แทปไลน์ กับการเติบโตด้านธุรกิจขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ ที่เป็นมิตรต่อทุกภาคส่วน ภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งด้านความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ มีส่วนช่วยลดอุบัติเหตุและปัญหามลพิษ จากสภาพการจราจรที่เกิดจากการขนส่งน้ำมัน ตั้งเป้าผลประกอบการโตขึ้น 20% ในอีก 5 ปี
นายชุมชนิตร จิตต์หมั่น กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่อส่งปิโตรเลียมไทย จำกัด หรือแทปไลน์ กล่าวถึงการดำเนินกิจการมาครบ 30 ปี ว่าบริษัทได้ ขนส่ง น้ำมันทางท่อมาแล้วกว่า 260,000 ล้านลิตร หากเป็นการขนส่งโดยทางรถจะเท่ากับวันละ 1,000 เที่ยว การขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ ช่วยลดมลพิษในอากาศ ที่เกิดจากรถขนส่งได้ถึงปีละ 80,000 ตัน เทียบเท่ากับการปลูกป่ามากถึง 50,000 ไร่ต่อปี
โดยท่อส่งน้ำมัน ของแทปไลน์ ส่งน้ำมันมาจากโรงกลั่น 4 แห่งที่ศรีราชาและระยอง มายังคลังน้ำมันลำลูกกา และคลัง น้ำมันสระบุรี ที่เป็นแหล่งสำรองน้ำมันและศูนย์กลางการจ่ายน้ำมันไปยังพื้นที่อื่นๆ รวมถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานดอนเมือง
สำหรับพื้นที่การส่งน้ำมันของแทปไลน์ ครอบคลุมเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ภาคกลาง ภาคเหนือ ภาคตะวัน ออกเฉียงเหนือ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิและดอนเมือง คิดเป็น 60% ของความต้องการ ส่วนที่เหลือจะเป็นการขนส่งโดยผู้ประกอบการรายอื่นทั้งผู้ประกอบการประเภทท่อส่งน้ำมัน และผู้ประกอบการที่ ขนส่งทางรถบรรทุกน้ำมัน
“แม้ว่ารัฐบาลจะรณรงค์ให้ใช้พลังงานทดแทนมากขึ้น ส่วนตัวแล้วมองว่า อุตสาหกรรมน้ำมันยังมีโอกาส เติบโตได้อีกมาก โดยเฉพาะน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานที่มองว่าน่าจะโตได้อีก 2-3% ในปีหน้า เนื่องจากการเติบโตของอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เมื่อมีคนเดินทางมากขึ้น ปริมาณน้ำมันที่ใช้เติมเครื่องบิน ก็จะเพิ่มขึ้น ” นายชุมชนิตรกล่าว โดยแทปไลน์ตั้งเป้าว่าในปี 2567 การขนส่งน้ำมันทางท่อของบริษัท จะเติบโตขึ้นอีก 20% จากปัจจุบันที่มีปริมาณขนส่งอยู่ที่กว่า 14,000 ล้านลิตรต่อปี
สำหรับการดำเนินงานของแทปไลน์ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา นายชุมชนิตร กล่าวว่า เป็นการดำเนินธุรกิจที่คู่ขนานไปกับสังคมอย่างต่อเนื่อง ที่ผ่านมา มั่นใจได้ว่าแทปไลน์กับชุมชนรอบคลังและแนวท่อ มีความสัมพันธ์ที่ดี สิ่งที่สำคัญ อย่างยิ่ง นอกเหนือจากการแบ่งปันและตอบแทนสังคมแล้ว คือการให้ความรู้เกี่ยวกับระบบขนส่งน้ำมันผ่านระบบท่อ ความรู้เรื่องป้ายสัญญลักษณ์ต่างๆ ตามแนวท่อเพื่อป้องกันและแจ้งเตือนเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินต่างๆ เมื่อชุมชนมีความรู้ ความเข้าใจ ก็จะช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวังแนวท่อให้กับแทปไลน์ได้อีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งความร่วมมือ ระหว่าง แทปไลน์และชุมชนในลักษณะนี้ จะช่วยส่งเสริมกับอุปกรณ์ด้านความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพที่ทางแทปไลน์มี เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับชุมชนและสังคมได้อย่างดียิ่ง
สำหรับกิจกรรมเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมของแทปไลน์ จะเน้นในด้านการสาธารณสุข การศึกษา เยาวชน และสิ่งแวดล้อม เพราะนอกจากแทปไลน์จะดำเนินธุรกิจที่มีผลตอบแทนแล้ว เรายังมีจิตสำนึกที่ต้องร่วมแบ่งปัน และตอบแทนสังคม ตลอดเวลาแห่งความสำเร็จของการดำเนินธุรกิจ ก้าวสู่ปีที่ 30 ในปีนี้ เราตั้งเป้าหมายว่า นอกจาก พื้นที่ที่ตามแนวท่อส่งน้ำมันและคลังน้ำมันทั้ง 2 แห่งของแทปไลน์แล้ว เราจะขยายพื้นที่สำหรับ กิจกรรม ด้านสังคม ให้เป็นวงกว้างขึ้น