เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไนจีเรีย ประกาศเพิ่มมาตรการฉุกเฉิน รับมือกับการระบาดของไข้ลาสซา ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 29 รายในเดือนนี้ และมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำนักงานควบคุมโรคไนจีเรีย (เอ็นซีดีซี) ระบุว่า นับจนถึงขณะนี้ พบผู้ป่วยโรคไข้ลาสซาแล้ว 195 คน เสียชีวิต 29 คน ใน 11 รัฐทั่วประเทศ
เอ็นซีดีซี เปิดเผยด้วยว่า ได้มีการจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินแห่งชาติขึ้นมา เพื่อดำเนินความร่วมมือกับฝ่ายต่างๆ ในการรับมือกับจำนวนผู้ป่วยโรคไข้ลาสซาที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ
ไข้ลาสซานั้น ถือเป็นไข้เลือดออกชนิดหนึ่ง และเป็นโรคประจำถิ่นของไนจีเรีย เกิดจากเชื้อไวรัสที่มาจากสัตว์ประเภทหนู โดยการสัมผัสละอองฝอยลมหายใจ หรือสัมผัสอุจจาระของหนูที่ติดเชื้อ การรับประทานอาหารที่ไม่สะอาด และดื่มนํ้าที่ปนเปื้อนเชื้อ ซึ่งองค์การอนามัยโลก (ฮู)ประกาศให้ไข้ลาสซา เป็น 1 ใน 6 โรคติดต่ออันตราย และยังไม่มีวัคซีนป้องกัน ทำได้เพียงแค่รักษาตามอาการ
ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่รุนแรง มีไข้ต่ำ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ บางครั้งอาจพบผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรง เช่น ไข้สูง อาเจียน เจ็บหน้าอก ปวดหัว ปวดท้อง หน้าและคอบวม ต่อมน้ำเหลืองรอบคอโต หายใจลำบาก มีเลือดออกผิดปกติ เช่น เลือดออกจากปาก จมูก และเลือดออกในระบบทางเดินอาหาร อาจมีอาการทางระบบประสาท รวมถึงภาวะช็อค และเสียชีวิตได้ในที่สุด
ไนจีเรียประกาศภาวะระบาดของโรคนี้ตั้งแต่เมื่อ 1 ปีที่แล้ว และตั้งแต่ปี 2562 มีผู้เสียชีวิตเพราะโรคไข้ลาสซาราว 170 คนแล้ว
ตามปกติแล้ว จะพบจำนวนผู้ป่วยโรคนี้เพิ่มมากขึ้นในช่วงเดือนมกราคม เพราะสภาพอากาศในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งราว 90% ของผู้ป่วยที่ได้รับการยืนยันแล้ว อยู่ในรัฐเอโด ออนโด และเอโบนยี ทางตอนใต้ของประเทศ แต่ก็มีรายงานถึงผู้เสียชีวิตทางตอนเหนือของประเทศเช่นกัน
เอ็นซีดีซี บอกด้วยว่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว จำนวนผู้เสียชีวิตของโรคนี้ลดลงจากระดับ 23.4% มาอยู่ที่ 14.8%