นักวิจัยในอังกฤษชี้ จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 2 คนในจีน มีแนวโน้มที่จะสูงกว่าตัวเลขอย่างเป็นทางการที่ออกมาหลายเท่า
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน ระบุว่า มีผู้ป่วยด้วยโรคปอดอักเสบ จากเชื้อไวรัส ที่เชื่อว่าเป็นไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศอย่างน้อย 41 คน โดยที่การระเบิดเกิดขึ้นโดยรอบพื้นที่ตลาดขายอาหารทะเลในเมืองอู่ฮั่น ทางตอนกลางของประเทศ
แต่ในรายงานที่จัดทำขึ้นโดยศูนย์เอ็มอาร์ซี เพื่อการวิเคราะห์โรคติดเชื้อโลก แห่งวิทยาลัยอิมพีเรียล ในกรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ระบุว่า จำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองอู่ฮั่นมีแนวโน้มที่จะสูงกว่า 1,000 ราย
บรรดานักวิทยาศาสตร์ที่ศูนย์นี้ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาให้กับหลายหน่วยงาน รวมถึง องค์การอนามัยโลก (ฮู) ประเมินว่า นับถึงวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา จำนวนผู้ติดเชื้่อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในเมืองอู่ฮั่น น่าจะอยู่ที่ 1,723 คน
นักวิจัยเหล่านี้ นำจำนวนผู้ติดเชื้อที่พบนอกประเทศจีน รวมถึง 2 รายในไทย และ 1 รายในญี่ปุ่น มาเป็นฐานอ้างอิงถึงการพิจารณาจำนวนผู้ติดเชื้อในเมืองดังกล่าว บนพื้นฐานของข้อมูลการจราจรทางอากาศ ในเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เดินทางออกจากสนามบินในเมืองอู่ฮั่น
“การที่มีผู้ติดเชื้อ 3 รายเดินทางออกจากเมืองอู่ฮั่นไปยังประเทศอื่นๆ สามารถตั้งสมมติฐานได้ว่า จะต้องมีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่าที่ทางการรายงานไว้” ศาสตราจารย์นีล เฟอร์กูสัน หนึ่งในผู้เขียนรายงานฉบับนี้ ระบุ
ศาสตราจารย์เฟอร์กูสัน บอกด้วยว่า เขามีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของโรคมากขึ้นกว่าที่รู้สึกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ก็ยอมรับว่า ยังเร็วเกินไปที่จะตื่นตกใจ
เขาเตือนด้วยว่า ควรที่จะมีการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ที่จะเกิดการติดเชื้อจากคนสู่คนอย่างจริงจังมากกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้ แต่เห็นพ้องว่า ไม่มีแนวโน้มที่สัตว์จะเป็นแหล่งพาหะหลักของเชื้่อไวรัสชนิดนี้
ทั้งนี้ หลายประเทศพากันเพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินมาตรการป้องกันโรคนี้ รวมถึง การตรวจเช็คอุณหภูมิร่างกายของผู้โดยสารขาเข้า ที่เดินทางมาจากจีน โดยสหรัฐ เป็นประเทศล่าสุด ที่ออกมาประกาศว่า จะเริ่มตรวจสอบผู้โดยสาร ในเที่ยวบินที่มาจากอู่ฮั่น ใน 3 สนามบินด้วยกัน คือ สนามบินซานฟรานซิสโก และเจเอฟเค ในนิวยอร์ก ซึ่งเป็น 2 สนามบินที่มีเที่ยวบินตรงมาจากเมืองอู่ฮั่น และที่สนามบินลอสแองเจลิส ที่เป็นแหล่งต่อเที่ยวบินจำนวนมาก
