Economics

เรียกร้องประชุมกบง.ลดค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน 47 สตางค์/ลิตร

คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม ยังไม่ได้ข้อสรุปลดราคาหน้าโรงกลั่น หารืออีกที 9 มกราคม 2563  ฝ่ายภาคประชาชนกระตุ้น ต้องประชุมกบง.ลดค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมันก่อน 47 สตางค์/ลิตร ไม่ให้ประชาชนเสียประโยชน์ ด้านกระทรวงพลังงานย้ำต้องหาข้อสรุปก่อน ชี้เป้าหมายราคาต้องเป็นธรรมกับทุกฝ่าย 

ยังไม่มีความคืบหน้าสำหรับผลการลดราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันของ คณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม แม้ก่อนหน้านี้คณะทำงานซีกกระทรวงพลังงานคาดหวังจะได้ข้อสรุป สามารถประกาศลดราคาน้ำมันเป็นของขวัญปีใหม่

DSC 5596

โดยล่าสุดนางสาวรสนา โตสิตระกูล หนึ่งในคณะทำงานเพื่อพลังงานที่เป็นธรรม ออกมาระบุว่า เมื่อโครงสร้างราคาน้ำมันหน้าโรงกลั่นร่วมกัน ก็ไล่มาดูค่าพรีเมี่ยมแต่ละตัว ประกอบด้วย ค่าขนส่งจากสิงคโปร์มาไทย ค่าประกันภัย ค่าปรับปรุงคุณภาพ และค่าสำรองน้ำมัน รวมประมาณ 1.3-1.5 บาทต่อลิตร และก็พบว่า ในส่วนของค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน คิดเป็นละลิตรละ 47 สตางค์ หรือวันละประมาณ 15 ล้านบาทที่โรงกลั่นน้ำมันได้ไปจากโครงสร้างสูตรนั้น ควรต้องถอดออกเลยทันทีไม่ต้องรอสรุปทั้งหมด โดยนำเข้าคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) เลย

ทั้งนี้เพราะค่าใช้จ่ายตรงนี้ ควรต้องถูกตัดไปตั้งแต่เมื่อ 5 เดือนก่อน เมื่อสิงคโปร์ ซึ่งเป็นประเทศที่ เราใช้อ้างอิงราคาในสูตรหน้าโรงกลั่น ประกาศใช้น้ำมันมาตรฐานยูโร 4 เหมือนไทยจากเดิม สิงคโปร์ใช้มาตรฐานยูโร 3 แต่ก็พบว่าไม่มีตัดออกมา 5 เดือนแล้ว  ทางสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) ระบุจะนำเข้าที่ประชุมกบง. แต่ก็ไม่มีการประชุมจนถึงวันนี้ เราเห็นว่ายิ่งช้า ประชาชนก็ยิ่งเสียประโยชน์

“ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานประกาศลดราคาน้ำมัน 1 บาทต่อลิตรทุกชนิด มีผลระหว่าง 26 ธันวาคม 2562 จนถึง 10 มกราคม 2563 นั้น ไม่ใช่ของขวัญที่รัฐบาลให้ประชาชน เพราะเป็นนำเงินกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ที่เก็บจากผู้ใช้รถอยู่แล้วมาลดราคา หากจะลดค่าครองชีพประชาชนจริงๆต้องลดจากภาษีน้ำมันสักครึงหนึ่ง หรือ  3 บาทต่อลิตร “

ด้านนายรุ่งชัย จันทสิงห์ เครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงาน (คปพ.) คณะทำงาน ระบุว่า ยังไม่มีการพูดคุยกับโรงกลั่นแต่อย่างใด แต่โรงกลั่นได้ส่งข้อมูลผ่านสนพ.มา โดยจะมีการหารือในคณะทำงานชุดเล็กอีกครั้งในวันที่ 9 มกราคมนี้ ที่จะมาดูรายละเอียดของโครงสร้างราคาของโรงกลั่นกันจริงๆ ซึ่งเป็นความลับทางการค้าของโรงกลั่น จึงต้องกำหนดคณะทำงานชุดเล็กขึ้นมา ประกอบด้วย นายมนูญ ศิริวรรณ นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล และรองผู้อำนวยการสนพ. ส่วนของภาคประชาชน มีตนเอง มล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี และนางสาวบุญยืน ศิริธรรม

เป้าหมายของการหารือ ก็คือต้องการให้สูตรราคาหน้าโรงกลั่นออกมาเป็น ราคาสิงคโปร์ ลบx ส่วนตัวเลขลบจะเป็นอย่างไรก็ต้องพูดคุยกัน ซึ่งค่าพรีเมี่ยมหลายตัวน่าจะถอดได้ โดยเฉพาะค่าปรับปรุงคุณภาพน้ำมัน และค่าสำรองน้ำมันเพื่อความมั่นคง

10102019 ๑๙๑๐๑๖ 0082

ขณะที่นายวัชระ กรรณิการ์ โฆษกกระทรวงพลังงาน ระบุว่า เรื่องนี้ยังอยู่ระหว่างการหารือ ซึ่งเราได้ทำข้อตกลงกันไว้แล้วว่า จะไม่มีการออกสื่อจนกว่าจะได้ข้อสรุปอย่างแท้จริงเสียก่อน ให้ทุกฝ่ายเปิดใจ ลดอัตตา การทำงานให้เอาประชาชนเป็นตัวตั้งเสมอ ไม่นำการประชุมนี้ที่ทุกฝ่ายตั้งใจมาทำงานร่วมกันไปสร้างชื่อ เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องอ่อนไหว การให้ข้อมูลด้านเดียว จะทำให้ประชาชนได้รับข้อมูลด้านเดียวเช่นดียวกัน ไม่เกิดประโยชน์ และยืนยันว่า “ราคาที่เป็นธรรม คือเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ไม่ใช่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง “

“กระทรวงพลังงานทำหน้าที่วางกฎกติกา ไม่ใช่เอาอกเอาใจฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพื่อหาเสียง เพราะวันหนึ่งเมื่อความจริงปรากฎ หากพูดไม่ตรงข้อเท็จจริง คนที่ได้รับผลเสีย คือกระทรวงพลังงานเอง และประชาชนก็ไม่ได้ประโยชน์ การทำงานครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่รัฐมนตรีคนนี้ได้นำปัญหาที่หมักหมมมานาน ซึ่งไม่ได้เพิ่งเกิดในยุคนี้ และเป็นหัวข้อที่ถูกเรียกร้องข้างทำเนียบข้างกระทรวง นำขึ้นมาคุยเป็นทางการบนชั้น 25 ของกระทรวงพลังงาน ภายใต้โครงสร้างคณะทำงานที่มีทุกฝ่ายมาร่วมหารือกัน เงื่อนไขของเรา คือไม่มีเงื่อนไข จะได้ไม่ได้แค่ไหนก็ต้องได้ข้อสรุปออกมา “

 

Avatar photo