“สนธิรัตน์” ยัน ปีนี้พลังงานเป็นพระเอก ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ จากเม็ดเงินลงทุนนับแสนล้านบาท ของโรงไฟฟ้าชุมชน ดีเซลบี 10 และบี 20 ดึงราคาผลผลิต บวกด้วยแก้ปัญหาภัยแล้ง จากกองทุนอนุรักษ์หมื่นล้าน พร้อมเร่งรัดเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ เข้ากระแสจัดการขยะครบวงจร
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน กล่าวว่าในปีนี้ถือว่า กระทรวงพลังงานเป็นภาคส่วนสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน จากเม็ดเงินลงทุนโครงการต่างๆไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท ประกอบด้วยโรงไฟฟ้าชุมชน ที่จะเปิดรับสมัครในเดือนกุมภาพันธ์นี้ หากมีโรงไฟฟ้าชุมชนเต็มทั้งหมด 700 เมกะวัตต์ ยืนยันว่าจะก่อให้เกิดเม็ดเงินลงทุนไม่ต่ำกว่า 70,000 ล้านบาท และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากได้อย่างดี
เพราะโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน จะเชื่อมโยงมาถึงการปลูกพืชพลังงาน เพื่อใช้ในโรงไฟฟ้าชีวมวล ซึ่งจะได้ราคาดีกว่าการปลูกพืชอื่นๆ และเกษตรกรยังมีความมั่นคง เพราะโครงการนี้มีข้อกำหนดให้มีการทำสัญญา Contract Farming ระหว่างโรงงานและเกษตรกร เพื่อป้อนเชื้อเพลิงให้ต่อเนื่อง ซึ่งจะเห็นผลในปีนี้แน่นอน และยังทำให้ชุมชนมีไฟฟ้าใช้อย่างมั่นคงด้วย โดยเฉพาะโครงการควิกวินที่จะเกิดขึ้นได้ก่อน เช่น อุบลราชธานี ใช้หญ้าเนเปียร์ เป็นวัตถุดิบ ซึ่งตนเองจะเดินทางไปดูพื่้นที่ในวันพรุ่งนี้
ขณะเดียวกันกระทรวงจะส่งเสริโครงการที่มาช่วยแก้ปัญหาภัยแล้งไปพร้อมกัน โดยใช้เงินกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ที่คณะกรรมการกองทุนฯได้อนุมัติการใช้จ่ายเงินปี 2563 แล้ว 10,000 ล้านบาท มาส่งเสริมการสูบน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เป็นต้น โดยจะเปิดให้ยื่นโครงการ และสามารถอนุมัติและเบิกจ่ายได้ในเดือนมีนาคมนี้
“ถ้าแก้ปัญหาภัยแล้งได้ เกษตรกรปลูกพืชได้ พืชตัวไหนราคาไม่ดี ส่งเสริมให้ปลูกพืชพลังงาน ส่งโรงไฟฟ้าชุมชน มีทั้งไฟฟ้าใช้กระจายทั่วถึง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศได้ด้วยภาคพลังงาน “
รวมไปถึงการส่งเสริมการใช้ดีเซลบี 10 และบี 20 ก็ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้เช่นกัน เพราะการดึงน้ำมันปาล์มดับ (ซีพีโอ) มาใช้ในภาคพลังงาน ทำให้ราคาปาล์มสูงขึันมาอยู่ที่ 5-6 บาทต่อกก. และซีพีโอก็สูงขึ้นจากก่อนหน้านี้ 17 บาทเป็น 33 บาทต่อกก.
นอกจากนี้อีกโครงการสำคัญที่จะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ และดำเนินการได้ในปีนี้ก็คือ การเปิดสัมปทานปิโตรเลียมรอบใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำรายละเอียด รวมไปถึงโครงการส่งเสริมการใช้เอทานอล เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรปลูกมันสำปะหลัง ก็จะเป็นอีกโครงการที่จะเกิดขึ้นใหม่ในปี 2563 ที่จะประกาศแผนงานในเร็วๆนี้
โครงการลงทุนของภาคพลังงาน นอกจากจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว ยังช่วยในเรื่องการจัดการขยะ ที่เป็นวาระของประเทศด้วย จากโครงการโรงไฟฟ้าขยะ 400 เมกะวัตต์ ตามแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ (พีดีพี) 2018 ซึ่งจะเร่งรัดให้มีการเปิดรับโดยเร็ว จะทำให้การจัดการขยะครบวงจร โดยโรงไฟฟ้าขยะ มีการพัฒนาเทคโนโลยีที่ดีขึ้นมาก แต่ทั้งนี้จะได้ประโยชน์จริง ต้องเลือกพื้นที่ที่เหมาะสม เลือกเทคโนโลยีที่ดี และได้รับการยอมรับจากประชาชน โดยควรจะต้องดูโมเดลตัวอย่างของเยอรมันที่โรงไฟฟ้าขยะอยู่ร่วมกับชุมชนได้
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่านอกจากนี้ยังมอบให้บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เร่งลงทุน และใช้หนี้เงินกู้ระยะสั้น โดยอาศัยอานิสงค์จากเงินบาทแข็งค่า ซึ่งในส่วนของปตท.ปีนี้จะลงทุนนับแสนล้านบาท
