Economics

เศรษฐกิจพ่นพิษ ตรุษจีนปีชวด ‘แต๊ะเอีย’ ลดลง

เทศกาลตรุษจีนปีนี้ ตรงกับวันที่ 25 มกราคม 2563 ถือเป็นปีหนึ่งที่ภาคธุรกิจที่เกี่ยวข้อง เผชิญความท้าทายจากปัจจัยด้านกำลังซื้อ ที่เป็นข้อจำกัดของการใช้จ่ายในทุกกิจกรรม โดยเฉพาะการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ ถือเป็นกิจกรรมที่สำคัญที่สุด ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่อาจน้อยกว่ากิจกรรมด้านอื่นๆ

นอกจากนี้ ประเด็นด้านภัยแล้ง หากส่งผลกระทบต่อราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น มากกว่าการปรับขึ้นโดยปกติในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีก่อนๆ ซึ่งธุรกิจที่เกี่ยวกับเครื่องเซ่นไหว้ จำเป็นต้องวางแผนรับมือความท้าทายด้านกำลังซื้อ และความความอ่อนไหวด้านราคาโดยเฉพาะกลุ่มผู้ซื้อระดับรายได้ปานกลาง

ตรุษจีน11

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดว่าเม็ดเงินใช้จ่ายของคนกรุงเทพฯ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2563 จะอยู่ที่ประมาณ 13,150 ล้านบาท ลดลง 3.0% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน โดยภาวะกำลังซื้อไม่เอื้ออำนวยเหมือนเช่นปีก่อนๆ ส่งผลให้เม็ดเงินค่าใช้จ่ายในกิจกรรมมีความสำคัญน้อย มีสัดส่วนการหดตัวในอัตราที่ค่อนข้างสูง มีผลอย่างมีนัยสำคัญต่อเม็ดเงินค่าใช้จ่ายรวม ได้แก่ เงินค่าใช้จ่าย ท่องเที่ยว/ทำบุญ

ขณะที่เม็ดเงินแจกแต๊ะเอีย  ปรับลดลงทั้งจำนวนคนที่ให้ และจำนวนเงินเฉลี่ยต่อคน คาดกระทบต่อความคึกคักของธุรกิจที่พึ่งเม็ดเงินส่วนนี้ อาทิ ธุรกิจค้าปลีก ร้านอาหารและร้านทอง  ในส่วนของค่าใช้จ่ายเครื่องเซ่นไหว้ แม้ว่าจะเป็นกิจกรรมหลักของเทศกาล ก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน แต่ในสัดส่วนที่น้อยกว่ากิจกรรมอื่นๆ เนื่องจากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ถูกตัดทอนลงจนเหลือเท่าที่จำเป็น

ChineseSpending P01 01

จากผลสำรวจที่เกิดขึ้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จึงประเมินเม็ดเงินค่าใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2563 ของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่กรุงเทพฯ แยกเป็นเม็ดเงินที่เกี่ยวกับเครื่องเซ่นไหว้ 5,900 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายท่องเที่ยว/ทำบุญ 3,750 ล้านบาท และเงินค่าแต๊ะเอีย 3,500 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม เทศกาลตรุษจีนในปีนี้ ประเด็นที่ภาคธุรกิจโดยเฉพาะการจำหน่ายเครื่องเซ่นไหว้ ถือเป็นธุรกิจที่ได้รับอานิสงส์จากเม็ดเงินใช้จ่ายช่วงเทศกาลตรุษจีนมากที่สุด ต้องจับตาเพิ่มเติมก็คือ ปัญหาภาวะภัยแล้งในปีนี้ที่ค่อนข้างรุนแรง  หากส่งผลให้ราคาสินค้าในกลุ่มอาหารประเภทเนื้อสัตว์และผลไม้ เพิ่มขึ้นสูงกว่าการปรับราคาในช่วงเทศกาลปีก่อนๆ (ปกติราคาเครื่องเซ่นไหว้ประเภทผลไม้จะปรับสูงขึ้นประมาณ15-20% ก่อนเทศกาลตรุษจีน ขณะที่ราคาเนื้อสัตว์อาจปรับขึ้นน้อยกว่า)

จากการติดตามประเมินสถานการณ์ภัยแล้งในปีนี้ พบว่าระดับความรุนแรงใกล้เคียงกับปี 2558  ในปีดังกล่าวราคาผลไม้ที่นิยมใช้เซ่นไหว้ปรับสูงขึ้นก่อนช่วงเทศกาลถึง 25-30%  คาดว่าราคาผลไม้บางรายการในปีนี้จะปรับสูงขึ้นมากกว่าช่วงตรุษจีนปี ก่อนๆ ที่ไม่มีภัยแล้ง สำหรับในส่วนของเนื้อสัตว์นั้นน่าจะปรับเพิ่มขึ้นเช่นกัน เนื่องจากความต้องการจากทั้งในและต่างประเทศที่สูง ภายหลังการเกิดโรคระบาดในสุกรในหลายประเทศ

ChineseSpending P02 011

ทั้งนี้ราคาสินค้าที่อาจปรับขึ้นสูงกว่าปกติ อาจไม่ส่งผลกระทบต่อกลุมผู้บริโภคที่มีรายได้สูง หรือกลุ่มที่ได้เตรียมงบประมาณไว้แล้ว กลุ่มนี้ มีสัดส่วน 53.7% ของกลุ่มที่ตอบแบบสอบถาม แต่ปัจจัยดังกล่าว จะมีผลสำหรับกลุ่มที่มีรายได้ปานกลางซึ่งมีสัดส่วน 46.3% โดยกลุ่มนี้เลือกที่จะปรับลดงบประมาณในสินค้าทุกกลุ่ม ทั้งเนื้อสัตว์ผัก/ผลไม้ ขนม ส่งผลให้ภาคธุรกิจอาจจำเป็นต้องเพิ่มความระมัดระวัง ในการตั้งราคาสินค้า ที่ต้องสื่อให้เห็นถึงความประหยัดคุ้มค่าคุ้มราคา

เทศกาลตรุษจีนในปีนี้ แม้ว่าหลายๆ ปัจจัยจะบ่งชี้ ว่าเม็ดเงินที่ใช้อาจให้ภาพไม่สดใสเช่นปี ก่อนๆแต่ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทศกาล ยังคงสนใจที่จะเข้าสู่ตลาด โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องเซ่นไหว้ เกี่ยวข้องกับธุรกิจที่หลากหลายและมียอดขายในช่วงสั้นๆ ก่อนเทศกาลเกือบ 6 พันล้านบาท ทั้งในส่วนของร้านค้าทั่วไป/ตลาดสด ร้านค้าปลีกสมัยใหม่ โดยปีนี้น่าจะเห็นการจัดกิจกรรมกระตุ้นยอดขายของร้านค้าต่างๆ ผ่านกลยุทธ์การจัดเตรียมเครื่องเซ่นไหว้ที่หลากหลายราคา เพื่อรับมือกับภาวะก าลังซื้ อที่ชะลอตัวลง

Avatar photo
ทีมบรรณาธิการข่าว The Bangkok Insight