พรุ่งนี้ (24 ธ.ค.) ชง ครม. ขยายสัมปทานให้ “BEM” 15 ปี ล้างหนี้ค่าโง่ 5.8 หมื่นล้าน “ชัยวัฒน์” โวผลการเจรจาเป็น “Super Deal” เกิดประโยชน์สูงสุด แต่ยอมรับไฟลนก้น ต้องปิดดีลให้จบภายใน 29 ก.พ. 63
นายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ปลัดกระทรวงคมนาคม เปิดเผยระหว่างการแถลงข่าวเรื่อง “การยุติข้อพิพาททางพิเศษ (ทางด่วน)” ณ อาคารสโมสรและหอประชุม กระทรวงคมนาคม วันนี้ (23 ธ.ค.) ว่า ก่อนการแถลงข่าววันนี้ กระทรวงคมนาคมและการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ได้รายงานแนวทางการเจรจายุติข้อพิพาททางด่วนระหว่างการทางพิเศษฯ และบริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ให้นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบ และจะเสนอแนวทางดังกล่าวให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาในวันพรุ่งนี้ (24 ธ.ค.)
สำหรับแนวทางในการแก้ไขข้อพิพาทครั้งนี้ คือ การทางพิเศษฯ จะขยายสัมปทานทางด่วนให้ BEM จำนวน 3 ฉบับ โดยสัญญาจะสิ้นสุดพร้อมกันในวันที่ 31 ตุลาคม 2578 เพื่อแลกกับการยุติข้อพิพาทเรื่องการแข่งขัน, การไม่ให้ขึ้นค่าผ่านทาง และข้อพิพาทอื่นๆ มูลค่ารวม 58,873 ล้านบาท ได้แก่
- ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A, B และ C รวมทางด่วนขั้นที่ 1 ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ก็ให้ขยายระยะเวลาออกไปอีก 15 ปี 8 เดือน เป็นสิ้นสุดสัญญาถึงวันที่ 31 ตุลาคม 2578
- ทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 22 เมษายน 2570 ก็ให้ขยายระยะเวลาออกไป 8 ปี 6 เดือน เป็นสิ้นสุดสัญญาวันที่ 31 ตุลาคม 2578
- ทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด ส่วน C+ ซึ่งจะสิ้นสุดสัญญาวันที่ 27 กันยายน 2569 ก็ให้ขยายระยะเวลาออกไป 9 ปี 1 เดือน เป็นสิ้นสุดสัญญาวันที่ 31 ตุลาคม 2578
ตัด “ทางด่วนชั้น 2” จากการเจรจา
สำหรับกรณีที่การทางพิเศษฯ เคยเจรจาให้ BEM ลงทุนก่อสร้างทางด่วนชั้นที่ 2 (Double Deck) ช่วงประชาชื่น-อโศก (บึงมักกะสัน) ระยะทาง 17 กิโลเมตร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจรและปัญหาข้อพิพาทไปพร้อมกัน ซึ่งจะส่งผลให้ BEM ได้รับการขยายสัญญาสัมปทานออกไปอีกถึงปี 2593-2600 นั้น
นายชัยวัฒน์กล่าวว่า กระทรวงคมนาคมได้ตัดการเจรจาเรื่อง Double Deck ออกไปแล้ว เพราะโครงการก่อสร้าง Double Deck เป็นประเด็นเพิ่มเติม ไม่เกี่ยวกับการเจรจาแก้ไขปัญหาข้อพิพาท ขณะเดียวกันโครงการ Double Deck ก็ยังไม่มีความแน่นอน เพราะการทางพิเศษฯ ต้องจัดทำรายงานวิเคราะห์ผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (EIA) อีก 2 ปี จึงไม่ควรนำเสนอ ครม. ในตอนนี้
นอกจากนี้ การทางพิเศษฯ และกระทรวงคมนาคมก็ขอความร่วมมือให้ BEM ยอมรับเงื่อนไขอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ขอให้ BEM ยกเว้นค่าผ่านทางในวันหยุดตามประกาศสํานักนายกรัฐมนตรีตลอดอายุสัมปทาน ในทุกด่านและตลอดทั้งวัน ซึ่งคิดเป็นจำนวน 18-19 วันต่อปี
จากการหารือกับเอกชนเบื้องต้นก็พบว่า BEM เห็นด้วยกับแนวทางการเจรจาดังกล่าว และยินดีจะให้ความร่วมมือเรื่องการยกเว้นค่าผ่านทางในช่วงวันหยุด เพราะ BEM ก็มองว่าตนเองเป็นเอกชนที่มีอาชีพบริหารทางด่วน
“ต้องขอบคุณบอร์ดและผู้บริหารการทางพิเศษฯ ที่ช่วยเจรจา โดยคณะทำงานของกระทรวงคมนาคมพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นตัวเลขที่ดีมาก เป็น Super Deal เกิดประโยชน์สูงสุด แต่เราจะไม่พูดถึงเรื่อง Double Deck เพราะมันไม่เกี่ยวกับข้อพิพาท” นายชัยวัฒน์กล่าว
ไฟลนก้น
นายชัยวัฒน์กล่าวต่อว่า หากพรุ่งนี้ ครม. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามที่เสนอ กระทรวงคมนาคมและการทางพิเศษฯ ก็ต้องเร่งลงนามขยายสัญญาสัมปทาน เพื่อให้ทันกับทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A, B และ C รวมทางด่วนขั้นที่ 1 ซึ่งกำลังจะหมดอายุสัญญาในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563
โดยเมื่อ ครม. เห็นชอบแนวทางดังกล่าวแล้ว กระทรวงคมนาคมก็จะมอบหมายให้การทางพิเศษฯ ไปเจรจากับ BEM ให้ได้ข้อสรุป จากนั้นก็จะเสนอผลการเจรจาให้คณะกรรมการมาตรา 43ฯ เห็นชอบ ก่อนเสนอร่างสัญญาให้สำนักงานอัยการสูงสุด กระทรวงคมนาคม และ ครม. เห็นชอบตามลำดับ ด้าน BEM ก็ต้องเรียกประชุมผู้ถือหุ้นตามขั้นตอนของบริษัทในตลาดหลักทรัพย์
ขั้นตอนการขออนุมัติร่างสัญญาทั้งหมดควรแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 2563 จากนั้นทั้ง 2 ฝ่ายก็จะลงนามขยายสัญญาสัมปทานและถอนฟ้องคดีทั้งหมดภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งคดีฟ้องร้องของทั้ง 2 ฝ่ายมีทั้งหมด 17 คดี แบ่งเป็นคดีที่ BEM ฟ้องร้องการทางพิเศษฯ 15 คดี และคดีที่การทางพิเศษฯ ฟ้องร้อง BEM อีก 2 คดี โดยการลงนามขยายสัญญาสัมปทานจะไม่มีผลบังคับใช้ จนกว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะดำเนินการถอนฟ้องเสร็จสิ้น
บี้เจรจาขอส่วนลด BEM
นายสุรงค์ บูลกุล ประธานกรรมการ (บอร์ด) การทางพิเศษแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ในการเปิดเจรจาครั้งแรกๆ มูลค่าความเสียหายที่เกิดจากข้อพิพาทอยู่ที่ 137,517 ล้านบาท แต่การทางพิเศษฯ ก็เดินหน้าเจรจาอย่างเป็นทางการ 8 ครั้ง และไม่เป็นทางการหลาย 10 ครั้ง เพื่อขอลดดอกเบี้ยต้นทุนจนเหลือ 2% และลดผลตอบแทน (IRR) โครงการทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด ส่วน C+ จาก 15.5% เหลือ 6.5% จนทำให้มูลค่าข้อพิพาทลดเหลือ 58,873 ล้านบาท ส่งผลให้การขยายสัญญาสัมปทานสูงสุดลดเหลือ 15 ปี 8 เดือน
แนวทางการแก้ไขปัญหาครั้งนี้จะส่งให้การทางพิเศษฯ ได้รับประโยชน์เท่าเดิม เพราะเป็นขยายสัญญาสัมปทานทางด่วน แทนการนำเงินไปจ่ายค่าชดเชย และคดีฟ้องร้องทั้งหมดก็ยุติลง ส่วนเอกชนก็อยู่ได้และประชาชนก็ได้รับประโยชน์
โดยการขยายสัมปทานทางด่วนครั้งนี้ การทางพิเศษฯ จะได้รับส่วนแบ่งรายได้จากทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A,B และ C ในสัดส่วน 60% และ BEM ได้รับส่วนแบ่ง 40% เท่าเดิม ด้านทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน D และทางด่วนบางปะอิน-ปากเกร็ด ส่วน C+ ทาง BEM จะได้รับรายได้ 100% นอกจากนี้ BEM ก็จะปรับขึ้นค่าผ่าน 10 บาท เพียง 1 ครั้ง ตลอดอายุสัมปทาน
นายสุรงค์กล่าวว่า หาก ครม. เห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาตามที่เสนอ ก็จะส่งผลให้การทางพิเศษฯ สามารถระงับข้อพิพาทในครั้งนี้และไปเดินหน้าการลงทุนโครงการอื่นๆ เพิ่มเติมในอนาคต เช่น ทางด่วนกระทู้-ป่าตอง, ทางด่วน N2 และบูรพาวิถี
อย่างไรก็ตาม ถ้าการทางพิเศษฯ และ BEM ไม่สามารถขยายสัญญาสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ส่วน A, B และ C รวมทางด่วนขั้นที่ 1 ได้ทันวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 ซึ่งเป็นวันสิ้นสุดสัญญา การทางพิเศษฯ ก็อาจจะว่าจ้าง BEM ให้บริหารจัดการทางด่วนระยะสั้นเพื่อแก้ไขปัญหาช่วงรอยต่อ
ทำความเข้าใจ “สหภาพฯ” ต่อ
สำหรับกรณีที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้การทางพิเศษฯ จ่ายค่าชดเชยพร้อมดอกเบี้ยรวม 4,200 ล้านบาท แก่บริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จำกัด (NECL) ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ BEM เนื่องจากกรมทางหลวง (ทล.) ได้ก่อสร้างทางยกระดับดอนเมืองโทลล์เวย์ ช่วงอนุสรณ์สถานแห่งชาติ-รังสิต แข่งขันกับทางด่วน สายบางปะอิน-ปากเกร็ดของ NECL นั้น
นายสุรงค์กล่าวว่า หาก ครม. เห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาตามที่เสนอ การทางพิเศษฯ ก็จะไม่ต้องจ่ายค่าชดเชยมูลค่า 4,200 ล้านบาท โดยการทางพิเศษฯ จะปรึกษากับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อปรับตัวเลขทางบัญชี จากการบันทึกรายจ่าย เป็นบันทึกรายได้แทน
ส่วนกระแสต่อต้านการขยายสัมปทานทางด่วนของสหภาพแรงงานวิสาหกิจการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (สร.กทพ.) นั้น นายสุรงค์กล่าวว่า สหภาพฯ ก็มีความเข้าใจในระดับหนึ่งในแง่บริบทความจำเป็นและนโยบายขอรัฐบาล แต่ยอมรับว่ายังต้องเดินหน้าทำความเข้าใจต่อไป เพราะมีพนักงานหลายคนเป็นห่วง ซึ่งได้รายงานประเด็นนี้ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรับทราบแล้ว
- ค่าโง่ทางด่วนใกล้จบ! คาดครม.ยอมต่อสัมปทานแค่ 15 ปี
- ‘ศักดิ์สยาม’ มอบโจทย์แก้ ‘ค่าโง่ทางด่วน’ เพิ่ม สั่งดูความจำเป็น ‘ทางด่วน 2 ชั้น’
- ‘ศักดิ์สยาม’ เล็งรื้อผลเจรจา ‘ค่าโง่ทางด่วน’ หลัง ‘กทพ.’ พลิกชนะ 1 คดี
- การทางพิเศษฯ ส่งหนังสือถึง ครม. ขอ ‘อนุทิน’ ดูแลค่าโง่ทางด่วน
- นายใหญ่ ‘BEM’ แจงขยายสัมปทานทางด่วนไม่ใช่ค่าโง่ แต่เป็น ‘ดีลแก้ปัญหา’ ที่ดีที่สุด