Technology

เม็ดเงิน ‘ดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน’ พุ่ง 5.4แสนล้านใน 3 ปี

เนทติเซนท์ เผยองค์กรใหญ่พร้อมทุ่มงบไอที ดันเม็ดเงินดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันสะพัด 5.4 แสนล้านบาท ภายใน 3 ปี เดินหน้าส่ง ไทย เคเค ทรานส์ฟอร์มสำเร็จพร้อมแข่งเวทีอาเซียน

นายกฤษดา สาธุกิจชัย ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหาร บริษัท เนทติเซนท์ จำกัด ที่ปรึกษาด้านการวางระบบซอฟต์แวร์การบริหารจัดการทางธุรกิจ (ERP) เปิดเผยว่า ปัจจุบันองค์กรในทุกอุตสาหกรรมมุ่งทำดิจิทัลทรานส์ฟอร์มเมชั่นเพื่อยกระดับการแข่งขันให้กับธุรกิจ ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายด้านไอทีเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยคาดว่าภายในปี 2562 – 2565 อัตราการเพิ่มขึ้นจะมีถึง 19.42% ตามที่ข้อมูลจากไอดีซีระบุว่า ในปีนี้จะมีมูลค่า 4.52 แสนล้านบาท เมื่อถึงปี 2563 จะเพิ่มไปถึง 4.89 แสนล้านบาท จากนั้นในปี 2564 จะมีมูลค่า 5.16 แสนล้านบาท และปี 2565 ประมาณ 5.40 แสนล้านบาท

monitor 1307227 960 720

ทั้งนี้จากมูลค่าดังกล่าว เป็นการลงทุนด้านการวางระบบเทคโนโลยีและซอฟต์แวร์ให้ทันสมัย สามารถรองรับแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่เป็นสัดส่วน 60% แต่การลงทุนด้านดังกล่าวกับประสบปัญหาไม่สามารถนำระบบขึ้นมาใช้งานกับธุรกิจได้จริงมากกว่า 80% เนื่องการการออกแบบระบบขาดความยืดหยุ่นกับธุรกิจและการใช้งานยากจนเกินไป

จากปัญหาดังกล่าว เนทติเซนท์ จึงวางเป้าหมายว่า จะไม่ทำให้เกิดความสูญเสียดังกล่าวเกิดขึ้นกับลูกค้า 100% เพื่อช่วยลดการสูญเสียที่มีมูลค่ามหาศาลต่อเศรษฐกิจ ซึ่งแก้ปัญหาด้วยการนำระบบซอฟท์แวร์สำเร็จรูปมาต่อยอดปรับให้เข้ากับองค์กรของไทย เพื่อให้สามารถใช้งานได้จริง

ล่าสด เนทติเซนท์ ได้ Go Live ระบบ SAP ERP เวอร์ชัน Netizen Arabica ให้กับ กลุ่มบริษัทไทย เคเค ได้แล้วเสร็จด้วยตามเป้าหมายด้วยระยะเวลาเพียง 8 เดือน โดยสามารถสร้างสถิติผู้ใช้งานสูงสุด 150 ยูสเซอร์ ซึ่งนับว่ามากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วยการใช้งานระบบ แบบฟูล แพคเกจ โดยระบบช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้กลุ่มบริษัท ไทย เคเค สามารถขยายสาขาเข้าสู่ประเทศมาเลเซีย และประเทศเวียดนามได้สำเร็จ พร้อมมุ่งหน้าเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต

นายกฤษดา สาธุกิจชัย1
กฤษดา สาธุกิจชัย

สำหรับการ Go Live ระบบใหม่ให้กับกลุ่มบริษัท ไทย เคเค เป็นการเปิดใช้ระบบ Netizen Arabica แบบ Full Function ช่วยในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังและการขนส่ง ด้วยข้อมูลที่มีคุณภาพเชิงลึก ครอบคลุมทุกขั้นตอนและกระบวนการทำงาน สามารถติดตามสถานะการดำเนินงานได้แบบ Real-time ตั้งแต่ในขั้นตอนการจัด Shipment การตรวจนับสต็อคของและสินค้า การขนของขึ้นรถ หรือแม้กระทั่งการระบุสถานะและตัวตนของคนขับรถ นำไปสู่การตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูลจากรายงายได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยให้มีระบบการจัดการระบบขนส่งที่ดี ประหยัดเวลา มีความโปร่งใสและช่วยเพิ่ม Transaction รอบการขนส่งได้มากยิ่งขึ้น

ความสำเร็จในครั้งนี้เกิดจากการผสานการทำงานด้วย 3 องค์ประกอบที่สำคัญคือ ระบบ, กระบวนการ และคน จึงช่วยให้กลุ่มบริษัท ไทยเคเค รวบรวมฐานข้อมูลทั้งหมดเข้าสู่ส่วนกลาง สามารถเชื่อมต่อการทำงานของข้อมูล และวิเคราะห์ข้อมูลในส่วนต่าง ๆ ของบริษัทในเครือได้แบบเรียลไทม์ ทำให้ฝ่ายบริหารสามารถนำข้อมูลที่เป็น บิ๊กดาต้าไปใช้ประโยชน์ในการตัดสินใจ และการบริหารองค์กร

netizen

นายเชวง อยู่วิมลชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไทยเคเค อุตสาหกรรม จำกัด กล่าวว่า กลุ่มบริษัท วางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ นำผลิตภัณฑ์เข้าสู่ระบบ อีคอมเมิร์ซ และตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต จึงเลือกใช้ Netizen Arabica ที่สามารถตอบโจทย์การดำเนินธุรกิจในยุคปัจจุบัน เพราะช่วยให้ฝ่ายบริหารสามารถมองเห็นรายงานข้อมูลที่มีคุณภาพเชิงลึก รายงานตัวเลข จำนวนสินค้าคงคลัง รายการประเภทสินค้า งบกำไรขาดทุน เพื่อทำการวิเคราะห์และตัดสินใจได้อย่างทันท่วงที

“ในช่วง 3-5 เดือนที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทไทย เคเค สามารถลดจำนวน สินค้าคงคลังได้กว่า 150 ล้านบาท และการเชื่อมโยงข้อมูลในระบบ Netizen Arabica สามารถทำให้พนักงานในฝั่งดูแลลูกค้าสามารถเข้าถึงข้อมูลในระบบ เพื่อทำการตัดสินใจและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว นำไปสู่ผลลัพธ์การทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด”นายเชวงกล่าว

Avatar photo