รายงานล่าสุดชี้ แนวโน้มเศรษฐกิจเอเชียในปี 2563 ยังอ่อนแออยู่ หลังตกอยู่ในภาวะชะลอตัวอย่างกะทันหันในปีนี้ และสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ยังยืดเยื้ออยู่
วันนี้ (25 ธ.ค.) ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจญี่ปุ่น (เจซีอีอาร์) และนิกเคอิ เปิดเผยรายงานการสำรวจเศรษฐกิจรายไตรมาสฉบับล่าสุด ที่ดำเนินการสำรวจความคิดเห็นจากนักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์จากอินเดีย และ 5 ชาติเศรษฐกิจใหญ่สุดในสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) คือ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย
การสำรวจพบว่า อัตราการเติบโตของ 5 ชาติเศรษฐกิจขนาดใหญ่สุดในอาเซียน น่าจะขยับขึ้นเล็กน้อยมาอยู่ที่ 4.2% จากระดับ 3.9% ในปี 2562 ซึ่งยังเป็นอัตราการขยายตัวที่อยู่ในระดับต่ำกว่าปี 2561 อยู่มาก
ส่วนอินเดีย คาดว่า ปีงบประมาณ 2562/2563 เศรษฐกิจจะขยายตัวที่ราว 5.0% ดิ่งลงอย่างมากจากที่เคยขยายตัวถึง 5.8% ในปีงบประมาณก่อน สาเหตุหลักจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก และปัญหาภายในภาคการเงินท้องถิ่น
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ยังชี้ว่า ความตึงเครียดระหว่างจีนกับสหรัฐ การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ การชะลอตัวของเศรษฐกิจจีน และความเสี่ยงด้านภูมิศาสตร์การเมือง จะยังเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
ตัวเลขคาดการณ์แนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2563 ยังอยู่ในระดับเดิมจากการสำรวจครั้งก่อน แต่เพิ่มขึ้น 0.3% สำหรับการประเมินการขยายตัวของเศรษฐกิจในปีนี้
รายงานระบุด้วยว่า การชะลอตัวจะเกิดขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ในประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่าง มาเลเซีย ไทย และสิงคโปร์ โดยคาดว่า มาเลเซียจะเติบโตลดลงจากระดับ 4.7% ในปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 4.5% ในปีนี้ และ 4.3% ในปีหน้า
ขณะที่เศรษฐกิจไทย คาดว่าจะลดการขยายตัวลงมาเหลือ 2.4% ในปี 2562 หรือร่วงลงถึง 1.7% จากการเติบโตเมื่อปี 2561 และในปี 2563 คาดว่าจะขยายตัวเพียง 2.6% และเศรษฐกิจสิงคโปร์ มีแนวโน้มที่จะโตเพียงแค่ 0.7% ในปีนี้ ดิ่งลงอย่างมากจากการขยายตัว 3.1% ในปีที่แล้ว
ทางด้านเศรษฐกิจอินโดนีเซีย คาดว่าจะขยายตัวราว 5% ทั้งในปีนี้ และปีหน้า แรงหนุนจากความต้องการในประเทศที่ยังแข็งแกร่ง แต่ยังตกอยู่ภายใต้แรงกดดันจากการส่งออกที่โตน้อยลง เพราะราคาโภคภัณฑ์อยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ
สำหรับฟิลิปปินส์คาดว่า เศรษฐกิจจะขยายตัวไม่ถึง 6% ในปีนี้ เป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากความล่าช้าในการลงทุนสาธารณะ แต่มีแนวโน้มที่จะขยับขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 6.5% ในปี 2563 จากกระแสคาดการณ์ว่า รัฐบาลจะดำเนินมาตรการอัดฉีดเศรษฐกิจแบบ 2 เท่า อาทิ การเพิ่มใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐานะ และผ่อนคลายนโยบายการเงินเพิ่มมากขึ้น
ที่มา : Nikkei Asian Review
