ตลาดหุ้นสหรัฐเปิดซื้อขายวันนี้ (6 ม.ค.) ร่วงลงอย่างหนัก จากการที่นักลงทุนซึมซับความตึงเครียดที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างสหรัฐ กับอิหร่านไว้อย่างเต็มที่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวล่าสุดที่ 28,509.83 จุด ร่วงลง 125.05 จุด หรือ 0.44% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ลดลง 8.39 จุด หรือ 0.26% มาอยู่ที่ 3,226.46 และดัชนีแนสแด็ก ขยับลงมา 28.57 จุด หรือ 0.32% ที่ 8,992.20 จุด
นักลงทุนเลือกที่จะไม่เข้าลงทุนในตลาดหุ้น ที่จัดว่าเป็นสินทรัพย์เสี่ยง หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ขู่ที่จะดำเนินมาตรการคว่ำบาตรต่ออิรัก จากการที่รัฐบาลแบกแดดประกาศเดินหน้ากระบวนการให้กองทัพต่างชาติ รวมถึง สหรัฐ ออกจากประเทศ หลังเหตุการณ์ที่สหรัฐโจมตีทางอากาศ สังหารพล.อ.กัสเซ็ม โซเลมานี ผู้บัญชาการหน่วยคุดส์ ของอิหร่าน และยังเกิดขึ้นหลังบรรดาแกนนำรัฐบาลอิหร่าน พากันออกมาประกาศที่จะแก้แค้นสหรัฐอย่างรุนแรง ซึ่งทรัมป์ก็ขู่ว่า ถ้าหากอิหร่านลงมือ ก็จะโดนตอบโต้เช่นกัน
นักวิเคราะห์ระบุว่า ความตึงเครียดในตะวันออกกลาง ทำให้นักลงทุนเกิดความกังวลมากขึ้น ทั้งที่ในช่วงเวลาเช่นนี้ น่าจะเป็นเวลาที่ตลาดทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
คำขู่คว่ำบาตรอิรักของทรัมป์ ยังหนุนให้ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งไปถึง 70 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลแล้ว ส่วนราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ล่าสุดเพิ่มขึ้น 63 เซนต์ หรือ 1.00% สู่ระดับ 63.68 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ขณะที่ราคาทองคำกำหนดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ในตลาดโคเม็กซ์ ของสหรัฐ ดีดตัวขึ้น 25.70 ดอลลาร์ หรือ 1.66% มาอยู่ที่ระดับ 1,578.10 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ใกล้แตะระดับสูงสุดในรอบ 7 ปี แรงหนุนจากการที่นักลงทุนพากันเข้าซื้อทองในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย และเทขายสินทรัพย์เสี่ยง
