Economics

สั่งการ ‘วทบ.’ เร่งบริหารจราจรอากาศ ป้องกัน ‘บินวน’ ใช้เทคโนโลยีแทนคน

“ถาวร” ตรวจเยี่ยมวิทยุการบินฯ มั่นใจศักยภาพไม่แพ้ใครในเอเชีย มอบนโยบายเร่งบริหารการจราจร เพิ่มความคล่องตัว ตรงเวลา ป้องกันการบินวน พร้อมแนะใช้เทคโนโลยีแทนคนลดค่าใช้จ่าย เพิ่มประสิทธิภาพ

นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า จากการเดินทางไปตรวจเยี่ยมและมอบนโยบายบริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) พบว่า บวท.เป็นองค์กรที่ดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทัดเทียมกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค อาทิ จีน เกาหลี และญี่ปุ่น เนื่องจากไทยเป็นศูนย์กลางด้านการจราจรทางอากาศ สอดรับกับปริมาณนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นในแต่ละปีaircraft

ทั้งนี้ ได้มอบนโยบายให้ บวท. ดำเนินการบริหารจราจรทางอากาศ ให้มีความคล่องตัว รวดเร็ว ปลอดภัย ตรงตามเวลา พร้อมทั้งประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พิจารณาการจราจรปลายทางว่า มีความแออัดหรือไม่ ก่อนที่จะทำการบินขึ้นจากสนามบินต้นทาง เพื่อป้องการการบินวนของแต่ละสายการบิน อาทิ ปัญหาที่สนามบินภูเก็ต และสูญเสียรายได้ประมาณ 100 ล้านบาทต่อปี

นอกจากนี้ ยังให้ บวท. พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างองค์กร โดยให้นำเทคโนโลยีมาใช้แทนกำลังคนมากขึ้นในอนาคต เนื่องจากมีความแม่นยำสูง และลดค่าใช้จ่ายลง อาทิ การติดตั้งกล้องและระบบไอที บริเวณหอบังคับการบิน เพื่อควบคุมการบริหารการจราจรทางอากาศ ซึ่งจะสามารถควบคุมได้ครอบคลุมในภูมิภาค เช่น บริหารการจราจรทางอากาศของสนามบินนราธิวาส สนามบินเบตง โดยควบคุมที่สนามบินหาดใหญ่ เป็นต้น

ถาวร
ถาวร เสนเนียม

ในปัจจุบันยอมรับว่า ประเทศไทยอยู่ในสถานการณ์ที่มีปริมาณการจราจรทางอากาศหนาแน่น โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา ปริมาณการจราจรทางอากาศของ 35 สนามบินของไทย เติบโตขึ้นปีละ 10% เฉลี่ยวันละประมาณ 3,000 เที่ยวบิน หรือไม่ต่ำกว่า 1 ล้านเที่ยวบินต่อปี และจะเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัว หรือไม่น้อยกว่า 2 ล้านเที่ยวบินต่อปีภายใน 15 ปี

ขณะที่แนวโน้มอุตสาหกรรมการบินของโลกในอนาคตนั้น จะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) คาดการณ์ว่า ตลาดด้านการบินของไทยและตุรกีจะอยู่ใน 10 อันดับสูงสุดของโลก แทนที่อิตาลีและฝรั่งเศส ภายในปี 2579 ขณะที่ในปี 2565จีนจะขึ้นเป็นอันดับ 1 ของตลาดด้านการบินที่ใหญ่ที่สุดของโลก แทนสหรัฐอเมริกาที่เป็นอันดับ 1 ในในปัจจุบัน หลังจากจีนมีคำสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มเติมกว่า 1,000 ลำ

drone

ในส่วนของเรื่องอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) นั้น ปัจจุบันมีแนวโน้มว่าจะนิยมใช้กันมากขึ้น จึงเตรียมบูรณาการร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) สถาบันการบินพลเรือน (สบพ.) กองทัพอากาศ รวมถึงอากาศยานไร้คนขับให้อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของวิทยุการบินอย่างเต็มรูปแบบ

ขณะเดียวกัน ยังเร่งศึกษา และปรับปรุงระเบียบข้อกฎหมายให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อรองรับการขยายตัวของการใช้โดรนในเชิงพาณิชย์ในอนาคต อาทิ โดรนขนส่งสินค้า และโดรนโดยสารส่วนบุคคลในเส้นทางระยะสั้น เช่น ตรัง-นครศรีธรรมราช, ตรัง-หาดใหญ่, สุวรรณภูมิ-นครปฐม, ดอนเมือง-นครราชสีมา, สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา เป็นต้น

Avatar photo