Politics

‘บิ๊กโจ๊ก’ พร้อมดับเครื่องชน!! ลั่นฟังคลิปเสียงแล้วหดหู่ใจ

“บิ๊กโจ๊ก” พร้อมดับเครื่องชน!! ชี้ที่ผ่านมาโดนรังแกมาเยอะ ลั่นฟังคลิปเสียงแล้วหดหู่ใจ แนะคนในคลิปลาออกเถอะ

จากกรณีคนร้ายลอบยิงถล่มรถ “พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล” หรือ “บิ๊กโจ๊ก” ที่ปรึกษาพิเศษสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และอดีตผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ผบช. สตม.) โดย “บิ๊กโจ๊ก” มั่นใจว่าสาเหตุที่ถูกลอบยิงรถนั้นมาจากการที่มีคำสั่งยกเลิกโครงการจัดซื้อจัดจ้างเครื่องพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล “ไบโอแมทริกซ์” แน่นอน และได้มีคลิปเสียงการสนทนาของชาย 2 คนที่มีเสียงคล้าย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. และพล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร. สนทนาและขอไม่ให้ไปยุ่งกับคดีดังกล่าว

บิ๊กโจ๊ก916326

โดยล่าสุด “รายการโหนกระแส” วันนี้ “หนุ่ม” กรรชัย กำเนิดพลอย ในฐานะผู้ดำเนินรายการได้สัมภาษณ์เปิดใจ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ โดยระบุว่า ความจริงแล้วผมมีข้อมูลอยู่นานแล้วเกือบเดือน เราก็เป็นตำรวจเก่า เราก็ต้องรู้ใครคิดปองร้ายเรา ผมมีข้อมูลอยู่แล้วว่ามีการตรวจสอบทะเบียนรถผม มีการติดตามผม มีการเช็กที่อยู่ผม แต่ผมมีความเชื่อมั่น วันนี้ผมไม่ได้ทำงานหนักเหมือนเมื่อก่อน ผมขับรถไปเอง เป็นคนสมถะเรียบง่าย มีคนเตือนผมแล้วว่าช่วงนี้อย่าไปที่ร้านนั้นเพราะเขาตามอยู่ แต่ผมมีความมั่นใจว่าเราทำดีมาทั้งชีวิต ช่วยเหลือประชาชนมาทั้งแผ่นดิน ไม่มีทางตายไม่ดีแน่ ในวันที่เกิดเหตุ เมื่อมีพนักงานมาแจ้งผมก็เฉยๆ เลย

“ผมก็ตอบสื่อไปหลายคนว่าการดูลักษณะแบบนี้ไม่ได้หมายเอาชีวิต เป็นการยิงขู่ ถ้าหมายเอาชีวิต เขาต้องมายิงผมที่ร้านนวด คนยิงต้องเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ ยิงอย่างนี้โดยใช้เวลาไม่มากนัก ต้องเชี่ยวชาญชำนาญพอสมควร แต่การยิงลักษณะแบบนี้ยิงข่มขู่ไม่ได้หมายเอาชีวิตแน่นอน” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

บิ๊กโจ๊ก916322

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวถึงสาเหตุที่ระบุว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับคดี “ไบโอแมทริกซ์” ว่า ผมขัดแย้งกับใครก็ต้องรู้ ผมไม่ได้มีปมขัดแย้งกับคนอื่น โอเคที่ผ่านมาทำงานมาเยอะ จับคนร้ายมาเยอะ แต่การจับกุมคนร้าย เขาก็ยอมรับสภาพได้ว่าเขาผิดจริง เราจับเขาตามกระบวนการกฎหมาย ไม่ได้ไปแกล้งจับเขา ผมไปขัดแย้งเรื่องอื่นไม่มีหรอก ยกเว้นเรื่องนี้เพราะมีการติดต่อผู้ใหญ่ที่ผมเคารพ มีการนัดเจรจาหลายครั้งแล้ว ตัวคนที่สั่งการอยู่แวดวงเดียวกับผม แต่ไม่ขอเอ่ยชื่อ

วันนี้ผมก็เล่าตามข้อเท็จจริงไปก่อน วันนี้เมื่อผมโดนอย่างนี้ โดนมานานแล้วก็ต้องเอาซะที ต้องเปิดให้ประชาชนเห็นให้สังคมเห็นว่าโดนอะไรได้ ขนาดยศพล.ต.ท.ยังโดนรังแกได้เลย ส่วนเรื่องคดีนี้วันนี้มีการตรวจสอบโดยป.ป.ช. มีผู้ถูกตรวจสอบ ตามรายชื่อที่ทนายษิทราเขายืนยันมา” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามีการติดต่อผมนัดผู้ใหญ่ให้ไปเจรจา แต่ผมไม่เคยไป เมื่อไม่เคยไป ก็ทำให้เป็นประเด็นของการขัดแย้ง ตัวทนายษิทราเองก็เคยถูกประสานให้ไปพบ ไปเจรจา เขาก็ไม่ไป มีการนัดเพื่อให้ยุติตรงนี้ ไม่ต้องมาตาม ให้ปากคำ ไม่ต้องพูดถึงประเด็นนี้ เพราะอย่าลืมว่าผมเป็นคนทำหนังสือยกเลิก ผู้บัญชาการตม. 3 คนเขาคงอึดอัดแบบผม แต่คงไม่กล้าทำแบบผม ผมก็เข้าใจ แต่ในเมื่อผมมานั่งอยู่ ผมไม่ได้ถูกสอนมาให้เอาใจคนๆ เดียว ผมมาทำงานเพื่อประชาชนทั้งประเทศ ผมต้องดูแลประชาชน ผมจึงทำหนังสือยกเลิก เมื่อทำไปผมก็ต้องยอมรับในชะตากรรมที่เกิดขึ้น

บิ๊กโจ๊ก916324

ส่วนกรณีคลิปเสียงหลุดในโลกโซเชียลนั้น พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ผมต้องเรียนตรงๆ ผมฟังแล้วหดหู่ใจกับผู้นำองค์กร อีกคนอยู่ต่างประเทศ อีกคนรักษาการ ต้องบอกว่าตอนนี้การจับคนร้ายคงต้องทำใจแล้ว ซึ่งวันเกิดเหตุผมเห็นแค่ พล.ต.อ.วิระชัย กับตำรวจท้องที่และตำรวจที่รับผิดชอบเท่านั้น ผมไม่เห็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเลย ในคลิปที่มีการสั่งการอะไรนั้น ผมมองว่าการสั่งอย่างนี้มันเป็นการสั่งเพื่อองค์กรหรือเพื่ออะไร คดีนี้สื่อสนใจเพราะมันเกิดกลางเมือง ท่านวิระชัย ก็แค่ลงมาดูลงมาแอ็คชั่นลงพื้นที่มาดุคดีมันก็เท่านั้นเอง ใครฟังคลิป ถามว่าคนฟังๆแล้วรู้สึกดีมั้ย ถ้าเป็นผมต้องสั่งว่าควรจะจับให้ได้ภายใน 2 – 3 วัน ไปหาคลิปไปหาเบาะแสมา จากนั้นก็เอาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาแถลงข่าวเพื่อให้ชาวบ้านเขารู้ความคืบหน้า ส่วนจะจับได้หรือไม่ได้ก็ว่ากันอีกเรื่อง

“ที่บอกในคลิปว่าผมรู้กัน อย่างนี้พูดได้ไง ผมจำเป็นต้องทำแบบนี้ ใครไม่เป็นผมไม่รู้หรอก ผมไม่ได้คิดเรื่องที่จะกลับมาใน สตช. แต่แค่โดนมาเยอะ ควรพอเสียที นี่มันเป็นเรื่องจริยธรรม เป็นถึงผู้นำองค์กรแล้วสั่งแบบนี้ เมื่อสังคมได้รับรู้แล้ว ก็ควรลาออกไปเสียดีกว่า ต้องต้องมีสปิริตมากกว่านี้ ลาออกเถอะ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว

ขอบคุณรายการ โหนกระแส

 

Avatar photo