Finance

‘โคโรนา’ ฉุดหุ้นไทยร่วงหนัก เชื่อไม่ถึงขั้นต้องใช้ ‘Circuit Breaker’

“ภากร” ชี้ “พิษเชื้อไวรัสโคโรนา” ฉุดหุ้นไทยร่วงหนัก เชื่อไม่ถึงขั้นต้องใช้ “Circuit Breaker” ด้าน “ไพบูลย์” ชี้หุ้นไทยยังถือต่อได้ หลังเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงแรง เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จากจีน ซึ่งเป็นผลกระทบต่อตลาดหุ้นทั่วโลก แต่เนื่องจากเป็นวันหยุดยาวในช่วงเทศกาลตรุษจีน ตลาดหุ้นจีน และ อีกหลายแห่งปิดทำการซื้อขาย บวกกับตลาดหุ้นไทยเปิดการซื้อขายและเป็นตลาดหุ้นที่มีสภาพคล่องสูง นักลงทุนจึงเทขายหุ้นไทยมาก โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจขนส่งและท่องเที่ยว ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของไวรัสดังกล่าว

ภากร ตลท.81632

“การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา กระทบต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพราะนักท่องเที่ยวชาวจีนมีสัดส่วนถึง 30% ของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มาเที่ยวเมืองไทย ขอให้นักลงทุนพิจารณาว่ากลุ่มธุรกิจใดได้รับผลกระทบเชิงบวกและเชิงลบบ้าง วันนี้นักลงทุน Over Reaction เพราะกังวลมาก ดังนั้นจึงเทขายออกมาในหุ้นทุกกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบด้วย” นายภากร กล่าว

อย่างไรก็ตาม ได้รายงานสถานการณ์หุ้นตกต่อกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นขั้นตอนปกติที่ต้องรายงานข้อมูลให้หน่วยงานที่กำกับดูแลทราบ ซึ่งตลท.ยืนยันว่ามาตรการหยุดพักการซื้อขายชั่วคราว (Circuit Breaker) กรณีที่ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวลงถึง 10% สามารถรับมือกับภาวะหุ้นตกได้ แต่ก็เชื่อว่าในวันนี้คงไม่ถึงขั้นที่จะต้องนำมาใช้

ด้านนายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นยังมีความไม่แน่นอนสูง แม้จีนจะมีมาตรการออกมาเยอะ และยังไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์นี้จะลากยาวขนาดไหน ซึ่งส่งผลกระทบต่อหุ้นไทยพอสมควร เห็นได้จากเช้านี้ที่มีแรงเทขายเยอะ เนื่องจากเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการส่งออกและรายได้จากการท่องเที่ยวสูง การประเมินเบื้องต้นหากสถานการณ์ยืดเยื้อจะส่งผลให้รายได้จากการท่องเที่ยวลดลงไปทุกๆ 10% จะส่งผลกระทบต่อจีดีพีไทยมากกว่า 1% และอาจจะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี่หดตัวกว่าที่คาด จีดีพีเหลือ 2% จากเดิมที่คาดว่าจีดีพีปีนี้จะขยายตัว 3%

ขณะเดียวกันมองว่า หากสถานการณ์ไม่เลวร้ายไปกว่าเดิม ก็น่าจะส่งผลให้ตลาดหุ้นปรับตัวลดลงไม่มากนัก ส่งผลกระทบกับตลาดหุ้นไทยเพียงช่วงสั้น โดยเชื่อว่าท้ายสุดจะหาวิธีรับมือกับโรคระบาดดังกล่าวได้

อย่างไรก็ตาม มองว่า หุ้นไทยยังถือต่อได้ เพราะแนวโน้มเศรษฐกิจโลกเริ่มมีสัญญาณการฟื้นตัว ขณะที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ระดับต่ำ นักลงทุนควรปรับพอร์ตการลงทุน โดยเน้นถือหุ้นกลุ่ม Defensive หรือหุ้นเชิงรับ เช่น กองรีท กองอสังหาริมทรัพย์ หรือกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน และหุ้นปันผลดีสม่ำเสมอ

ล่าสุดเมื่อเวลา 16.02 น. ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ที่ 1,523.32 จุด ลดลง 46.23 จุด หรือ 2.95% มูลค่าการซื้อขาย 56,445.16 ล้านบาท

Avatar photo