การเขียนจดหมายหรือข้อความด้วยลายมือ เป็นสิ่งคนเราใช้เพื่อส่งข่าว หรือแสดงความรู้สึกต่างๆ มานานหลายร้อยปี ทั้งลายมือยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ที่ตัวพิมพ์ในยุคดิจิทัลเข้ามาทดแทนไม่ด้ แต่ปัจจุบัน ผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้หันไปใช้บริการจ้างหุ่นยนต์เขียนจดหมาย และการ์ดอวยพรเลียนแบบลายมือมนุษย์
หนังสือพิมพ์เดอะ วอชิงตัน โพสต์ รายงานว่า รายงานว่า หุ่นยนต์เหล่านี้สามารถทำให้ตัวหนังสือหรือลายมือออกมาสมจริง บางแห่งมีการทำให้เกิดรอยเปื้อน รอยน้ำหมึกหยด หรือตั้งโปรแกรมให้หุ่นยนต์เว้นช่องไฟ ลงน้ำหนักมือไม่สม่ำเสมอ เพื่อให้เหมือนการเขียนคนมากที่สุด
ตัวอย่างของเรื่องนี้ รวมถึง “แฮนด์ริทเทน” (Handwrytten) บริษัทในรัฐแอริโซนา สหรัฐ ที่นำหุ่นยนต์ 80 ตัว มานั่งเขียนจดหมาย การ์ดขอบคุณ และบัตรอวยพรด้วยปากกาสีน้ำเงินกว่า 100,000 ชิ้นต่อเดือน
ในช่วง 5 ปี นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท แฮนด์ริทเทนมีลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก และขยายวงกว้างไปในหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มเผยแพร่ศาสนาที่ส่งการ์ดให้นักโทษในเรือนจำ ลูกหลานที่ส่งจดหมายให้พ่อแม่ ไปจนถึงร้านค้าแบรนด์หรู บริษัทผลิตรถยนต์ และองค์กรไม่หวังผลกำไร ที่ยอมจ่ายเงิน 3 ดอลลาร์ เพื่อให้ได้การ์ดที่หุ่นยนต์เขียน ซึ่งแม้จะไม่มีการเปิดเผยรายได้อย่างเป็นทางการ แต่คาดกันว่า บริษัทจะมีรายได้ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 3 เท่า
บริการของแฮนด์ริทเทน มีตัวอักษรให้เลือก 20 แบบ ถ้าไม่ใช้อย่างที่อยากได้ ลูกค้าก็สามารถจ่ายเงิน 1,000 ดอลลาร์ เพื่อให้บริษัทสร้างตัวอักษร (Font) ขึ้นมาจากลายมือของตัวเอง ส่วนใครที่อยากให้เพิ่มลายเซ็นลงไปในการ์ดลายมือหุ่นยนต์นี้ ก็ต้องจ่ายเพิ่มอีก 150 ดอลลาร์ ซึ่งบริการนี้เป็นที่นิยมในกลุ่มนักการเมือง และผู้บริหารจากบริษัทต่างๆ
หุ่นยนต์จะใช้เวลาในการเขียนการ์ด 1 ใบ ไม่เกิน 5 นาที ซึ่งแม้เดวิด วัคส์ เจ้าของบริษัทจะมองว่าช้าเกินไป แต่ข้อดีของหุ่นยนต์เหล่านี้ก็คือ ทำงานได้ 24 ชั่วโมงโดยไม่จำเป็นต้องพัก ทั้งเวลาที่กระดาษ หรือหมึกหมด หุ่นยนต์เหล่านี้ก็ยังสามารถส่งข้อความไปหาพนักงานที่เป็นคน เพื่อแจ้งเรื่องเหล่านี้
นอกจากแฮนด์ริทเทนแล้ว ยังมีบริษัทอเมริกันอีกจำนวนหนึ่ง ที่ให้บริการในรูปแบบคล้ายๆ กันนี้ อย่าง เฟลท์ (Felt) ในรัฐโคโลราโด สหรัฐ มีบริการที่ให้ลูกค้าใช้นิ้วมือ หรือปากกาสไตลัส (stylus) เขียนข้อความลงบนสมาร์ทโฟน ก่อนที่จะส่งมายังบริษัท และโพสเทเบิล (Postable) ในรัฐนิวยอร์ก สหรัฐ ที่ให้ลูกค้าตั้งเวลาส่งการ์ดได้ล่วงหน้าเป็นปี
อย่างไรก็ดี แม้จะเป็นธุรกิจที่ทำงาน แต่ธุรกิจทำนองนี้ก็ได้รับเสียงวิจารณ์ไม่น้อยว่า การเอาท์ซอร์สงานให้กับหุ่นยนต์แบบนี้ ทำให้การเขียนข้อความส่วนตัวของมนุษย์สูญเสียคุณค่าที่เคยมี และเป็นตัวอย่างของการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้าง “ของจริงแบบปลอม ๆ” ขึ้นมา
เอเลน แฮนด์เลอร์ สปิตส์ ศาสตราจารย์จากมหาวิทยาลัยเยล กล่าวว่า แม้จะเป็นแผนการธุรกิจที่ชาญฉลาด แต่การให้หุ่นยนต์เขียนข้อความส่วนตัว ทำให้เธอรู้สึกเหมือนถูกทรยศ เพราะการเขียนด้วยลายมือ เป็นสิ่งที่ต้องใช้ความพยายามและใช้เวลา แสดงออกถึงความสนิทสนมลึกซึ้งระหว่างผู้ให้และผู้รับ
กระนั้นก็ตาม ผู้ใช้บริการบางคนกลับบอกว่า พวกเขายินดีที่จะให้หุ่นยนต์เขียนการ์ดแทน เพราะพวกเขาไม่ชอบการนั่งเขียน บ้างก็บอกว่าลายมือของตัวเองดูไม่ได้ ทั้งยังเห็นว่า จะเขียนเอง หรือให้หุ่นยนต์เขียนก็ไม่ต่างกัน เพราะสิ่งที่สำคัญยิ่งกว่าเจ้าของลายมือ คือ ความคิดถึง และความตั้งใจ ที่ผู้ส่งมีให้ผู้รับ
ที่มา : VOA
