Technology

ขยายผล ‘Mobile ID’ ติดต่อ 3 หน่วยงานรัฐไม่ต้องพกบัตรประชาชน

กสทช. จับมือ กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก สำนักงานประกันสังคม ต่อยอดพัฒนาระบบ Mobile ID หรือบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ พัฒนาการให้บริการ ประชาชน ส่งเสริมการใช้ดิจิทัลไอดีในอนาคต

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และ กิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยกำลังเตรียมการพัฒนาประเทศไปสู่ยุคสังคมเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในฝั่งการให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เริ่มมีภาคการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง การดูแลความปลอดภัยส่วนบุคคลจึงมีความสำคัญมากขึ้น

048A4161

ที่ผ่านมาสำนักงาน กสทช. ได้พัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือที่เรียกในชื่อ Mobile ID หรือเรียกว่า “แทนบัตร” โดยเริ่มทดสอบกับบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (AWN) และธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) เพื่อเตรียมรองรับการทำธุรกรรมยุคดิจิทัลให้มีความสะดวก และปลอดภัย

ล่าสุด กสทช. มีความพร้อมที่จะขยายการให้บริการ Mobile ID ในระยะทดสอบไปยังหน่วยงานภาครัฐ ได้แก่ กรมการปกครอง กรมการขนส่งทางบก และสำนักงานประกันสังคม โดยร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) เรื่อง การพัฒนาระบบการพิสูจน์และยืนยันตัวตนด้วยรูปแบบบัตรประจำตัวอิเล็กทรอนิกส์บนโทรศัพท์เคลื่อนที่ เพื่อร่วมกันพัฒนาการให้บริการกับประชาชนและส่งเสริมการใช้ดิจิทัลไอดีในอนาคต

“การร่วมมือกันครั้งนี้ จะทำให้ประชาชนจะสามารถทำธุรกรรมกับหน่วยงานภาครัฐโดยใช้ Mobile ID แทนบัตรประชาชน และหน่วยงานภาครัฐสามารถนำระบบ Mobile ID ไปให้บริการประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น” นายฐากร กล่าว

สำหรับรูปแบบการใช้งานระบบ Mobile ID นั้น เบื้องต้นจะสามารถใช้ได้กับผู้ใช้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เครือข่ายเอไอเอส โดยในระยะทดสอบจะมีการทดลองการลงทะเบียนสมัครใช้ที่ศูนย์บริการ จากนั้นจะมีการสร้างรหัสคิวอาร์โค้ดส่วนบุคคลซึ่งมีข้อมูล ชื่อ นามสกุล เลขบัตรประจำตัวประชาชน หมายเลขโทรศัพท์เคลื่อนที่ และรหัสใบหน้า

048A4381

นอกจากนี้ จะมีการทดสอบทดลองการใช้ Mobile ID ในการเข้าทำธุรกรรมที่ธนาคารกรุงเทพ โดยใช้ข้อมูลในคิวอาร์โค้ดเปรียบเทียบกับข้อมูลภาพใบหน้าจริงเพื่อยืนยันว่าเป็นบุคคลเดียวกัน ซึ่งจะส่งผลประโยชน์โดยตรงในการพิสูจน์และยืนยันตัวบุคคลยังเป็นการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลของผู้ใช้บริการด้วย โดยจะมีการทดสอบทดลองภายในระหว่างเอไอเอสและธนาคารกรุงเทพก่อนจากนั้นจะประเมินผลก่อนเปิดให้บริการกับประชาชนต่อไป

นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การเข้าร่วมพัฒนาโครงการ Mobile ID ครั้งนี้ จะใช้ประโยชน์สำหรับการพัฒนาการให้บริการประชาชนในด้านต่าง ๆ เช่น การออกใบอนุญาตขับรถ การดำเนินการทางทะเบียนรถบางประเภท และการทำธุรกรรมต่างๆ กับกรมการขนส่งทางบก

“ต่อไปในอนาคตกรมการขนส่งทางบกจะพิจารณานำระบบ Mobile ID ไปพัฒนาต่อยอดเพื่อพิสูจน์และยืนยันตัวตนในการขอใบอนุญาตขับรถอิเล็กทรอนิกส์ (QR License) อย่างเต็มรูปแบบต่อไป รวมถึงการนำไปต่อยอดสู่การพัฒนาในด้านอื่นๆ เช่น Blockchain เป็นต้น”นายจิรุตม์กล่าว

048A4414

 

นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า โครงการ Mobile ID นี้ ถือว่าเป็นพื้นฐานที่สำคัญในการให้บริการด้านต่างๆ ด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ และอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในการเข้าถึงสิทธิประกันสังคมให้เร็วขึ้น ง่ายขึ้น ทุกที่ ทุกเวลา ตลอดจนสามารถลดเอกสารที่จำเป็นต้องใช้ลงได้โดยเฉพาะบัตรประจำตัวประชาชน โดยการพิสูจน์และยืนยันตัวตนนั้น จะสามารถยืนยันความเป็นเจ้าของสิทธิ์ที่แท้จริงได้ สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนในการรับบริการต่างๆจากสำนักงานประกันสังคม

นายวีนัส สีสุข รองอธิบดีกรมการปกครอง กล่าวว่า กรมการปกครองถือเป็นศูนย์ข้อมูลทะเบียนราษฎรของประชาชนทั้งประเทศ การดำเนินงานร่วมกับสำนักงาน กสทช. ถือเป็นโอกาสอันดีที่จะมีการเชื่อมโยงข้อมูลร่วมกัน และการใช้ Mobile ID จะสามารถยืนยันตัวตนของประชาชนที่มาใช้บริการกับกรมการปกครองได้อย่างถูกต้อง ถือเป็นก้าวแรกในการเริ่มทำธุรกรรมโดยไม่ต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชน ทั้งยังจะสามารถให้บริการประชาชนผ่านช่องทางออนไลน์ได้มากขึ้น

นายกึกก้อง รักเผ่าพันธุ์ รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในระยะแรกธนาคารจะเริ่มทดลองระบบ Mobile ID ในส่วนหนึ่งของขั้นตอนการเปิดบัญชีเงินฝากธนาคาร โดยมีสาขาที่เข้าร่วมโครงการ จำนวน 10 สาขา หากผลการทดสอบเป็นที่น่าพอใจ ธนาคารจะพิจารณาในการให้บริการแก่ลูกค้าทั่วไป ซึ่งคาดว่าจะเป็นช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2563

Avatar photo