“บิ๊กโจ๊ก” เข้าให้ปากคำสน.บางรัก หลังถูกคนร้ายถล่มยิงใส่รถ ปักใจต้นเหตุมาจากยกเลิกโครงการไบโอเมทริกซ์ ประกับกำลังจะเข้าให้ข้อมูลปปช. ลั่นหากจับคนร้ายไม่ได้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องรับผิดชอบ ลั่นผู้มีอำนาจสั่งการอยู่เบื้องหลัง
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ปรึกษาพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี เดินทางไปที่ สภ.บางรัก เพื่อเข้าให้ปากคำกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กรณีถูกคนร้ายยิงถล่มรถยนต์ส่วนตัวเมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ผ่านมา
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยืนยันว่าตนไม่ได้จัดฉากหรือสร้างสถานการณ์ขึ้นต้องการเป็นข่าว เพราะตั้งแต่พ้นจากการเป็นข้าราชการตำรวจ ก็เก็บตัวมากว่า 1 ปีแล้ว มีสื่อมวลชนอยากสัมภาษณ์ตนจำนวนมาก หากอยากเป็นข่าวไม่จำเป็นต้องสร้างสถานการณ์แบบนี้
อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวยังคงเชื่อมั่นว่า สาเหตุที่ถูกลอบยิงรถยนต์มาจากการที่ตัวเอง เตรียมเข้าเป็นพยานเข้าให้ข้อมูลกับกับทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เร็วๆนี้จึงมาเกิดเหตุขึ้นในช่วงนี้ โดยยืนยันว่าการยกเลิกระบบไบโอเมทริกซ์ หรือ ระบบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลลายพิมพ์นิ้วมือและภาพถ่ายใบหน้าของ สตม. ซึ่งตนทำตามหน้าที่และต้องการปกป้องผลประโยชน์ให้ประเทศชาติ เพราะผ่านมา 3 ผู้บัญชาการแล้ว แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ มีงบประมาณสูญหายกว่า 2 พันล้านบาท
ก่อนหน้านี้ มีความพยายามประสานผ่านผู้ใหญ่ที่ตนเคารพ เพื่อขอเจรจาหลายครั้ง แต่ตนไม่ไปพบ ก่อนจะมาเกิดเหตุขึ้น
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เชื่อมั่นว่าคดีนี้น่าจะจับตัวคนก่อเหตุได้ไม่ยาก เพราะมีกล้องวงจรปิดมากมาย ส่วนตัวทราบผู้สั่งการอยู่เบื้องหลัง โดยเป็นผู้มีอำนาจ จึงเรียกร้องให้ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ช่วยจับตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจวาระประจำปีนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมายืนยันว่า มีการแต่งตั้งคนดีเข้ามาทำงาน หากจับผู้ก่อเหตุไม่ได้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติต้องรับผิดชอบ
ทั้งนี้หากตัวเองดำรงตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หากจับตัวคนร้ายไม่ได้จะลาออก นอกจากนี้ ตัวเองเรียนโรงเรียนเตรียมทหาร เรียนโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ถูกสอนมาให้ทำหน้าที่เพื่อผลประโยชน์ของพี่น้องประชาชน ไม่ใช่มาเลียใครบางคนเพื่อตำแหน่ง
ภายหลังเข้าใหเปากคำพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่าได้ ให้ปากคำที่ สภ.บางรัก แล้วเสร็จ โดยระบุว่าวันนี้ได้ให้ข้อมูลที่ตนสามารถให้ได้ครบแล้ว เป็นเอกสารรายงานปัญหาของโครงการไบโอเมทริกซ์ พบข้อบกพร่องของระบบ อีกทั้งยังเป็นข้อเท็จจริงที่ตนเก็บเอกสารดังกล่าวไว้นานแล้ว จึงนำออกมาแจ้งให้ทุกคนได้ทราบทั่วกัน
ขณะเดียวกันชุดสืบสวนกำลังเร่งตรวจสอบรถเบนซ์ ต้องสงสัยในวันเกิดเหตุที่คล้ายกับเป็นรถที่มาดูลู่ทาง เพราะตนไม่ทราบว่าเป็นของใคร ทั้งนี้ในทางคดีตนไม่ทราบเช่นกันว่ากระสุนที่ผู้ร้ายใช้ก่อเหตุเป็นกระสุนขนาดใด ไม่แน่ใจว่าเป็นปืนลูกโม่ หรือปืนออโตเมติก วันนี้ก็ได้เซ็นเอกสารฉบับหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ระบุว่า เป็นการให้ความยินยอมจากตน โดยอนุญาตให้เจ้าหน้าที่สามารถรื้อรถตรวจสอบหาหัวกระสุนที่อาจอยู่ในรถได้
จากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ตนต้องระมัดระวังมากขึ้นกว่าเดิม ถามว่ากลัวหรือไม่ ก็ไม่กลัว เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เชื่อว่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังตัวบงการนั้นเป็นผู้ที่มีอำนาจ หากไม่มีอำนาจก็คงไม่มีใครกล้าลงมือก่อเหตุในลักษณะเช่นนี้
- เปิดปมขัดแย้งบุกถล่มยิงรถ ‘บิ๊กโจ๊ก’กลางกรุง
- ‘บิ๊กโจ๊ก’ ฟันธง! ถูกยิงถล่มชนวนเหตุมาจากเรื่องเดียว
- ด่วน! มือปืนรัว 7 นัด ถล่มรถหรู ‘บิ๊กโจ๊ก’ เจ้าตัวรอดหวุดหวิด
