ปีใหม่ไปเค้าท์ดาวน์ที่ไหน?
พชร์ : 24 พี่ว่าจะไปยุโรป ก็ไปเค้าท์ดาวน์ที่นู้น กลับเมืองไทยน่าจะวันที่2-3
พชร์ : ไม่ได้หนี พี่เตรียมตัวมาตั้งนานแล้ว เพราะมันต้องขอวีซ่า ขออะไรอย่างงี้ มันต้องวางแผน ไม่ใช่ปุ๊บปับไปเลย
พชร์ : ไม่จริงครับ เพราะเขาไม่สามารถที่จะยกเลิกได้ เพราะสัญญาเราเซ็นกับใครมันต้องมีวันหมด มันถึงจะเลิก หรือว่ามีการฉีกสัญญา หรือว่าจ่ายค่าสัญญาอะไรอย่างนี้
พชร์ : เขาอยากเมื่อตอนพักหลังๆ นี่แหละ เราไม่ได้ผิดสัญญาอะไรนิ ทุกอย่างถูกต้องหมด
พชร์ : คือสัญญาตอนเซ็นเราก็ไม่ได้บังคับเซ็น มันเซ็นสองฉบับหมดไปแล้ว 5 ปี แล้วก็มาเซ็นฉบับใหม่อีก 2 ปี ทำงานร่วมกันมาทั้งหมด 7 ปี โดยไม่มีปัญหาอะไรเลย ไม่มีการบอกว่าพี่พชร์โกง มีหมอดูเขาเคยไปดูให้ เขาบอกว่าพี่พชร์เปรียบเสมือนพ่อคนที่สองให้ชีวิตผมดีขึ้น จริงๆ เราไม่ได้ทำผิดสัญญา อยู่ๆ ถ้าเราเซ็นกับใครเนี่ยมาบอกว่าพี่โกงเงิน แล้วมันจะเอาคืนได้หรอ
พชร์ : พี่ไม่รู้ พี่ทำงานตามปกติ อยู่ๆ ก็มาโพสต์ด่าเราในโซเชียล อย่างนู้น อย่างนี้ หาว่าเราโกงเงินตอนทำงานถ่ายหนังด้วยกันมันมีความคุกรุ่นมาก่อนไหม?
พชร์ : เราทำตัวปกติ ตอนนั้นที่มีปัญหาคือสงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์ เขาบอกว่าเราโกงเงินค่าโปรโมท แล้วถ้าเราโกงจริง ทำไมเขาไม่คุยตั้งแต่ตอนนั้น จนมาเล่นหลวงตามหาเฮง จบไปอีกเรื่อง หลวงตาฉาย ก.ค-ส.ค.เพิ่งจะมาบอกว่าเราโกงเงิน คือเขาจะเอาสัญญาคืนไง คือการเอาสัญญาคืนมันต้องมีการทำผิดสัญญามันถึงจะคืนได้ เราทำงานมา 7 ปีพี่พชร์ไม่เคยโกงเงินน้องสักบาทเลยนะ พี่พชร์เหมือนพ่อคนที่สองของผม แต่พออยู่วันนึงไม่รู้ใครยุอิท่าไหน จะมาเอาสัญญาคืน
ณ ตอนนี้เสียใจหรือเสียดายมากกว่ากัน?
พชร์ : เสียความรู้สึกแล้วก็เสียใจ คือเราให้เขาเยอะมาก ให้เยอะกว่าคนอื่น เยอะกว่าทุกค่ายด้วย เขาเซ็นสัญญา 7 ปี เล่นหนัง 13 เรื่อง รวมแล้วประมาณ 10 กว่าล้านที่ได้เงินจากพี่ไป แล้วถ้าพี่โกงจริง ทำไมพี่ไม่โกงตอน 10 กว่าล้าน โกงทำไมแสนนึง
พชร์ : คือในสัญญาที่เซ็นมันแล้วแต่พี่ เพราะพี่เป็นกรรมการบริษัท เป็นประธานบริษัท แล้วแต่พี่ว่าจะให้เท่าไหร่ อะไร นักแสดงไม่มีสิทธิ์บอก แต่ที่พี่ให้อยู่เนี่ยให้เยอะกว่าคนอื่น ให้จนเด็กคนอื่นมาด่าพี่ ทำไมให้เขาเยอะ เราให้เยอะ เราถึงเสียใจไง และเสียความรู้สึกมากกว่า
พชร์ : แฟนเขาเนี่ยพี่ก็รู้จัก แตงโมพี่รู้จักอยู่แล้ว เพราะว่าแตงโมเล่นหนังกับพี่ แล้ววันแรกที่แตงโมมาถามพี่ ส่งข้อความมาในไลน์ พี่พชร์ค่ะ…เขามาจีบหนู พี่พชร์ว่ายังไง พี่ก็บอกว่าก็แล้วแต่หนูแล้วกัน แต่อย่าอย่ามาเกี่ยวกับพี่นะ พี่ไม่ชอบอะไรแบบนี้อยู่แล้ว อันนี้คือเรื่องจริง พี่ก็โทรศัพท์ไปถามเด็กว่าจริงไหม เขาก็บอกว่าจริงครับ ผมรักของผม งั้นเราคุยกันแต่เรื่องงานนะ เรื่องนี้เราไม่คุย ก่อนหน้านั้นเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว ตอนมาเล่นหนังเรื่องแรกเขาก็มีแฟนอยู่แล้ว เรื่องที่สองเขาก็มีแฟน เราก็ไม่เคยว่า อย่างแตงโมพี่ก็ยังคบอยู่ คุณพ่อไม่สบายหรอแตงโม เอาพี่ให้เงินไปก่อน 50000 บาท ให้ไปช่วย คุณพ่อไม่สบายเราก็ยังคุยกันอยู่ เราไม่ได้ว่าแตงโม แตงโมไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง
กับอดีตพระเอก ตอนที่มีข่าว เราได้มีการโทรคุย โทรเคลียร์กันไหม?
พชร์ : เราเป็นผู้ใหญ่เขาต้องโทรมาเคลียร์กับเราเขารู้จักบ้านเรา เขารู้จักออฟฟิศเรา เขารู้จักเราว่าเราอยู่ไหน ทำไมนักข่าวตามตัวพี่ได้
พี่ว่าจะจบยังไง?
พชร์ : ก็ต้องเคลียร์กัน เพราะตอนนี้พี่ฟ้องเขาอยู่ ฟ้องหมิ่นประมาท เพราะเขามาว่าพี่โกงค่าตัว พี่ก็ต้องป้องกันศักดิ์ศรีของตัวเอง คิดดู 7 ปีทำงานมาด้วยกันไม่มีคำว่าโกงออกจากปากเขา แต่พอจะเอาสัญญาคืนโกงอย่างนู้น อย่างนี้ เวลาเขาพูดกับทนายเขาก็จะบอกว่าเราโกง เราผิดสัญญา แต่พี่ไม่เคยผิดสัญญา ขนาดมีปัญหาเรื่องสงกรานต์แสบสะท้านโลกันต์ เขาก็มาเล่นหลวงตาให้พี่ ทำไมไม่เคลียร์กันตั้งแต่ตอนนั้น ถ้าบอกว่าโดนบังคับให้เล่นเป็นไปไม่ได้ เพราะว่าเขาเล่นเป็นคนขาเป๋สองข้าง ถ้าเขาไม่เต็มใจเล่นก็ไม่ใช่ บังคับกันไม่ได้
ถ้าวันนั้นไม่มีประเด็นโกงเงิน แล้วถ้าน้องเดินมาบอกกับพี่ดีๆ ว่าอยากยกเลิกสัญญาพี่จะให้โอกาสไหม?
พชร์ : พี่เป็นคนใจดีจะตาย เด็กๆ พี่กี่คนในวงการบันเทิง เคยมีปัญหาเรื่องนี้กับพี่ไหม ทุกคนไม่เคยมีปัญหาเลย ไปดีๆ ก็ไป แต่พอมีปัญหาปุ๊บ มันก็มีการฉีกสัญญา พอฉีกสัญญาปุ๊บมันก็มีค่าฉีกสัญญา เพราะว่าการที่เราจะปั้นใครคนนึงไม่ใช่บาทสองบาท เราต้องใช้เงินเป็นสิบๆ ล้าน ปั้นให้เขามาเป็นพระเอก เป็นตัวเด่น มันก็มีกรณีตัวอย่างอยู่แล้ว ยกเลิกสัญญาก็ต้องจ่ายเงิน
อยากจะบอกอะไรกับอดีตพระเอกคนนี้?
พชร์ : เขาต้องคิดที่เขาเคยพูดว่า พี่เป็นพ่อคนที่สองของเขา แล้วการที่เอาพ่อคนที่สองไปด่าออกโซเชียล ไอคำว่าโกงพี่จะโกรธที่สุด เพราะพี่ไม่ได้โกง แล้วก็เขาเป็นเด็ก เขาต้องเข้าหาผู้ใหญ่ นับตั้งแต่วันที่มีเรื่องจนถึงวันนี้ เขาไม่เคยติดต่อมาเลย
แล้วภาพยนตร์ที่ถ่ายกับแน็ก ชาลี คือเรื่องไร?
พชร์ : พจมานสว่างคาตา มันเป็นหนังผีซ่อนผี
พชร์ : พี่ก็งงนะ พี่ถ่ายหนังอยู่ พี่ก็ถ่ายรูปแน็ก แล้วก็โพสต์ ไม่มีใครสนใจชื่อหนังฉันสักคน สนใจแต่หำไอแน็ก ก่อนลงก็ไม่ได้ตรวจ ไม่ได้คิด
พชร์ : โปรโมทอะไรหนังยังไม่เข้า หนังเข้าตั้งเดือนเมษา ทำไมคนชอบคิดว่าฉันโปรโมทหนัง มันอยู่ที่มุมกล้องมากกว่า
พชร์ : ถ้ากินข้าว พี่ก็ซื้อกินนะ ถ้าซื้อผู้ชายส่วนใหญ่จะมีแฟน พี่มีแฟน แต่ปิดเงียบไม่บอกใคร
พชร์ : มี
พชร์ : ก็แล้วแล้ว 5 พัน 3 พัน 2พัน แล้วแต่
มันต่างกันยังไง?
พชร์ : ส่วนใหญ่ที่ชอบก็ชอบหน้าตายังไง หุ่นไม่จำเป็น เราชอบคนแบบไม่พูดมาก ชอบคนออกสาวนิดๆ
ที่เคยจ่ายแพงที่สุดเท่าไหร่?
พชร์ : ก็แล้วแต่เราชอบหรือเปล่า ตอนแรกก็ยังไม่เป็นแฟน พอเป็นแฟนกันเสร็จก็ให้เงิน เรียกว่าไม่ได้จ่ายค่าตัวให้เงินเขาไปเรียนหนังสือดีกว่า ก็ หมื่นนึง สองหมื่นยังเคยให้ เราก็อยากให้เด็กเรียนหนังสือให้จบก็เลยให้ โทรศัพท์ไอโฟนทุกรุ่นเลย นะ พอรุ่นใหม่ออกมาโทร.หายิกๆ 3 ตามั้ง 2 ตามั้ง จะเอา ก็มีโทรมา 4-5 คน
ยังนับว่าพี่ไม่เลือกใคร พี่ถือว่าโสดหรือไม่โสด?
พชร์ : แฟนมีแล้ว แต่พวกนั้นคือคนรู้จัก แฟนก็ได้หน่วยความจำเยอะหน่อย แฟนไม่โกรธ เข้าใจกัน กลายเป็นเพื่อนซี้กันไปแล้ว อยู่กันมา 7-8 ปีแล้ว
เคยมีเด็กเข้ามาหาเราแล้วออฟเฟอร์ตัวเอง เพื่อจะเล่นหนังไหม?
พชร์ : เคยมีแต่พี่ไม่ชอบ พี่ไม่ชอบพวกที่มาเสนอตัวเอง สมัยหลังสวนดังๆ มากันเต็มเลย พี่นั่งอยู่ มาเสนอตัว คือจะบอกว่าการเป็นแฟนมันถูกใจหรือเปล่า บางคนเข้ามาหล่อเลย แต่เราไม่ชอบ
จริงหรือเปล่า ณ วันนี้พี่เลี้ยงเด็กอยู่เป็น 10 คน?
พชร์ : คือจริงๆ มันไม่ได้เลี้ยงหรอก เราส่งเรียนหนังสือมากกว่า ก็ไม่ถึง 10 คน ประมาณ 3-4 คน ไปเรียนให้จบๆ ไม่อยากให้เขาลำบาก เพราะเราลำบากมาก่อน
ค่าเทอมแลกกับอะไร?
พชร์ : แลกกับไว้โทรศัพท์คุยกัน เราไม่ได้มองเห็นเรื่องเซ็กส์แล้วนะ ตอนนี้อายุ 50 กว่าแล้ว รู้สึกว่าเรื่องเซ็กส์มันหมดไปแล้วนะ มันไม่ค่อยสนใจแล้วไง เราไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาหาเรา มาเพื่ออยากได้เงินเรา อยากเป็นดารา หรืออยากเป็นอะไรเราไม่รู้ เพราะเราเจอมาหลายอย่าง จนเราเบื่อ เราไม่มีก็ได้ แต่ก็มีไว้ไปเที่ยวกัน คุยกัน อะไรอย่างงี้
คลิปสัมภาษณ์ พชร์ อานนท์