วัน
- ‘จุฬาฯ’ ไฟเขียวหยุดเรียน 14 วันเฝ้าระวังเชื้อ ‘ไวรัสโคโรนา’