โดดเข้ามาลุยธุรกิจค้าปลีกได้เพียง 5 ปี สำหรับแบรนด์ ซุปเปอร์เซฟ ธุรกิจค้าปลีกซูเปอร์มาร์เก็ต และคอนวีเนียนสโตร์ ในเครือทีโอเอ ของตระกูล ตั้งคารวคุณ ล่าสุด ตัดสินใจปิดฉากแบรนด์และเซ็กเมนต์ซูเปอร์มาร์เก็ตไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากแบกภาระขาดทุนต่อเนื่อง
ทั้งนี้ บริษัท ซุปเปอร์เซฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้ประกาศเลิกกิจการพร้อมแจ้งเลิกกิจการกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พร้อมกับทะยอยปิดสาขาที่มีประมาณ 30 สาขาลง จนกระทั่งสาขาสุดท้ายคือ สาขาสุขาภิบาล 5 ที่ได้เปลี่ยนรูปแบบธุรกิจเป็น ฟู้ดฮับ ซูเปอร์มาร์เก็ตขนาดเล็ก และคอมมูนิตี้มอลล์ ที่มีร้านค้าประมาณ 7 ร้าน เมื่อประมาณเดือนเมษายน 2562 ที่ผ่านมา
การตัดสินใจอำลาของแบรนด์ ซุปเปอร์เซฟ ครั้งนี้ แม้จะมีกลุ่มทุนใหญ่อย่าง ทีโอเอ ของ กลุ่มตั้งคารวคุณ เป็นเจ้าของ ก็ยังสุดยื้อ จากผลประกอบการที่ขาดทุนต่อเนื่องตลอดระยะเวลาการดำเนินธุรกิจ 5 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2557 มีรายได้ 2.4 แสนบาท ขาดทุนปีแรก 1.8 แสนบาท และปี 2561 มีรายได้เพียง 181 ล้านบาท ขาดทุนถึง 144 ล้านบาท
ก่อนที่จะปิดกิจการลง บริษัท ซุปเปอร์เซฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นทั้งหมด โดยจากเดิมที่ผู้ถือหุ้น 5 คน เป็นคนจากตระกูลตั้งคารวคุณ และตระกูลหวั่งหลี มาเป็นนายประสบสันต์ รชตพฤทธิ์ เข้าถือหุ้นใหญ่ 99.98% เมื่อปี 2561 ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ นายประสบสันต์ เคยนั่งตำแหน่งกรรมการ บริษัท เชอร์วูด คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัทในเครือทีโอเอ ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งกรรมการในบริษัท เชอร์วู้ดฯ เมื่อเดือนสิงหาคม 2562 โดยให้เหตุผลว่า ติดภารกิจอื่น แสดงให้เห็นว่า กลุ่มทีโอเอ ส่งนายประสบสันต์ มาสะสางกิจการซุปเปอร์เซฟ
การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นคือ การตัดสินใจปิดกิจการบริษัท ซุปเปอร์เซฟ คอร์ปอเรชั่น จำกัด และนำบริษัท ทีโอเอ รีเทล บิซ จำกัด ในเครือทีโอเอ มาเปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท ฟู้ด ฮับ รีเทล จำกัด เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2560 โดยมีนายประสบสันต์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เพื่อปรับโมเดลธุรกิจค้าปลีกใหม่ ภายใต้ชื่อ ฟู้ด ฮับ โดยจะเน้นร้านมินิมาร์ท และซูเปอร์มาร์เก็ต ขึ้นอยู่กับพื้นที่และทำเล โดยสาขาที่มีพื้นที่ให้เช่า จะทำเป็นรูปแบบคอมมูนิตี้มอลล์ สำหรับร้านอาหาร เครื่องดื่ม และร้านสเปเชียลตี้สโตร์
ตัวอย่างเช่น สาขาสุขาภิบาล 5 ที่มีทั้ง ร้านสะดวกซื้อ, เคอรี่ เอ็กซ์เพรส, เพ็ทมอลล์ ร้านจำหน่ายสินค้าสำหรับสัตว์เลี้ยง, ร้านเครื่องดื่ม “ชินชา” (Chincha), ร้านซูโก้ย ราเมน, ร้านแว่น “บีลิฟ” และร้านกาแฟ ภายใต้ชื่อ ฟู้ดฮับ คอฟฟี่
ปัจจุบัน ฟู้ดฮับ มีสาขาประมาณ 10 สาขา อาทิ ฉะเชิงเทรา 3 สาขา, เสนาเฮ้าส์ จตุจักร, พระราม 2, ปทุมธานี, โชคชัย 4, สุขาภิบาล 5, สาขาโมเดิร์นทาวน์ สุขุทวิท 63, บางกระเจ้า สมุทรสาคร, นาคนิวาส 48 เป็นต้น ในปั 2561 มีรายได้รวม 206,462 บาท กำไร 117,523 บาท และมีแนวโน้มรายได้เพิ่มขึ้นในปี 2562 นี้
การปรับโมเดลธุรกิจของ ซุปเปอร์เซฟ สู่ ฟู้ด ฮับ ครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นได้ชัดเจนว่า ธุรกิจค้าปลีกต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วเพื่อให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และอีกมุมหนึ่งคือ ธุรกิจอาหารยังได้รับผลกระทบหลังสุดเมื่อเทียบกับสินค้าหรือธุรกิจอื่นๆ ทำให้โมเดลธุรกิจใหม่ของค้าปลีกในเครือทีโอเอ จึงเน้นไปที่กลุ่มอาหารและร้านค้ากลุ่มอาหารเครื่องดื่ม รวมถึงร้านค้าเฉพาะอย่างเป็นหลัก
