COLUMNISTS

4 แรงจูงใจ ทำไม? ต้องยกเลิก ‘โซฮอล์ 91’

Avatar photo
6037

หลังจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศยกเลิก “แก๊สโซฮอล์ 91” ในกลางปีนี้ ทำให้เกิดคำถามถึงสาเหตุที่แท้จริง เราแยกแยะออกมาเป็น 4 แรงจูงใจสำคัญ ดังนี้

1. น้ำมันกลุ่มเบนซิน และดีเซล มีรวมกันประมาณ 11 ชนิด มากเกินไป!  มีเสียงเรียกร้องจากปั๊มน้ำมันขนาดกลางถึงเล็ก ซึ่งส่วนใหญ่ มีได้แค่ 5-6 หัวจ่าย หรือขายได้แค่ 5-6 ชนิดน้ำมัน

2. มีความพยายามยกเลิก แก๊สโซฮอล์ 91 มาหลายปี แต่ไม่ใช้วิธีประกาศยกเลิก ใช้การกำหนดโครงสร้างราคาน้ำมันแทน โดยให้ส่วนต่างราคาแก๊สโซฮอล์ 91 กับ แก๊สโซฮอล์ 95 ต่างกัน เพียง 27 สตางค์ต่อลิตร ทำให้คนเทไปใช้แก๊สโซฮอล์ 95 เพราะออกเทนสูงกว่า ทั้งรถเก๋ง-รถมอเตอร์ไซค์ โดยราคาน้ำมัน ณ วันนี้ ( 25 ม.ค.) แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 25.98 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 26.25 บาทต่อลิตร

3. ไม่เลือกยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 95 เพราะรถกลุ่มนี้ต้องไปใช้เบนซิน ออกเทน 95 แทน ซึ่งราคาแพงกว่า 7 บาทต่อลิตร โดยประเมินว่าเป็นภาระมากเกินไป โดยราคาน้ำมันเบนซิน ณ วันนี้ อยู่ที่ 33.66 บาทต่อลิตร ขณะที่ แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 26.25 บาทต่อลิตร

4.ไม่ยกเลิก แก๊สโซฮอล์ E 85 เพราะ น้ำมันชนิดนี้เปรียบเสมือนสัญลักษณ์การเดินหน้าเชื้อเพลิงพลังงานทดแทน ยอดการใช้ปี 2562 ที่ปริมาณ 1.3 ล้านลิตรต่อวัน ต้องปล่อยให้การใช้น้อยลงไปถึงจุดหนึ่ง อาจมีการพิจารณายกเลิกในอนาคต

DSC 9386

การประกาศครั้งนี้ของนายสนธิรัตน์ ยังมาพร้อม ประกาศให้ “แก๊สโซฮอล์ E 20”  เป็นน้ำมันเบนซินเกรดมาตรฐาน เรื่องนี้มี 2 ประเด็น คือ

1. นายสนธิรัตน์ มีนโยบายจะดึงราคามันสำปะหลังขึ้นให้จงได้ ขออีกผลงานระรัวๆๆ

โดยแนวทางนี้ เขาต้องการเดินตามรอย ปาล์ม และน้ำมันปาล์มดิบ (CPO ) ที่เคยมีราคาตกต่ำ แต่สามารถดึงราคาให้สูงขึ้น ด้วยการดูดส่วนเกิน มาเป็นพลังงาน ประกาศให้ดีเซล B 10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐาน

ทำให้ยอดการใช้ CPO พุ่งสูงขึ้นไปโดยปริยาย เขาจึงต้องการทำในทำนองเดียวกัน กับราคามันสำปะหลัง ที่วันนี้ราคาต่ำเตี้ยเหลือ 2 บาทเศษต่อกก.เท่านั้น โดยให้แก๊สโซฮอล์ E 20 เป็นน้ำมันเบนซินเกรดมาตรฐาน เพื่อดึงการใช้เอทานอลให้สูงขึ้น ซึ่ง 27% ของปริมาณเอทานอลที่ผลิตทั้งหมด ทำมาจากมันสำปะหลัง

ARC 3857 1

2.สถานการณ์การใช้ แก๊สโซฮอล์ E 20 ทุกวันนี้ คือ คนใช้น้อย !

โดยกระทรวงพลังงาน ได้ยืนยันจากผลการศึกษา และติดตามพฤติกรรม คนเติมน้ำมันมาหลายปี พบว่า รถเก๋ง รุ่นหลังปี ค.ศ. 2008 ที่ออกมา 3.3 ล้านคัน ใช้แก๊สโซฮอล์ E 20 ได้ แต่ไม่ใช้! ส่วนมอเตอร์ไซค์ ที่มีอยู่ 14.4 ล้านคัน 80% ใช้ แก๊สโซฮอล์ E 20 ได้ แต่ไม่ใช้ !

เอาเป็นว่า 78 % ของรถที่ใช้ แก๊สโซฮอล์ E20 ได้ แต่ไม่ใช้ !  แม้ราคาจะแสนถูก ราคาวันนี้ 23.24 บาทต่อลิตร ถูกกว่า แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ 3.01 บาทต่อลิตร ถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ 2.74 บาทต่อลิตร

สาเหตุ “ไม่ใช้” เพราะ ส่วนใหญ่เห็นว่า “แก๊สโซฮอล์ E 20” ทำให้เครื่อง “อืด” ต้องการ “เครื่องแรงสุดๆ” เลยเทไปใช้แก๊สโซฮอล์ 91 และ 95 กันหมด โดยปี 2562 ยอดการใช้ แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 10 ล้านลิตรต่อวัน แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 13.9 ล้านลิตรต่อวัน แก๊สโซฮอล์ E 20 อยู่ที่ 6.5 ล้านลิตรต่อวัน

การประกาศนโยบายของนายสนธิรัตน์ ครั้งนี้มี 2 เรื่องแต่เชื่อมโยงกันอยู่ ทั้งการยกเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ E20 แต่ประเด็นใหญ่ที่ต้องให้ความสำคัญนอกจากประกาศฟันธง คือ จะตอบคำถาม “แฟนคลับแก๊สโซฮอล์ 91 “ อย่างไร แยกเป็น 2 เรื่อง ดังนี้

1. การที่คนใช้ แก๊สโซฮอล์ 91 มาใช้ แก๊สโซฮอล์ 95 แทน ภาระเพิ่มขึ้น 27 สตางค์ ทำอย่างไรไม่ให้มีภาระเพิ่ม ก็อาจแก้โดยให้แก๊สโซฮอล์ 95 ที่จะไปใช้ทดแทน ต้องปรับราคาลง ? แต่หากจุงใจ ให้หันมาใช้แก๊สโซฮอล์ E 20 ได้ ก็หมดปัญหา 

2.แก๊สโซฮอล์ E20 ที่ไม่ใช้กันนั้น ต้องหาสาเหตุให้เจอ และแก้ที่สาเหตุ นั่นคือ “ใช้แล้วเครื่องไม่แรง” ทำอย่างไรให้ “แรง!!ประหนึ่งเติมแก๊สโซฮอล์ 95 โดยไม่ต้องควักเงินในกระเป๋าเพิ่ม

ทำ 2 เรื่องนี้ได้ “เสียงบ่น” ก็จะน้อยลง โดยระหว่าง 6 เดือนนี้ ก่อนการประกาศมีผลจริง กระทรวงพลังงาน คงต้องทำงานร่วมกับหลายภาคส่วน โดยเฉพาะโรงกลั่นน้ำมัน เพราะน้ำมันพื้นฐานผลิตแก๊สโซฮอล์ 91 หรือ G-Base 1 ต้องปรับเป็น G-Base พิเศษรองรับ แก๊สโซฮอล์ E 20 ที่จะมีการใช้มากขึ้น และทำงานกับค่ายรถยนต์ เพื่อตอกย้ำใช้ “แก๊สโซฮอล์ E20” 

IMG 20190723 164128

หากประกาศไปปังๆ แล้วไม่มีมาตรการสนับสนุนเลย ผู้ใช้แก๊สโซฮอล์อาจ บ่นดังๆ เพราะจากตัวเลขกรมธุรกิจพลังงานที่โชว์ว่าในปี 2562 ยอดการใช้ แก๊สโซฮอล์ 91 ไม่น้อยเลยทีเดียว อยู่ที่ 9.6 ล้านลิตรต่อวัน ยอดนี้ต้องเทไปใช้แก๊สโซฮอล์ 95 หรือ แก๊สโซฮอล์ E 20 จะทำได้ ก็ต้องมีมาตรการจูงใจกันหน่อย

สำหรับกำลังการผลิตเอทานอล นายสนธิรัตน์ มั่นอกมั่นใจว่า มีเพียงพอ รองรับแก๊สโซฮอล์ E 20 ที่จะเป็นน้ำมันเกรดมาตรฐานในกลางปีนี้ เพราะปัจจุบันมีโรงงานผลิตเอทานอล จำนวน 26 แห่ง กำลังการผลิตรวม 5.915 ล้านลิตรต่อวัน ผลิตจากกากน้ำตาล 11 แห่ง กำลังการผลิต 2.66 ล้านลิตรต่อวัน มันสำปะหลัง 10 แห่ง กำลังผลิต 2.21 ล้านลิตรต่อวัน โรงงานประเภทไฮบริด หรือผลิตได้ทั้งกากน้ำตาล และมันสำปะหลัง 5 แห่ง กำลังผลิต 1.05 ล้านลิตรต่อวัน และกำลังเปิดใหม่อีก 2 แห่งในเร็วๆนี้

เอาเป็นว่ากำลังการผลิตหายห่วง!! ก็เหลือดูแลแฟนคลับแก๊สโซฮอล์ 91 จะทำอย่างไรให้เขาเปลี่ยน เป็นแฟนคลับ “แก๊สโซฮอล์ E 20 หรือ แก๊สโซฮอล์ 95 ” แทน