สมาคมกีฬายกน้ำหนัก คลอดแผนงานเตรียมกลับมาส่งจอมพลังทีมชาติไทย เข้าร่วมรายการระดับนานาชาติในปี 2563 อีกครั้ง โดยรอเพียงสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติชี้ชัดผลสรุปกรณีพบสารต้องห้ามที่เจอในตัวจอมพลังไทย เดือนมี.ค.นี้ อีกครั้ง ซึ่งหากทุกอย่างเป็นใจ บอร์ด “ไอดับบิวเอฟ” ไฟเขียว สมาคมพร้อมคัมแบ็ค ร่วมวงชิงชัยทันที คาดศึกเยาวชนโลก ในห้วงเวลาเดียวกัน ที่โรมาเนีย อาจเป็นรายการแรกที่นักยกลูกเหล็กไทย อาจได้กลับมาลงแข่งขัน
“มาดามบุษ” นางบุษบา ยอดบางเตย นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวว่า สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เตรียมพร้อมที่จะส่งจอมพลังทีมชาติไทย เข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ ตลอดปีใหม่ 2563 แต่อย่างไรก็ตาม ยังรอเพียง สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ว่าจะอนุญาตให้นักกีฬาไทย ลงสนามได้เมื่อไหร่ จากกรณีของสารต้องห้าม
สำหรับ ในปี 2563 มีการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ หลายรายการ ดังนี้ การแข่งขันยกน้ำหนักยุวชนและเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2563 ระหว่าง 13-19 ก.พ. ที่ประเทศอุซเบกิสถาน, การแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2563 ระหว่าง 14-24 มี.ค. ที่ประเทศโรมาเนีย, การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งเอเชีย ประจำปี 2563 ระหว่าง 16-25 เม.ย. ที่ประเทศคาซัคสถาน, การแข่งขันยกน้ำหนักชิงชนะเลิศมหาวิทยาลัยแห่งโลก ครั้งที่ 7 ระหว่าง 20-24 ต.ค. ที่ประเทศเกาหลีใต้ และการแข่งขันยกน้ำหนักยุวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ครั้งที่ 9 ระหว่าง 11-18 พ.ย. ที่ประเทศเปรู
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ เมื่อต้นเดือนธันวาคม 2562 พลตรีอินทรัตน์ ยอดบางเตย นายกกิตติมศักดิ์สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย และรองประธานสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ คนที่ 1 ได้แจ้งว่า สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ โดย ทามาส อาจาน ประธานสหพันธ์ฯ ได้รับเรื่องการขออนุมัติคำแก้ไขข้อตกลงของสมาคมฯ ในการส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันรายการระดับนานาชาติ เอาไว้ และจะมีการพิจารณาในการประชุมสามัญของคณะกรรมการบริหารสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ วันที่ 11 มี.ค. 2563 ที่กรุงบูคาเรส ประเทศโรมาเนีย
โดย สหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ ได้อนุญาตให้นักกีฬายกน้ำหนักยุวชนของไทย สามารถลงทะเบียนยืนยันที่อยู่ของนักกีฬา เพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมการแข่งขันยกน้ำหนักเยาวชนชิงชนะเลิศแห่งโลก ประจำปี 2563 ระหว่าง 14-24 มี.ค. 2563 ที่ประเทศโรมาเนีย ได้ก่อนด้วย
นายกสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย กล่าวต่อว่า ด้านการแข่งขันภายในประเทศ ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ทาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) หรือ “อีแกท” ยังคงให้การสนับสนุนสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ในการจัดการแข่งขันเหมือนเดิม ทั้งประเภทประชาชน เยาวชน และยุวชน
โดยสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะจัดการแข่งขัน อีแกท ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ระดับประชาชน ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 3 และระดับยุวชน ชิงถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครั้งที่ 14 ระหว่าง 1-11 พ.ค. ที่อ.แม่สอด จ.ตาก, การแข่งขัน อีแกท ยกน้ำหนักชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจำปี 2563 ระดับเยาวชน ชิงถ้วยพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครั้งที่ 4 ระหว่าง 5-10 ต.ค. ที่จ.นครสวรรค์
นอกจากนี้ สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย ยังควบคุมมาตรฐานแข่งขันและรับรองผลการแข่งขัน ในรายการต่างๆในประเทศ ดังนี้ การแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 41 ระหว่าง 22-30 ม.ค. ที่จ.อุดรธานี (สนับสนุนผู้ตัดสิน วิทยากร และผู้แทนสมาคมฯ), การแข่งขันกีฬาเยาวชนแห่งชาติ ครั้งที่ 36 ระหว่าง 19-29 มี.ค. ที่จ.ตราด (สนับสนุนผู้ตัดสิน วิทยากร และผู้แทนสมาคมฯ), การแข่งขันกีฬาโรงเรียนกีฬา ครั้งที่ 23 ระหว่าง 1-10 ส.ค. ที่จ.สุพรรณบุรี (สนับสนุนผู้ตัดสิน วิทยากร และผู้แทนสมาคมฯ), การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 45 “พลศึกษาเกมส์” ระหว่าง 22-31 ส.ค. ที่จ.ตรัง (สนับสนุนผู้ตัดสิน วิทยากร และผู้แทนสมาคมฯ) และการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ระหว่าง 5-15 ธ.ค. ที่จ.ศรีสะเกษ
รวมถึง สมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย จะได้จัดการสัมมนาผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติ ประจำปี 2563 และการสัมมนาผู้ตัดสินกีฬาเยาวชนระดับนานาชาติ ประจำปี 2563 ระหว่าง 28-30 เม.ย. ที่อ.แม่สอด จ.ตาก และการจัดอบรมผู้ฝึกสอนกีฬายกน้ำหนักระดับชาติขั้นสูง ประจำปี 2563 (Level 3) ระหว่าง 23-27 พ.ค. ที่จ.ระยอง
