General

ฟ้อง ‘จักรทิพย์’ โยกย้ายไม่เป็นธรรม เจอสวนกลับ ‘พฤติกรรม’ เหมาะสมหรือเปล่า

อดีตรองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เดินทางยื่นฟ้องศาลอาญาทุจริตฯ เอาผิดผบ.ตร. “พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา” กล่าวหาโยกย้ายไม่เป็นธรรม ด้านรองโฆษกตำรวจโต้กลับ ทำผิดคำสั่งผู้บังคับบัญชา แถมยังปลุกปั่นคนอื่น เป็นพฤติกรรมเหมาะสมหรือไม่

11111 3

วันนี้ (13 ม.ค.) พ.ต.อ.ไพรัตน์ ไพพรรณรัตน์ รองผู้บังคับการอำนวยการกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 อดีตรอง ผบก.ภ.จว.เพชรบุรี เดินทางมายังศาลทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เพื่อยื่นฟ้อง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ( ผบ.ตร.) ในความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่มิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.157 กรณีใช้อำนาจแต่งตั้งโยกย้ายโดยมีมูลเหตุจูงใจด้านอื่น

พ.ต.อ.ไพรัตน์ กล่าวว่า การที่มายื่นฟ้องผบ.ตร. ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุด ไม่ได้ต้องการท้าชน หรือลองดี แต่เป็นการฟ้องตามหลักการ เพราะผบ.ตร. เป็นผู้อนุมัติคำสั่งโยกย้ายตำรวจทั้งหมด ซึ่งก่อนหน้านี้ก็เคยทำเรื่องร้องขอความเป็นธรรมไปแล้ว แต่ผบ.ตร. ก็ไม่ได้นำไปพิจารณา

สำหรับเรื่องราวที่นำมาซึ่งการฟ้องร้องครั้งนี้นั้น พ.ต.อ.ไพรัตน์ เล่าว่า ถูกนายตำรวจระดับรองผบ.ตร. ให้เจ้าหน้าที่จากหน่วยงานจเรตำรวจออกสุ่มตรวจทรงผมเมื่อประมาณกลางปี 2561 แต่พบหลักฐานว่ามีการกำหนดตนเองเป็น “เป้าหมาย 1” เเต่เมื่อพบว่าตนได้ตัดผมเรียบร้อยตามระเบียบ กลับไปนำภาพถ่ายเก่า มาเป็นเหตุสั่งย้ายไปประจำที่ศูนย์ปฎิบัติการ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ศปก. ตร.)

จากนั้น ปลายเดือนสิงหาคม 2562 ได้ทำบันทึกกล่าวหานายตำรวจยศพล.ต.อ.ดังกล่าว ส่งถึงพล.ต.อ.จักรทิพย์ แต่ในเวลาต่อมากลับโดนสั่งย้ายจากรองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบุรี (รองผบก.ภ.จว.เพชรบุรี) ไปเป็นรองผู้บังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 เป็นการโยกย้ายที่มีมูลเหตุจงใจจากเรื่องขัดแย้งดังกล่าว และมุ่งหวังให้ตนเกิดความเสียหาย อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157

พ.ต.อ.ไพรัตน์ ย้ำว่า เรื่องการโยกย้ายที่ผ่านมาไม่เคยมีปัญหา เเต่เมื่อเป็นการโยกย้ายโดยไม่สุจริต จึงต้องขอมาใช้สิทธิร้องต่อศาล โดยนำพยานหลักฐานเป็นความเห็นที่มีการตั้งสอบความประพฤติตนเอง เเละเเผ่นอัดเสียงสนทนาระหว่างตนกับนายตำรวจระดับสูงเพื่อให้ทราบถึงมูลเหตุจูงใจที่นำมาฟ้องร้องคดีนี้

230952 0
แฟ้มภาพ : กองสารนิเทศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

ทางด้านพ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงเรื่องการฟ้องร้องดังกล่าวว่า ผบ.ตร. มีเหตุผลในการโยกย้าย พ.ต.อ.ไพรัตน์ และขอตั้งคำถามกลับว่ามีพฤติกรรมที่เหมาะสมหรือไม่ เนื่องจากผู้บังคับบัญชามีคำสั่งให้ตัดผมแต่ไม่ปฎิบัติตาม อีกทั้ง พ.ต.อ.ไพรัตน์ ยังไปปลุกปั่นให้นักเรียนที่เข้าอบรมหลักสูตรผู้กำกับวิทยาลัยการตำรวจ ไม่ต้องตัดผมตามระเบียบ

พ.ต.อ.กฤษณะ ยังบอกว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ไม่ได้สนใจในกรณีที่ถูกฟ้องร้อง และมองว่าเป็นเรื่องปกติ เนื่องจากในสมัยที่ ผบ.ตร. เป็นสารวัตรรถสายตรวจ191 ก็เคยถูกโยกย้ายไปเป็นสารวัตรตำรวจสุนัข ซึ่งผบ.ตร.ก็ไม่ได้ฟ้องร้อง แต่มองว่าเป็นเรื่องปกติในการทำงาน ยืนยันว่าการโยกย้ายไม่ใช่เรื่องการกลั่นแกล้ง และย้ำอีกว่า การเป็นตำรวจต้องมีระเบียบวินัย และเชื่อว่าตำรวจส่วนใหญ่ในสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีระเบียบวินัย

ส่วนการตั้งกรรมการสอบ เป็นหน้าที่ของกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ที่พิจารณาว่าจะตั้งกรรมการสอบหรือไม่

ทั้งนี้ รองโฆษก ตร. มองว่าการออกมาเคลื่อนไหวของพ.ต.อ.ไพรัตน์ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับกรณีที่ผบ.ตร. ตกเป็นประเด็นในเรื่องไบโอแมทริกซ์ และมองว่าไม่ได้กระทำเป็นขบวนการ

Avatar photo