ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายเช้าวันนี้ (23 ม.ค.) ปรับตัวลดลง เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน เปิดเผยยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดในจีนเพิ่มขึ้นเป็น 571 ราย ส่วนยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 ราย
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 23,900.94 จุด ลดลง 130.41 จุด หรือ 0.54% ดัชนีฮั่งเส็ง ของฮ่องกงที่ 28,065.28 จุด ลดลง 275.76 จุด หรือ 0.97% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 3,037.69 จุด ลดลง 23.06 จุด หรือ 0.75% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 3,256.72 จุด เพิ่มขึ้น 2.79 จุด หรือ 0.09%
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (22 ม.ค.) ที่ 29,186.27 จุด ลดลง 9.77 จุด หรือ 0.03% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,321.75 จุด เพิ่มขึ้น 0.96 จุด หรือ 0.03% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 9,383.77 จุด เพิ่มขึ้น 12.96 จุด หรือ 0.14%
วันนี้ จีนสั่งระงับการบริการขนส่งสาธารณะขาออกทั้งทางบก และทางอากาศของเมืองอู่ฮั่นทั้งหมด โดยมีเป้าหมายเพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ซึ่งถูกระบุว่ามีต้นกำเนิดมาจากเมืองนี้ ทั้งยังเรียกร้องไม่ให้ชาวเมืองอู่ฮั่นเดินทางออกจากเมือง ยกเว้นในกรณีที่จำเป็น
การเคลื่อนไหวดังกล่าวยังเกิดขึ้น หลังสหรัฐยืนยันว่า พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นครั้งแรกในประเทศ เป็นชาวอเมริกันที่อยู่ในช่วงอายุ 30 ซึ่งเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่นของจีน และกลับมายังสหรัฐเมื่อวันพุธที่ 15 มกราคม ถือเป็นการพบครั้งแรกในประเทศที่อยู่นอกเอเชีย
ส่วนราคาน้ำมันดิบสหรัฐ ซื้อขายในเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ร่วงลงมาถึง 1.69% ที่ 55.78 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 1.55% ที่ 62.26 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล หลังสถาบันปิโตรเลียม อเมริกัน เผยว่า ปริมาณน้ำมันดิบสำรองของสหรัฐ เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1.6 ล้านบาร์เรลเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สูงกว่าที่นักลงทุนคาดไว้