7 มาตรการกฟผ. ร่วมลดฝุ่น PM 2.5 เร่งรณรงค์ชุมชนรอบเขื่อน และโรงไฟฟ้า ห้ามจุดไฟเผาป่า-วัชพืช พร้อมให้ความร่วมมือทุกภาคส่วน บรรเทาสถานการณ์ฝุ่นประเทศ
นายวิบูลย์ ฤกษ์ศิระทัย ผู้ว่าการ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า หลายพื้นที่ของประเทศไทย กำลังเผชิญสภาวะฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศสะสมเกินค่ามาตรฐาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยมีสาเหตุมาจากไอเสียที่ปล่อยออกมาจากยานพาหนะ การเผาในที่โล่ง การใช้ฟืนถ่านในการหุงต้ม ควันธูป รวมทั้งโรงงานอุตสาหกรรมที่ไม่มีระบบควบคุมมลพิษ
ทางกฟผ. ได้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด และมีมาตรการให้กับโรงไฟฟ้าและเขื่อน ของ กฟผ. ทั่วประเทศดำเนินการอย่างเร่งด่วน เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาฝุ่นให้กับชุมชนโดยรอบพื้นที่ กฟผ. เป็นส่วนหนึ่งในการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองของประเทศ
โดยได้ออก 7 มาตรการป้องกัน ดังนี้
1.รณรงค์ประชาชนรอบเขื่อน และโรงไฟฟ้า ห้ามจุดไฟเผาป่า และวัชพืช
2.กฟผ. ร่วมกับชุมชนจัดตั้งทีมเฝ้าระวังไฟป่า เพื่อร่วมกันทำแนวกันไฟป่า และจัดทีมดับไฟป่า ปฏิบัติภารกิจดับไฟป่าให้สงบลงได้อย่างรวดเร็ว
3.จัดโครงการสร้างฝายชะลอน้ำรอบพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผืนป่า และลดโอกาสของการเกิดไฟป่า
4. เปิดระบบพ่นละอองไอน้ำบนยอดตึก 20 ชั้นของ กฟผ ในบริเวณสำนักงานใหญ่ กฟผ. จังหวัดนนทบุรี
โดยระบบดังกล่าว มีลักษณะเป็นหัวฉีดพ่นละอองไอน้ำจำนวนประมาณ 1,000 หัว และใช้น้ำประปาที่ผ่านเครื่องกรองมาฉีดพ่น เปิดทำงานวันละ 3 ช่วงเวลา ช่วงละ 2 – 3 ชั่วโมง จะเปิดระบบอย่างต่อเนื่อง จนกว่าสถานการณ์ฝุ่นจะคลี่คลาย
5. ติดตั้งรถตรวจวัดคุณภาพอากาศ เพื่อเฝ้าระวัง และติดตามสภาพอากาศในพื้นที่อย่างใกล้ชิด 24 ชั่วโมง
6. เตรียมแจกหน้ากากป้องกันฝุ่น ให้กับชุมชนโดยรอบพื้นที่สำนักงานใหญ่ กฟผ. และพนักงาน
7. ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) เพื่อช่วยลดการปล่อยก๊าซ CO2 จากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์ดีเซล
โดยปัจจุบัน กฟผ. มีรถยนต์ไฟฟ้าดัดแปลง รถมินิบัสไฟฟ้า สำหรับใช้รับส่งพนักงาน กฟผ. และประชาชนที่มาศึกษาดูงานในพื้นที่สำนักงาน โรงไฟฟ้า เขื่อน และศูนย์การเรียนรู้ กฟผ. พร้อมติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า จำนวนทั้งสิ้น 23 สถานี รวมถึงพัฒนารถโดยสารประจำทางใช้แล้ว ของ ขสมก. ให้เป็นรถไฟฟ้าต้นแบบ และยังได้ขยายผลไปสู่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าเบอร์ 5
นายวิบูลย์ กล่าวถึงฝุ่นจากโรงไฟฟ้าว่า สาเหตุหลักของการเกิดฝุ่น PM 2.5 ไม่ได้มาจากกระบวนการผลิตไฟฟ้าและโรงไฟฟ้า เนื่องจากปัจจุบันเทคโนโลยีในการผลิตกระแสไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูง รวมทั้งยังมีการติดตั้งระบบดักจับฝุ่นด้วยไฟฟ้าสถิต (ESP) และระบบกำจัดมลสารอื่น ๆ
อย่างไรก็ตามโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทั่วประเทศ จะยังควบคุมดูแลการปลดปล่อยมลสารของโรงไฟฟ้า กฟผ. ให้อยู่ในระดับมาตรฐานของประเทศ และตรวจวัดอย่างต่อเนื่อง
และจากผลการตรวจวัดบริเวณปล่องโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทุกครั้ง พบว่า มีค่าดีกว่าค่ามาตรฐานที่กำหนดไว้ โดยประชาชนสามารถติดตาม และตรวจสอบได้จากป้ายแสดงผลการตรวจวัดคุณภาพอากาศและเว็บไซต์ของโรงไฟฟ้า กฟผ. ในพื้นที่
