World News

เอเชียจับตาเหตุ ‘อิหร่าน-สหรัฐ’ พร้อมรับมือสถานการณ์เลวร้ายสุด

รัฐบาลประเทศต่างๆ ในเอเชีย ต่างจับตามองการเผชิญหน้าระหว่างสหรัฐ กับอิหร่านอย่างใกล้ชิด โดยฟิลิปปินส์ได้เตรียมอพยพพลเมืองหลายพันคนออกจากตะวันออกกลางแล้ว

GettyImages 1192059166

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต้ ผู้นำฟิลิปปินส์ ได้จัดประชุมฉุกเฉินกับเจ้าหน้าที่กลาโหม ทหาร และตำรวจขึ้น ซึ่งกระทรวงกลาโหมฟิลิปปินส์แถลงว่า ผู้นำฟิลิปปินส์ได้มอบหมายให้กองทัพเตรียมพร้อมสำหรับการอพยพทั้งทางอากาศ และทางน้ำ เพื่อนำชาวฟิลิปปินส์กลับมาบ้านเกิด หากตะวันออกเกิดสถานการณ์สู้รบกันขึ้นมา และเป็นอันตรายต่อชีวิตของพลเมืองกลุ่มนี้

แถลงการณ์ย้ำด้วยว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของชาวฟิลิปปินส์ 6,000 คนที่อยู่ในอิรัก และ 1,600 คนในอิหร่าน

ขณะที่ประเทศอื่นๆ ในเอเชีย ก็มีความเคลื่อนไหวในทำนองเดียวกันนี้

กระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย แถลงว่า มีความกังวลเกี่ยวสถานการณ์ที่รุนแรงขึ้น พร้อมเรียกร้องให้ชาวอินโดนีเซียในอิรักที่มีอยู่ราว 864 คน ระมัดระวังตัวอยู่ตลอดเวลา และขอให้ติดต่อกับสถานทูต หากต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน

สำหรับอินโดนีเซียแล้ว ผลกระทบจากความตึงเครียด ที่เกิดจากการที่สหรัฐโจมตีทางอากาศสังหารพล.อ.กัสเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ ของอิหร่านในกรุงแบกแดดนั้น ไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะแค่พลเรือนเท่านั้น เพราะเหตุการณ์นี้ ทำให้ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น เพิ่มแรงกดดันต่อเงินรูเปียะห์ จนอ่อนค่าลงอย่างมาก จนทำให้ธนาคารกลางอินโดนีเซียต้องเข้าแทรกแซงตลาดเงิน เพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับการเคลื่อนไหว

ขณะที่นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ผู้นำญี่ปุ่น ที่เพิ่งพบกับประธานาธิบดีฮัสซัน รูฮานี ของอิหร่าน เพื่อหารือเกี่ยวกับการผ่อนคลายความตึงเครียดในตะวันออกกลาง เมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว บอกว่า เขากังวลในเรื่องนี้อย่างมาก ทั้งคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่น ยังอนุมัติการส่งกองกำลังป้องกันตัวเองญี่ปุ่น ไปยังตะวันออกลาง เพื่อคุ้มกันเรือสัญชาติญี่ปุ่นด้วย

ส่วนนายสุเพรมัณยัณ เชชันคาร์ รัฐมนตรีต่างประเทศอินเดีย ทวีตข้อความว่า เขาได้คุยโทรศัพท์กับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐ เกี่ยวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแถบอ่าวเปอร์เซีย ซึ่งเป็นแหล่งจัดหาน้ำมันหลักให้กับอินเดีย และว่าเขาได้เน้นถึงส่วนที่อินเดียจะได้รับผลกระทบ และความกังวลเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น

ในส่วนของจีนนั้น เลือกที่จะแสดงท่าทีที่เด็ดขาดต่อการเข้าแทรกแซงตะวันออกกลางของสหรัฐ ด้วยการที่โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ออกมาวิจารณ์รัฐบาลสหรัฐว่าเป็นตัวทำลายเสถียรภาพในภูมิภาคดังกล่าว พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายหาทางสร้างสันติภาพ และเสถียรภาพ

เช่นเดียวกับประธานาธิบดีเรเซป เตย์ยิป เออร์โดแกน ที่เรียกร้องให้ทุกฝ่ายใช้ความอดกลั้น

นายเออร์โดแกน บอกว่า เขาได้พูดคุยกับผู้นำหลายคน รวมถึงประธานาธิบดีรูฮานี ของอิหร่าน นับแต่ที่เกิดเหตุการณ์ข้างต้นขึ้นมา ซึ่งเขาได้แนะนำให้อดกลั้น เพราะไม่มีทางอื่นที่จะแก้ป้ญหาได้แล้ว

อย่างไรก็ดี นายเออร์โดแกนยังกล่าวอ้อมๆ ตำหนิการกระทำของสหรัฐ ด้วยการบอกว่า “ตะวันออกกลางอยู่ในสภาพที่เหนื่อยล้าอย่างมาก แต่ก็ยังมีบางฝ่ายที่พยายามอย่างที่สุด ที่จะทำให้ภูมิภาคนี้นองเลือดอยู่ตลอดเวลา”

Avatar photo