พลังงาน วาง 3 มาตรการ ดึงเทคนิคสุดล้ำ สแกน DNA ปาล์มไทย ป้องกันลักลอบนำเข้า CPO จากต่างประเทศ ขู่เจอปาล์มนอกโทษหนัก
วันนี้ (22 มค. 63) นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ประกาศมาตรการ ป้องกันการลักลอบนำเข้าน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) จากต่างประเทศ เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบของไทย มีราคาสูงกว่าประเทศเพื่อนบ้าน ราคาผลปาล์มขึ้นไปถึง 7.80 บาทต่อกก. ขณะที่ CPO ราคา 38 บาทต่อกก.
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า กระทรวงพลังงานได้วาง 3 มาตรการป้องกันการลักลอบนำเข้า CPO จากต่างประเทศ มาตรการแรก นำเครื่องมือทดสอบทางเคมีในห้อง Lab มาสุ่มตรวจโรงงานไบโอดีเซล 100 % หรือ B 100 ซึ่งเทคนิคนี้ จะช่วยบ่งชี้แหล่งที่มาของ CPO ที่นำมาผลิต B 100 ว่าเป็นของไทยหรือไม่
เพราะโครงสร้างของ CPO ไทยจะไม่เหมือนกับต่างประเทศ เหมือนกับเราตรวจสอบ DNA CPO ไทย โดยจากการทดสอบประสิทธิภาพเทคนิคนี้ พบว่ามีความแม่นยำ 95% และหากพบว่าไม่ใช่ CPO ของไทย ก็สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ โดยจะเริ่มดำเนินการในไตรมาส 2 นี้ ใช้เงินประมาณชุดละ 3-5 ล้านบาท
มาตรการที่สอง เป็นการติดตั้งมิเตอร์ ที่เรียกว่า Automatic Tank Gauge ( ATG ) ที่แท้งก์ B 100 และเชื่อมโยงเข้ากับศูนย์สั่งการส่วนกลาง เพื่อติดตามปริมาณ B 100 แบบ Real time ให้มั่นใจว่าจะมีสต็อก B 100 เพียงพอ ถือเป็นการทำงานเชิงรุก จากเดิมต้องรอให้มีการรายงานสต็อกเข้ามา และมาตรการที่ 3 จะประกาศรายละเอียดในอีก 2 เดือนนี้
” มาตรการทั้งหมด เพื่อทำให้มั่นใจว่าทุกหยดของ ดีเซล B 7 B 10 และ B 20 ผลิตจาก CPO ของไทย หากพบว่าเป็นการนำ CPO ลักลอบนำเข้าเราจะ Reject B 100 ทันที และส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย แต่เราก็มั่นใจว่ามาตรการนี้จะปรามไม่ให้มีใครทำผิด และยังเป็นมาตรการที่จะช่วยดูแลมาตรฐานของ B 100 ด้วย ”
สำหรับสต็อกน้ำมัน B100 นั้นปัจจุบันมีอยู่ 120 ล้านลิตร มียอดการใช้อยู่ 5 ล้านลิตรต่อวัน หากทุกปั๊มขายดีเซล B 10 ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ จะทำให้ยอดการใช้พุ่งเป็น 7 ล้านลิตรต่อวัน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ผลิต B 100 จำนวน 13 บริษัท 14 คลัง 76 ถังเก็บ กำลังทำการจัดซื้อผ่านงบประมาณปี 2563 และทะยอยติดมิเตอร์ ติดไปแล้ว 42 ถังเก็บเหลือ 34 ถังเก็บ คาดว่าจะติดแล้วเสร็จในเดือนตุลาคม 2563
นายสนธิรัตน์ ย้ำว่ามาตรการนี้ถือเป็นการปฏิรูปครั้งใหญ่ เป็นการเปลี่ยนแปลงกลไกสินค้าเกษตรได้อย่างดี เพราะที่ผ่านมา เราไม่เคยมีการใช้เครื่องมือใหม่ๆมาใช้ในการดูแลการลักลอบนำเข้าพืชเกษตร ซึ่งสินค้าเกษตร ไม่มีพาสปอร์ต ไม่สามารถระบุได้ว่ามาจากไหน ทำให้เกษตรกรไทยเดือดร้อน โดยปาล์มเป็นผลผลิตแรก หากได้ผลดีตามเป้าหมาย จะนำไปใช้กับพืชอื่น อาทิ ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ขณะเดียวกันกระทรวงพาณิชย์ ยังสามารถนำเทคนิคนี้ไปใช้ในการดูแลสินค้าอุปโภคบริโภคได้ด้วย