World News

ทำไม่ได้! รุมเตือนทรัมป์ ‘ก่ออาชญากรรมสงคราม’ โจมตีแหล่งวัฒนธรรมอิหร่าน

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ตกเป็นเป้าโดนวิจารณ์มากขึ้นเรื่อย ต่อการที่เขาขู่ที่จะโจมตีสถานที่ทางวัฒนธรรมของอิหร่าน

trumpGettyImages

ผู้นำสหรัฐระบุว่า สถานที่ทางวัฒนธรรมต่างๆ ในอิหร่าน รวมอยู่ใน 52 จุดที่เป็นเป้าหมายการโจมตีของสหรัฐ หากว่าอิหร่านดำเนินการล้างแค้นต่อพลเมืองอเมริกัน หลังจากที่กองทัพสหรัฐปฏิบัติการโจมตีทางอากาศสังหาร พล.อ.กัสเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ ของอิหร่าน

แต่ล่าสุด หลายฝ่าย รวมถึง ยูเนสโก รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ อิหร่าน หรือแม้กระทั่งวุฒิสมาชิกสหรัฐเอง ก็พากันออกมาระบุว่า สถานที่เหล่านั้นเป็นสถานที่ที่ได้รับการคุ้มครอง

สหรัฐ และอิหร่านลงนามในข้อตกลง ที่จะปกป้องมรดกทางวัฒนธรรม รวมถึงในช่วงเวลาที่เกิดความขัดแย้งด้วย ซึ่งการใช้กำลังทหารโจมตีเป้าหมายที่เป็นมรดกทางวัฒนธรรม ถือเป็นการก่ออาชญากรรมสงคราม ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ

ออเดรย์ อาซููเลย์ ผู้อำนวยการยูเนสโก หน่วยงานทางวัฒนธรรมของยูเอ็น เตือนว่า ทั้งสหัฐ และอิหร่านต่างลงนามในอนุ สัญญาว่าด้วยการคุ้มครองมรดกทางวัฒนธรรม และธรรมชาติของโลก ปี 2515 ทั้งก่อนหน้านั้น ยังลงนามในอนุสัญญาเพื่อปกป้องทรัพย์สมบัติทางวัฒนธรรมในกรณีของการพิพาทด้านอาวุธปี 2498 ด้วย

ส่วนองค์กรด้านสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์ วอทช์ ระบุว่า ทรัมป์ควรออกมาประกาศต่อสาธารณะว่า จะไม่โจมตีสถานที่ที่มีความสำคัญทางวัฒนธรรม ทั้งยังควรแสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า เขาจะไม่สั่งให้มีการก่ออาชญากรรมสงครามแต่อย่างใด โดยกฎหมายว่าด้วยสงครามระบุว่า ห้ามไม่ให้จงใจโจมตีใส่เป้าหมายของพลเรือน ที่ไม่ได้ถูกใช้เพื่อจุดประสงค์ทางการทหาร สิ่งของที่มีความสำคัญมากต่อมรดกทางวัฒนธรรมของประชาชนจะต้องไม่เป็นเป้าโจมตี

มาตรา 53 ในอนุสัญญาเจนีวาฉบับที่ 1 ได้ระบุไว้อย่างเจาะจงว่าห้ามมุ่งร้ายต่อวัตถุทางวัฒนธรรม และกฎหมายว่าด้วยสงครามของสหรัฐเองก็มีส่วนที่เกี่ยวกับการปกป้องทรัพย์สินทางวัฒนธรรม

ทั้งนี้ อิหร่านถือเป็นหนึ่งในแหล่งวัฒนธรรมสำคัญของโลก มีประวัติศาสตร์ย้อนกลับไปได้ไกลว่าในยุคเปอร์เซีย โดยปัจจุบัน เป็นเจ้าของแหล่งมรดกโลกทางวัฒนธรรมที่ขึ้นทะเบียนโดยยูเนสโกมากถึง 22 แห่ง

Avatar photo