ตลาดหุ้นเอเชีย ซื้อขายช่วงเช้าวันนี้ (20 ม.ค.) ปรับตัวสูงขึ้นเป็นส่วนใหญ่ ตามการทำนิวไฮรอบใหม่ของหุ้นสหรัฐเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (17 ม.ค.) แรงหนุนจากข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่แข็งแกร่ง
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดมาอยู่ที่ 24,090.02 จุด เพิ่มขึ้น 48.76 จุด หรือ 0.20% ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกงที่ 29,029.58 จุด ลดลง 26.84 จุด หรือ 0.09% ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีนที่ 3,082.32 จุด ขยับขึ้นมา 6.83 จุด หรือ 0.22% และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ที่ 3,277.93 จุด ลดลง 3.10 จุด หรือ 0.09%
เมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,348.10 จุด เพิ่มขึ้น 50.46 จุด หรือ 0.17%, ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,329.62 จุด เพิ่มขึ้น 12.81 จุด หรือ 0.39% และดัชนีแนสแด็ก ปิดที่ 9,388.94 จุด เพิ่มขึ้น 31.81 จุด หรือ 0.34%
ตลาดปรับตัวขึ้นขานรับการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐและจีน โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านพุ่งขึ้น 16.9% ในเดือนธันวาคม เมื่อเทียบรายเดือนที่ 1.608 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2549 และเพิ่มขึ้นในอัตราสูงสุดนับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2559 จากระดับ 1.375 ล้านยูนิตในเดือนพฤศจิกายน โดยได้ปัจจัยหนุนจากอัตราดอกเบี้ยเงินกู้จำนองในระดับต่ำ
นอกจากนี้ สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน ยังเปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขยายตัว 6.1% ในปีที่แล้ว ซึ่งสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ขณะที่การผลิตภาคอุตสาหกรรมขยายตัวสูงกว่าาที่คาดการณ์ไว้
ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดเอเชียเช้าวันนี้ พุ่งสูงขึ้น หลังจากที่บ่อน้ำมันทางตะวันตกเฉียงใต้ของลิเบียปิดดำเนินการลง เนื่องจากกองกำลังติดอาวุธเข้าปิดท่อขนส่งน้ำมัน และท่าเรือขนส่งน้ำมันหลายแห่ง ซึ่งจะทำให้ผลผลิตน้ำมันของลิเบียเหลือไม่มากนัก
ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ เคลื่อนไหวล่าสุดเพิ่มขึ้น 79 เซนต์ หรือ 1.2% มาอยู่ที่ 65.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ปรับขึ้น 67 เซนต์ หรือ 1.0% ที่ 59.21 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ส่วนราคาทองคำทรงตัวที่ระดับ 1,557.75 ดอลลาร์ต่อออนซ์
