CEO INSIGHT

‘บิ๊กหัวเว่ย’ ลั่น พร้อมรับมือการโจมตีครั้งใหม่จาก ‘สหรัฐ’

“ซีอีโอหัวเว่ย” ประกาศพร้อมต้านทานการโจมตีระลอกใหม่จากสหรัฐ ในปีนี้ หลังจากมีประสบการณ์และบทเรียนที่ได้รับจากปีที่แล้ว ยันขึ้นบัญชีดำ ไม่สะเทือนหัวเว่ย

นายเหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานกรรมการบริหารของหัวเว่ย กล่าวในงานประชุม เวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรัม ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ว่า การใส่ชื่อหัวเว่ยไว้ในบัญชีดำทางการค้าของสหรัฐ (Entity List) ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรมากนักต่อธรุกิจของบริษัท และต้องขอบคุณการแบนของสหรัฐ ที่ทำให้บริษัทได้สร้างทีมที่เก่งและเข้มแข็งขึ้นกว่าเคย

Ren Zhengfei DavosHD

ซีอีโอหัวเว่ยคาดการณ์ว่า รัฐบาลสหรัฐ อาจมองหาช่องทางใหม่ ๆ เพื่อขัดขวางการเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของหัวเว่ย แต่บริษัทได้เตรียมการรับมือแผนการโจมตีทุกรูปแบบไว้เป็นอย่างดี ดังนั้น แม้ว่าปีนี้ สหรัฐ อาจจะยกระดับการโจมตีหัวเว่ยขึ้นไปอีก แต่มองว่าคงไม่ได้รับผลกระทบมากเท่าใดนัก

“หัวเว่ยรู้มาตั้งแต่แรกว่าการก้าวเข้ามาในอุตสาหกรรมที่สหรัฐ ครองแชมป์อยู่เป็นเวลานาน เป็นเรื่องที่ไม่ปลอดภัยนัก เมื่อ 20 ปีก่อน หัวเว่ยจึงได้ทุ่มเงินทั้งหมดที่เหลืออยู่ของบริษัท ณ ตอนนั้น ไปกับการวิจัยและพัฒนา เพื่อให้แน่ใจว่าจะมีแผนสำรองมารองรับอยู่เสมอหากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น”

“เราใช้เงินไปหลายแสนล้านหยวนเพื่อการเตรียมตัวและตั้งรับปัญหาที่อาจเกิดขึ้น และสิ่งที่เราได้กลับมาจากความทุ่มเท คือการรอดพ้นจากการโจมตีครั้งแรกของสหรัฐ เมื่อปีที่แล้ว” ผู้ก่อตั้งวัย 75 ปีกล่าว

833f4100bbbdd4c1df2bdf8a5f11a02656c1315d e1557908942525

ที่สำคัญคือ ตัวเลขการเติบโตขึ้นถึง 18 % ของหัวเว่ยในปี 2562 ที่ผ่านมา ได้แสดงให้เห็นว่าบริษัทไม่ได้แค่อยู่รอด หากแต่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องภายใต้สถานการณ์อันยากลำบาก

ปัจจุบันหัวเว่ยเป็นผู้นำด้านธุรกิจ 5G ของโลก และเป็นเพียงบริษัทเดียวในโลกที่ผลิตทั้งโทรศัพท์มือถือ สถานีฐาน ไฟเบอร์ออฟติก ฮาร์ดแวร์ และซอฟต์แวร์ของ Core Network สำหรับ 5G และยังเป็นบริษัทที่ถือครองสิทธิบัตรของเทคโนโลยี 5G มากเป็นอันดับที่ 1 หรือสัดส่วน 20% ของจำนวนสิทธิบัตร 5G ทั้งหมด

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าหัวเว่ยจะถูกแบน แต่หัวเว่ยยังคงเป็นแฟนตัวยงของแนวทางการบริหารธุรกิจของอเมริกา โดยสาเหตุที่ทำให้หัวเว่ยประสบความสำเร็จในทุกวันนี้ก็เพราะบริษัทมักเรียนรู้การบริหารจัดการมาจากบริษัทอเมริกัน พร้อมกับย้ำว่า สหรัฐควรจะกังวลเรื่องของหัวเว่ย และการเติบโตของหัวเว่ยในระดับโลกให้น้อยลง เพราะเชื่อว่าประชากรหลายพันล้านคนทั่วโลกจะได้รับประโยชน์จากสังคมที่ก้าวหน้าทางเทคโนโลยี

Avatar photo