แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น ประกาศเข้าซื้อกิจการอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ และอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูสรวม 12 โครงการ มูลค่าการลงทุนรวมกว่า 26,229 ล้านบาท เสริมจำนวนห้องพักรวม 989 ห้อง และอีกมากกว่า 2,500 ห้องจากโครงการที่อยู่ระหว่างการปรับปรุง พัฒนา พร้อมทั้งการพัฒนาโครงการแบบมิกซ์ยูสและค้าปลีกในอนาคต
นางวัลลภา ไตรโสรัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย เปิดเผยว่า AWC ได้เดินหน้าซื้อกิจการที่เป็นเจ้าของสินทรัพย์กลุ่มที่ 3 ของบริษัท ตามสัญญาซื้อขายหุ้นปี 2562 ซึ่งประกอบด้วย โรงแรมในระดับกลางถึงระดับบน ที่เปิดดำเนินการแล้ว 4 แห่ง ได้แก่ โรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์, ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร, ภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยางบีช และ หัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา
นอกจากนี้ยังได้เข้าซื้อโงแรมรวมทั้งโครงการอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูส ที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงหรือพัฒนา รวมอีก 8 แห่ง ด้วยมูลค่าการลงทุนรวมกว่า 26,229 ล้านบาท เพื่อเสริมศักยภาพและความหลากหลายของพอร์ตโฟลิโอกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการ ซึ่งจะสร้างผลประกอบการอย่างก้าวกระโดดภายใน 5 ปี
สำหรับโรงแรมสินทรัพย์กลุ่มที่ 3 ของบริษัทฯ ที่เปิดดำเนินการแล้ว มีความโดดเด่นทั้งด้านศักยภาพการดำเนินงานและที่ตั้ง โดยโรงแรมแบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ เป็นโรงแรมในระดับบน มีห้องพัก 303 ห้อง มีดัชนีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดเมื่อเทียบกับโรงแรมในระดับเดียวกันสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 สูงถึง 149.4% ขณะที่โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส กรุงเทพ สาทร เป็นโรงแรมที่รองรับนักท่องเที่ยวและนักเดินทางเพื่อธุรกิจในระดับกลาง ใจกลางย่านสาทรและสีลม ที่มีห้องพักจำนวน 184 ห้อง
ขณะที่โรงแรมทรัพย์สินกลุ่ม 3 ของบริษัทฯ ที่เปิดดำเนินการแล้วนอกกรุงเทพฯ ได้แก่ โรงแรมภูเก็ต แมริออท รีสอร์ท แอนด์ สปา ในยางบีช เป็นรีสอร์ทริมหาด ระดับบน มีห้องพักและพูลวิลล่าจำนวน 180 ห้อง และมีดัชนีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดเมื่อเทียบกับโรงแรมในระดับเดียวกันสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 สูงถึง 145.2% ส่วนโรงแรมหัวหิน แมริออท รีสอร์ท และ สปา เป็นรีสอร์ทในระดับบน ที่โดดเด่นด้วยห้องพักแบบทันสมัยจำนวน 322 ห้อง มีดัชนีรายได้เฉลี่ยต่อห้องพักทั้งหมดเมื่อเทียบกับโรงแรมในระดับเดียวกันสำหรับไตรมาสที่ 3 ปี 2562 สูงถึง 171.6%
นอกจากนี้ โรงแรมทรัพย์สินกลุ่ม 3 ยังประกอบไปด้วยโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์มิกซ์ยูสที่อยู่ระหว่างการปรับปรุงหรือพัฒนา อีก 8 แห่ง ด้วยจำนวนห้องพักรวมมากกว่า 2,500 ห้องโดยมีโครงการที่โดดเด่น อาทิ AWC CENTER PATTAYA โครงการมิกซ์ยูสระดับเมกะโปรเจคใหม่ใจกลางเมืองพัทยา ประกอบด้วย โรงแรมเจดับบลิว แมริออท เดอะ พัทยา บีช รีสอร์ท แอนด์ สปา และ โรงแรม พัทยา แมริออท มาร์คีส์ ที่มีห้องพักรวม 1,298 ห้องง
ทั้งนี้รวมถึงโครงการอควอทีค จุดหมายปลายทางด้านช้อปปิ้งไลฟ์สไตล์ระดับไอคอนของพัทยา อีกทั้งยังมีโรงแรมบันยัน ทรี จอมเทียน พัทยา รีสอร์ทระดับลักซ์ชัวรี่ ริมหาด จอมเทียนมีห้องพักและวิลล่ารวม 150 ห้อง และโครงการที่จะพัฒนาในอนาคตต่างๆ อีกมากมาย
การเข้าซื้อกิจการที่เป็นเจ้าของทรัพย์สินกลุ่ม 3 จะทำให้แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น เป็นเจ้าของโรงแรมรายใหญ่ที่สุดในประเทศไทยในโรงแรมระดับกลางขึ้นไป เมื่อพิจารณาจากจำนวนห้องพักทั้งหมดของบริษัทฯ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับพอร์ตโฟลิโอกลุ่มธุรกิจโรงแรมและการบริการเพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลายของลูกค้า
“เมื่อการพัฒนาโครงการทั้งหมดแล้วเสร็จ แอสเสท เวิรด์ คอร์ปอเรชั่น จะมีโรงแรมที่เปิดให้บริการทั้งสิ้น 27 แห่ง และมีจำนวนห้องพักมากกว่า 8,500 ห้อง ที่บริหารงานโดยผู้บริหารโรงแรมชั้นนำระดับสากล พร้อมด้วยเครือข่ายสมาชิกลอยัลตี้โปรแกรมมากกว่า 290 ล้านสมาชิก” นางวัลลภา กล่าว