เกมบิ๊กแมตช์ศึกบ็อกซิ่งเดย์ คืนนี้ “จิ้งจอกน้ำเงิน” เลสเตอร์ เปิดรังคิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม รับมือ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล โดยตารางคะแนนเจ้าถิ่นตามหลังอยู่ 10 แต้มกับเกมที่เตะมากกว่า 1 นัด ฉะนั้นเกมนี้จำเป็นต้องชนะหากยังหวังลุ้นแชมป์ลีกในบั้นปลาย
ก่อนเกมจะเริ่มในเวลา 03.00 น. เรามีเกร็ดข้อมูล และ สถิติที่น่าสนใจของเกมนี้มาให้ติดตามกัน
ผลงานที่เคยพบกันที่ผ่านมา
- เลสเตอร์ แพ้ 4 จาก 5 เกมหลังสุดที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ในศึก พรีเมียร์ลีก (เสมอ 1) โดยชัยชนะเหนือ “หงส์แดง” ครั้งล่าสุดของพวกเขาคือการชนะ 3-1 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2017
- ถ้า ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะได้ ก็จะถือเป็นครั้งแรกที่พวกเขาบุกไปชนะ เลสเตอร์ ถึงบ้าน 3 ครั้งติดในการเล่นลีกสูงสุดเมืองผู้ดี
ผลงานการพบกันที่ผ่านมา 5 นัดหลังสุด
- 05/10/19 ลิเวอร์พูล 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
- 31/01/19 ลิเวอร์พูล 1-1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
- 01/09/18 เลสเตอร์ ซิตี้ 1-2 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
- 30/12/17 ลิเวอร์พูล 2-1 เลสเตอร์ ซิตี้ (พรีเมียร์ลีก)
- 23/09/17 เลสเตอร์ ซิตี้ 2-3 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก)
เกร็ดก่อนเกมฝั่งเลสเตอร์ ซิตี้
- เลสเตอร์ ไม่แพ้ในบ้าน 11 เกมติดรวมทุกรายการ (ชนะ 8 เสมอ 3) หรือนับตั้งแต่พ่าย นิวคาสเซิ่ล 0-1 เมื่อเดือนเมษายน
- เกมที่บุกแพ้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ 1-3 ถือเป็นครั้งแรกที่ เลสเตอร์ เสีย 3 ประตูในเกม พรีเมียร์ลีก นับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
- ถ้าไม่นับเกมที่แพ้ “เรือใบสีฟ้า” ฤดูกาลนี้ เลสเตอร์ มีสถิติชนะเกม พรีเมียร์ลีก ทั้ง 9 นัด ที่พวกเขาทำประตูขึ้นนำก่อน
- เลสเตอร์ ไม่แพ้เกมลีกสองนัดติด นับตั้งแต่ที่เคยแพ้ถึงสามเกมติดช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นสามเกมสุดท้ายยุคกุนซือ โคล้ด ปูแอล ด้วย
- ในรอบปี 2019 เจมี่ วาร์ดี้ ทำประตูในเกมพรีเมียร์ลีก ไปทั้งสิ้น 29 ลูก ซึ่งมากกว่าทุกคนในลีก โดยทิ้งห่างอันดับสองอย่าง ซาดิโอ มาเน่ (ลิเวอร์พูล) ถึง 6 ลูก
- ใน 3 เกมหลังสุดที่เจอกับ ลิเวอร์พูล ที่สนาม คิง เพาเวอร์ สเตเดี้ยม วาร์ดี้ ยิงได้ถึง 5 ลูก โดยถ้านับรวมเกมเยือน แอนฟิลด์ ด้วยแล้วเขายิงลิเวอร์พูล ในเกมลีกได้รวมถึง 7 ประตู ทำให้เขาเป็นนักเตะที่ยิงในลีกใส่ ลิเวอร์พูล ได้มากที่สุดเป็นอันดับ 3 แพ้แค่ แอนดี้ โคล กับ เธียร์รี่ อองรี เท่านั้น โดย โคล กับ อองรี ทำไป 11 ลูก กับ 8 ประตู ตามลำดับ
เกร็ดก่อนเกมฝั่งลิเวอร์พูล
- ถ้า ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะในเกมนี้ได้ จะเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรที่เก็บชัยชนะในโปรแกรมบ็อกซิ่ง เดย์ ได้ถึง 5 ครั้งติดต่อกัน โดย 4 เกมก่อนหน้านี้ที่ชนะช่วงบ็อกซิ่ง เดย์ พวกเขาทำประตูได้รวมแล้ว 11 ลูก และไม่เสียประตูเลย
- ถ้านับตลอดทั้งปี 2019 (หมายถึงตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2019 เป็นต้นมา) แล้วนั้น ลิเวอร์พูล เก็บชัยชนะในลีกได้ถึง 29 เกม โดยครั้งเดียวที่พวกเขาชนะในลีกภายในรอบปีปฎิทินเดียว (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึงวันที่ 31 ธันวาคมของปีเดียวกัน) ได้มากกว่าปีนี้คือปี 1982 ที่ทำได้ถึง 33 นัด
- เวลานี้ ลิเวอร์พูล รั้งตำแหน่งจ่าฝูง ด้วยการมีคะแนนนำอันดับสองถึง 10 แต้ม ซึ่งในประวัติศาสตร์ลูกหนังเมืองผู้ดี มีเพียงแค่หนเดียวเท่านั้น ที่ทีมจ่าฝูงมีคะแนนนำอันดับสองอย่างน้อย 10 แต้มในช่วงคริสต์มาส แต่สุดท้ายไม่ได้แชมป์ลีก ซึ่งนั่นคือ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด เมื่อฤดูกาล 1995/96
- ลิเวอร์พูล ชนะ 25 จาก 26 เกมหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก (เสมอ 1) ซึ่งนั่นก็รวมถึงการชนะ 16 จาก 17 เกมในฤดูกาลนี้
- “หงส์แดง” ไม่แพ้เกม พรีเมียร์ลีก มา 34 นัดติด (ชนะ 29 เสมอ 5)
- ลิเวอร์พูล ทำ 2 ประตูหรือมากกว่าได้ถึง 23 จาก 26 เกมหลังสุดในศึก พรีเมียร์ลีก
- นอกจากนี้ “หงส์แดง” ยังเป็นเพียงทีมเดียวในศึก พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ ที่ทำประตูได้ครบทั้ง 17 นัด
