ชาวอินเดียหลายพันคนออกมาร่วมการประท้วงต่อต้านกฎหมายการให้สัญชาติในวันนี้ (21 ธ.ค.) ขณะยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุความไม่สงบดังกล่าวในเดือนนี้พุ่งถึง 21 รายแล้ว
ยอดผู้เสียชีวิตทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว หลังจากการประท้วงเมื่อวานนี้ (20 ธ.ค.) ในรัฐอุตตรประเทศ ซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากสุดของอินเดีย ลงเอยด้วยความรุนแรง ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 11 ราย รวมถึง เด็กชายวัย 8 ขวบ ที่โดนเหยียบตาย
การประท้วงในวันนี้ มีผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอีก 1 ราย จากเหตุปะทะในเมืองรามปุระ รัฐอุตตรประเทศ ขณะที่ตำรวจใช้แก๊สน้ำตา และกระบอง เพื่อสลายฝูงชนที่พากันขว้างปาก้อนหินเข้าใส่เจ้าหน้าที่
เหตุความไม่สงบในอินเดีย มีความรุนแรงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ที่รัฐสภาผ่านกฎหมายการให้สัญชาติฉบับแก้ไข เมื่อวันที่ 11 ธันวาคมที่ผ่านมา ที่เปิดทางให้ประชาชนจาก 3 ประเทศเพื่อนบ้านได้สัญชาติอินเดียง่ายขึ้น เว้นไว้แต่ผู้ที่นับถือศาสนาอิสลามเท่านั้น
ทางการอินเดียพยายามที่จะควบคุมสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งประกาศภาวะฉุกเฉิน ปิดกั้นอินเทอร์เน็ต และปิดร้านค้าต่างๆ ในพื้นที่อ่อนไหวทั่วประเทศ แต่บรรดาผู้ประท้วงยืนยันที่จะเดินหน้าต่อสู้ต่อไป จนกว่าที่จะมีการยกเลิกกฎหมายฉบับดังกล่าว
การประท้วงในวันนี้ เกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศ รวมถึงที่กรุงนิวเดลี เมืองเชนไน และเมืองคูวาหตี โดยในการประท้วงที่เมืองปัตนา รัฐพิหารนั้น มีผู้ประท้วง 3 รายถูกยิงได้รับบาดเจ็บ และอีก 6 รายบาดเจ็บจากการถูกปาก้อนหิน จากเหตุปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ประท้วง และผู้ต่อต้านการประท้วง
ส่วนการประท้วงที่เมืองคูวาหตี ในรัฐอัสสัม ทางตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ซึ่งเป็นเมืองแรกๆ ที่จัดการประท้วงขึ้นท่ามกลางความกังวลว่า บรรดาผู้อพยพที่ได้สัญชาตินี้จะเข้ามาทำลายประเพณีวัฒนธรรมท้องถิ่นนั้น ผู้ร่วมประท้วงรายหนึ่งบอกว่า ถึงเวลาที่ประชาชนจะต้องออกมาต่อสู้เพื่อแผ่นดินเกิด และว่าพวกเธอจะต่อสู้อย่างสันติ
Master class on how to turn peaceful protests in to violent Ft. Fake Police!#IndiaAgainstCAA_NRC #IndiaAgainstViolence pic.twitter.com/USAFIPZrWm
— #IndiaAgainstCAA_NRC Einstein 🇮🇳 (@DesiPoliticks) December 21, 2019