ตลาดหุ้นสหรัฐ ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (21 ม.ค.) ปรับตัวลดลง ในการเคลื่อนไหวที่นักวิเคราะห์ชี้ว่า เป็นการปรับฐานการลงทุน หลังจากที่ดัชนีหลักพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทั้งยังเจอแรงกดดันจากถ้อยแถลงของรัฐมนตรีคลังอเมริกัน ในเรื่องการค้ากับจีน
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ที่ 29,313.10 จุด ลดลง 35.00 จุด หรือ 0.12% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ที่ 3,322.96 จุด ขยับลงมา 6.66 จุด หรือ 0.20% และดัชนีแนสแด็กที่ 9,382.02 จุด ลดลง 6.93 จุด หรือ 0.07%
นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังของสหรัฐ กล่าวว่า ข้อตกลงการค้า ส่วนที่ 2 ที่สหรัฐและจีนจะเปิดเจรจากันนั้น อาจจะไม่มีการลดภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนทั้งหมด แต่จะใช้วิธีค่อยๆ ลดการจัดเก็บไปทีละส่วนๆ
ท่าทีดังกล่าวเป็นไปตามที่นายมนูชิน เคยบอกไว้เมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า สหรัฐจะปรับลดอัตราภาษีสินค้านำเข้าจากจีนในข้อตกลงการค้าส่วนที่ 2 ที่จะถูกแบ่งออกเป็นหลายรอบด้วยกัน
ตลาดยังตกอยู่ภายใต้ความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หลังจีน ศูนย์กลางของการระบาด ออกมายืนยันในวันนี้ว่า ไวรัสสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ ซึ่งนักวิเคราะห์ชี้ว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจอย่างรุนแรง หากผู้บริโภคเกิดความตื่นตระหนก
ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลก (ฮู) มีกำหนดประชุมฉุกเฉินในวันพรุ่งนี้ (22 ม.ค.) ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ เพื่อหารือว่าจะออกคำเตือนระดับโลก ที่เกี่ยวกับไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้หรือไม่ ท่ามกลางการรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 6 ราย
นักลงทุนยังวิตกเกี่ยวกับเศรษฐกิจโลกด้วย หลังจากที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ประกาลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ลงมาอยู่ที่ระดับ 3.3% จากเดิมที่ประเมินไว้ที่ 3.4%
