Finance

ปิดฉากหุ้นไทยปี ‘หมูป่วย’ จับตา ‘หุ้นเด็ด’ ปี 2563

ปิดฉากหุ้นไทยส่งท้ายปีใหม่ด้วยดัชนีที่ไม่ถึงฝั่งฝัน ช่วงปลายปี 2561 ใครๆก็ฟันธงว่าตลาดหุ้นไทยปีนี้ปังแน่นอน ดัชนีน่าจะมีโอกาสทะยานพุ่งขึ้นไปแตะ 1,700 จุดได้ และน่าจะอยู่ยืนยาวในระดับ 1,700 จุดตลอดทั้งปี แต่จนแล้วจนรอดดัชนีปิดก็ยังไม่ถึง 1,600 จุดเลย โดยตลาดหุ้นไทยปิดส่งท้ายปีหมูบวก 1.62 จุด ปิดการซื้อขายที่ 1,579.84 จุด หนุนทั้งปี 2562 ดัชนีเพิ่มขึ้น 15.96 จุด หรือ 1.02% เมื่อเทียบสิ้นปี 2561 ปิดที่ 1,563.88 จุด โดยความเคลื่อนไหวในปี 2562 ดัชนีปิดสูงสุด 1,740.91 จุด เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2562 และปิดต่ำสุด 1,548.65 จุด เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2562

ข้อมูลสถิติหุ้น1

ด้านมูลค่าการซื้อขายแยกตามกลุ่มผู้ลงทุนทั้งปี 2562 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 45,244,85 ล้านบาท รองลงมานักลงทุนทั่วไปในประเทศขายสุทธิ 21,635.02 ล้านบาท ด้านนักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 52,006.73 ล้านบาท และบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ซื้อสุทธิ 14,873.14 ล้านบาท

ทั้งนี้ ภาพรวมตลาดหุ้นไทยให้ผลตอบแทนที่ดีในช่วงครึ่งปีแรก โดยดัชนีวิ่งขึ้นไปแตะจุดสูงสุดของปีที่ 1,748.15 จุด เพิ่มขึ้นถึง 11.78% แต่ในช่วงครึ่งปีหลังกลับออกมาในทิศทางตรงกันข้าม ดัชนีปรับตัวลดลงต่อเนื่องจนไปแตะจุดต่ำสุดที่ 1,543.22 จุด ก่อนจะฟื้นตัวกลับมาได้เล็กน้อย โดยทั้งปีดัชนีหุ้นไทยให้ผลตอบแทนราว 1% อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบกับตลาดหุ้นสิงคโปร์, ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ปรับตัวขึ้นได้ดีกว่าไทยเล็กน้อยที่ 5.1% 4.7% และ 2.2% ตามลำดับ มีเพียงดัชนีตลาดหุ้นมาเลเซียที่ให้ผลตอบแทนต่ำกว่าไทยโดยติดลบ 4.7%

ส่วนตลาดหุ้นหลักในเอเชียอื่นๆ ได้แก่ เกาหลีใต้ เพิ่มขึ้น 8% ฮ่องกง 9.2% ขณะที่ไต้หวันในปีนี้ค่อนข้างโดดเด่น ปรับตัวขึ้นถึง 24.3% จากการขยายตัวของบริษัทในกลุ่มธุรกิจที่อิงกับเทคโนโลยี โดยเฉพาะในส่วนของ semiconductor ทางด้านตลาดหุ้นจีน ญี่ปุ่น และอินเดีย ต่างปรับตัวขึ้นได้ดีทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้น 20.5% 18.3% และ 15.3% ตามลำดับ

หุ้น12

โดย บล.บัวหลวง ได้รวบรวมหุ้นที่สร้างผลตอบแทนสูงสุดและต่ำสุดในปี 2562 (ข้อมูล ณ วันที่ 27 ธ.ค.) ดังนี้

10 หุ้นฮอตสร้างผลตอบแทนสูงสุดปี 2562

  • หุ้น CBG สร้างผลตอบแทน 182.11%
  • หุ้น OISHI สร้างผลตอบแทน 166.23%
  • หุ้น TQM สร้างผลตอบแทน 148.90%
  • หุ้น AMANAH สร้างผลตอบแทน 147.84%
  • หุ้น JMART สร้างผลตอบแทน 127.93%
  • หุ้น SISB สร้างผลตอบแทน 112.62%
  • หุ้น GULF สร้างผลตอบแทน 111.66%
  • หุ้น PTG สร้างผลตอบแทน 110.47%
  • หุ้น BGRIM สร้างผลตอบแทน 102.83%
  • หุ้น JMT สร้างผลตอบแทน 97.32%

10 หุ้นที่มีผลตอบแทนต่ำสุดในปี 62

  • หุ้น PACE สร้างผลตอบแทน -80.56%
  • หุ้น PPPM สร้างผลตอบแทน -76.34%
  • หุ้น BEAUTY สร้างผลตอบแทน -72.21%
  • หุ้น TFI สร้างผลตอบแทน -70.83%
  • หุ้น PE สร้างผลตอบแทน -70.00%
  • หุ้น CPL สร้างผลตอบแทน -67.67%
  • หุ้น NFC สร้างผลตอบแทน -62.91%
  • หุ้น CFRESH สร้างผลตอบแทน -61.95%
  • หุ้น TRC สร้างผลตอบแทน -61.17%
  • หุ้น TRUBB สร้างผลตอบแทน -57.33%

pic111

(การเปรียบเทียบกราฟ บนโปรแกรม Trade Master)

นักเทคนิคประจำหลักทรัพย์บัวหลวง วิเคราะห์ว่า หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ ที่ติดโผกำไรพลิกฟื้นปี 2563 คือ หุ้น ANAN, หุ้น SC, หุ้น LPN, หุ้น AP และหุ้น QH

pic1111

(การเปรียบเทียบกราฟ บนโปรแกรม Trade Master)

หุ้นที่เข้าข่ายเป็น “หุ้น Turn around” ของกลุ่มปิโตรเคมี ถ่านหิน และโรงไฟฟ้า คือ หุ้น IVL, หุ้น PTTGC, หุ้น EGCO และ หุ้น BANPU

Pic12

(การเปรียบเทียบกราฟ บนโปรแกรม Trade Master)

ส่วนหุ้นกลุ่มเดินเรือ กลุ่มอิเล็คทรอนิกส์ และกลุ่มโรงพยาบาล คือ หุ้น PSL, หุ้น BH และ หุ้น KCE ก็ติดโผหุ้น Turnaround เช่นกัน

Pic13

(การเปรียบเทียบกราฟ บนโปรแกรม Trade Master)

หุ้นกลุ่มประกันและโรงแรมที่คาดว่าจะพลิกเป็นกำไรปี 2563 คือ หุ้น BLA, หุ้น THREL, หุ้น ERW และ หุ้น VRANDA ส่วนบริษัทที่อาจ Turn around คือ หุ้น STEC, หุ้น TRUE, หุ้น TMB และหุ้น AH

เปิด 3 หุ้นวิ่งแรงในปี 2563!!

  • หุ้น KCE เป้าหมายครึ่งปีแรก 40 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลัง 60 – 65 บาทต่อหุ้น
  • หุ้น IRPC เป้าหมายครึ่งปีแรก 5.5 – 6 บาทต่อหุ้น ครึ่งปีหลัง 7.5 – 8 บาทต่อหุ้น
  • หุ้น LPN เป้าหมายครึ่งปีแรก 8 – 10 บาท ครึ่งปีหลัง 20 – 25 บาทต่อหุ้น

ด้านบล.เคทีบี คาดหุ้นไทยสัปดาห์แรกของปี 2563 จะเคลื่อนไหวในกรอบ 1,570-1,600 จุด โดยปัจจัยที่ต้องจับตายังคงเป็นสถานการณ์การเมืองในประเทศและทิศทางเศรษฐกิจ แต่อาจมีการเข้ามาเก็งงบการเงินไตรมาส 4/2562 กันบ้าง แต่เชื่อว่ายังไม่ใช่ตัวแปรหลักที่จะหนุนตลาดในสัปดาห์นี้ แต่จะทำให้การซื้อขายเป็นลักษณะของการเข้ามาเก็งกำไรช่วงสั้นๆ

อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นทั่วโลก ได้รับปัจจัยบวกตัวเดียวกัน คือ ความเชื่อมั่นว่าสหรัฐ – จีนจะมีการทำข้อตกลงการค้า โดยเร็วที่สุดคือสัปดาห์นี้ ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นส่งท้ายปีเข้ามา ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวขึ้น 0.5% ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่ง ณ วันนี้ ตลาดได้ผ่านจุดที่วิกฤตที่สุดในเรื่องสงครามการค้ามาแล้ว การปรับตัวสูงขึ้นของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ อาทิ ราคาน้ำมัน Silver สะท้อนต่อคำกล่าวนี้ได้เป็นอย่างดี ยกเว้นว่า สหรัฐฯ-จีน จะล้อการทำข้อตกลงการค้าเฟสแรก ทั้งนี้ ทันทีที่มีการประกาศวันที่จะลงนามข้อตกลงการค้า คาดจะเป็นบวกต่อตลาดหุ้นอีกระลอกหนึ่ง

หุ้นแนะนำประจำสัปดาห์นี้ มองว่า ดัชนีน่าจะค่อยๆ ฟื้นตัว หลังตัวแปรหลายๆตัวกลับมาหนุนตลาดอีกครั้ง โดยเฉพาะทิศทางการเมืองของไทยเอง โดยกลยุทธ์ลงทุน เน้นหุ้นขนาดใหญ่ หุ้นเก็งในเรื่องเงินปันผลงวดหลังของปี หรือเน้นไปที่ปัจจัยเฉพาะตัว โดยเรายังให้ความสนใจต่อหุ้นที่เคยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า หุ้นในพอร์ตสัปดาห์นี้ของเราประกอบด้วย OSP – BDMS – IRPC – SPALI – COM7 – TACC และ DELTA

ขอบคุณ บล.บัวหลวง, บล.เคทีบี

Avatar photo