พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้โอวาทแก่คณะนักกีฬาคนพิการทีมชาติไทย และเจ้าหน้าที่ ซึ่งจะเดินทางไปเข้าร่วมการแข่งขัน อาเซียน พาราเกมส์ ครั้งที่ 10 ณ เมืองซูบิค ฟิลิปปินส์ โดยมีนายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ กกท. , พลตรีโอสถ ภาวิไล เลขาธิการคณะกรรมการพาราลิมปิกแห่งประเทศไทย คณะนักกีฬา ผู้ฝึกสอน และเจ้าหน้าที่ ร่วมงาน ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า “ในการแข่งขันกีฬา เรื่องการมีน้ำใจนักกีฬายังคงมีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะ การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ในนักกีฬา เรื่องกำลังใจเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด หากนักกีฬามีกำลังใจที่ดี และร่วมแรงร่วมใจกันก็จะสามารถประสบความสำเร็จได้อย่างไม่ยากเย็น นักกีฬาจะต้องมีระเบียบวินัย นอกจากทำการแข่งขันกีฬาแล้วขอให้นำวัฒนธรรมอันดีงามของไทยไปเผยแพร่และสร้างมิตรภาพอันดีงามระหว่างเพื่อนนักกีฬาในอาเซียนด้วย”
“นักกีฬาคนพิการเป็นแรงบันดาลใจที่ดีเยี่ยมให้กับคนทั่วไป ในขณะที่นักกีฬาทำการแข่งขันเพื่อประเทศชาติ นั้น นายกรัฐมนตรีก็ทำงานทุกวัน เปรียบเสมือนลงทำการแข่งขันกีฬาเช่นกัน ดังนั้น ขอให้นักกีฬาและเจ้าหน้าที่ ประสบความสำเร็จดังที่หวัง และเดินทางด้วยความสวัสดิภาพปลอดภัย ขอให้เดินทางไปแข่งขันด้วยรอยยิ้ม และนำรอยยิ้มและชัยชนะมาฝากพี่น้องชาวไทยทุกคน”
ทั้งนี้ กีฬาอาเซียนพาราเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาสำหรับคนพิการที่จัดขึ้นหลังจากการแข่งขันกีฬาคนปกติ (การแข่งขันกีฬาซีเกมส์) ซึ่งกำหนดการแข่งขันในระหว่างวันที่ 20 – 28 มีนาคม 2563 ณ เมืองซูบิค ฟิลิปปินส์ วัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน เพื่อเป็นการเชื่อมสัมพันธไมตรี มิตรภาพของมวลหมู่มนุษยชาติ แลกเปลี่ยนความรู้ วัฒนธรรม ประเพณี และเป็นการแสดงความสามารถทางด้านกีฬาของคนพิการ
ในการแข่งขันครั้งนี้มีประเทศสมาชิกส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันรวม 11 ประเทศ โดยประเทศไทย ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ จำนวน 16 ชนิดกีฬา คือ ยิงธนู, กรีฑา, แบดมินตัน, บอคเซีย, หมากรุกสากล, จักรยาน, ฟุตบอล 7 คน, โกลบอล, ยูโด, ยกน้ำหนัก, ว่ายน้ำ, โบว์ลิ่ง, วอลเลย์บอลนั่ง, เทเบิลเทนนิส, วีลแชร์บาสเกตบอล และไตรกีฬา รวมนักกีฬาและเจ้าหน้าที่ที่เข้าร่วมการแข่งขันทั้งหมด 481 คน ประกอบด้วย นักกีฬา จำนวน 318 คน, ผู้ฝึกสอน จำนวน 121 คน , คณะกรรมการ และเจ้าหน้าที่ทีม จำนวน 42 คน รวมทั้งหมด จำนวน 481 คน
