“คมนาคม” สั่งจับตาราคาน้ำมัน! หวั่นความขัดแย้งตะวันออกกลางทำต้นทุนพุ่ง “การบินไทย” ดีดลูกคิดคำนวณตัวเลขใหม่หลังสถานการณ์เปลี่ยน ด้าน “บขส” เตรียมลดเที่ยววิ่ง หากดีเซลพุ่งทะลุ 30 บาท/ลิตร
จากกรณีที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศอิหร่านเกิดความตึงเครียด ส่งผลให้ทั่วโลกเกิดกังวลเรื่องราคาน้ำมันในตลาดโลกจะปรับตัวสูงขึ้นนั้น
นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ (DD) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้การบินไทยประเมินว่า ราคาน้ำมันจะไม่เปลี่ยนแปลงมาก แต่เมื่อเกิดความตึงเครียดระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน ก็ส่งผลให้การบินไทยต้องกลับมาทบทวนตัวเลขใหม่ทั้งหมด
ในระยะนี้ การบินไทยคงต้องจับตาดูสถานการณ์ความขัดแย้งและติดตามราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด รวมถึงติดตามสถานการณ์ในอุตสาหกรรมการบินและการบริหารความเสี่ยงต่างๆ ส่วนบริษัทจะเพิ่มสัดส่วนการทำประกันความเสี่ยงราคาน้ำมันหรือไม่นั้น ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
“รถทัวร์” รับราคาดีเซลได้ถึง 30 บาท
นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า น้ำมันถือเป็นต้นทุนหลักของ บขส. โดยบริษัทมียอดใช้น้ำมันดีเซลประมาณ 20 ล้านลิตรต่อปีและในปี 2562 ที่ผ่านมา น้ำมันดีเซลมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 26-27 บาทต่อลิตร ส่งผลให้คณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางกำหนดอัตราค่าโดยสารรถโดยสาร (รถทัวร์) ไว้ในขั้นที่ 5
แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้งระหว่างสหรัฐอเมริกาและอิหร่าน บขส. ก็ต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันว่าจะเปลี่ยนแปลงมากน้อยเพียงใด โดยหากราคาน้ำมันดีเซลพุ่งทะลุ 30 บาทต่อลิตร ก็คงต้องรอนโยบายจากคณะกรรมการควบคุมการขนส่งทางบกกลางว่าจะให้ปรับขึ้นค่าโดยสารหรือไม่ ถ้าหากไม่ให้ปรับขึ้น บขส. ก็คงต้องบริหารต้นทุนด้วยวิธีอื่นๆ เช่น ลดเที่ยววิ่ง แต่ที่สำคัญคือต้องไม่กระทบต่อความสะดวกสบายของประชาชน
นอกจากนี้ บขส. อยู่ระหว่างทดลองใช้น้ำมันดีเซลที่มีส่วนผสมของไบโอเซล 20% (B20) โดยหากรถรุ่นใดสามารถเปลี่ยนมาใช้ดีเซล B20 ได้และไม่มีปัญหาทางเทคนิค ก็จะดำเนินการ เพราะมีต้นทุนต่ำกว่าดีเซลปกติประมาณ 2-3 บาทต่อลิตร ช่วยลดต้นทุนได้ในระยะยาว
นางเครือวัลย์ วงศ์รักมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นครชัยแอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้กำลังรอดูว่าเหตุการณ์จะลุกลามแค่ไหน เพราะประเทศอิหร่านที่มีความขัดแย้งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของโลก รวมถึงติดตามสถาณการณ์ราคาน้ำมันและมาตรการรับมือต่างๆ ของภาครัฐ
ด้านนครชัยแอร์ก็คงต้องดูแลต้นทุนภายในองค์กรและจัดเที่ยววิ่งให้เหมาะสม เพื่อรองรับกรณีที่ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น โดยถ้าราคาน้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้นไม่เกิน 30 บาทต่อลิตรก็ยังพอรับได้ แต่หากราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นมากกว่านั้น ก็ต้องรอดูท่าทีเรื่องอัตราค่าโดยสารจากภาครัฐ รวมถึงหามาตรการอื่นๆ ในการลดต้นทุน โดยเฉพาะการจัดรูปแบบการเดินรถให้เหมาะสม เช่น หารือกับภาครัฐและเอกชนรายอื่น เพื่อเดินรถแบบรับช่วงต่อในเส้นทางที่มีผู้โดยสารน้อย เป็นต้น
“รถไฟ” ตั้งคณะกรรมการติดตาม
นายวรวุฒิ มาลา รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า เบื้องต้นการรถไฟฯ คงต้องมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมา 1 ชุดเพื่อติดตามกรณีดังกล่าว ว่าจะได้รับผลดีหรือผลเสียอย่างไร โดยการรถไฟฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจต่อเรื่องนี้ เพราะต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น หมายถึงว่าต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นเช่นกัน
โดยในปัจจุบันการรถไฟฯ ใช้น้ำมันเฉลี่ย 100 ล้านลิตรต่อปี หากน้ำมันขึ้นลิตรละ 1 บาท หมายความว่าต้นทุนต่อปีจะต้องเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านบาททันที ดังนั้นการรถไฟฯ จะมีการควบคุมต้นทุนการบริการจัดการภายในและใช้น้ำมันให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด
นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้ได้สั่งการให้หน่วยงานเกี่ยวข้องไปติดตามผลกระทบข้อพิพาทในตะวันออกกลาง และราคาน้ำมันอย่างใกล้ชิด อีกทั้งให้ประเมินสถานการณ์ รวมทั้งให้วางแผนรองรับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นและ ผลกระทบในทุกมิติ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้
นอกจากนั้นให้หน่วยที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการบินไทย ประเมินผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเส้นทางบินที่สุ่มเสี่ยงต่อพื้นที่ข้อพิพาท และให้รายงานกลับมายังกระทรวงคมนาคมรับทราบต่อไป
- ‘ไทยออยล์’ คาดน้ำมันดิบสัปดาห์นี้แกว่ง 60-70 ดอลลาร์/บาร์เรล
- เตือนตึงเครียด ‘อิหร่าน-สหรัฐ’ สกัดศก.โลกฟื้นตัว ‘น้ำมัน’ มีสิทธิพุ่งถึง 150 ดอลล์
- พิพาท ‘สหรัฐ -อิหร่าน’ ดันทองคำแตะ 1,626 ดอลลาร์ น้ำมันพุ่ง 76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
- ‘พลังงาน’ เรียกประชุมด่วน! ประเมินสถานการณ์ราคาน้ำมัน ก่อนดึงกองทุนฯ ลดผลกระทบ
