Business

เปิดโพยของขวัญปีใหม่ ‘ก.อุตสาหกรรม’ จัดให้ทั้ง ‘ประชาชน-ผู้ประกอบการ’

กระทรวงอุตสาหกรรม แจกของขวัญปีใหม่ จัดมหกรรมสินค้าโรงงานลดราคา 20-70% สำหรับประชาชนทั่วไป ฝั่งผู้ประกอบการไม่น้อยหน้า งัด 6 มาตรการ เพิ่มความสะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย

นางสาวสุชาดา แทนทรัพย์ โฆษกกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรมได้จัดทำของขวัญปีใหม่ มอบเป็นขวัญแก่ประชาชนในช่วงเทศกาลปีใหม่ตามนโยบายของรัฐบาล ด้วยการจัดโครงการ “เอาท์เล็ต ของขวัญเพื่อประชาชน” มหกรรมจำหน่ายสินค้าราคาโรงงาน โดยร่วมมือกับภาคเอกชนซึ่งเป็นผู้ผลิตโดยตรง และผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั่วประเทศ นำสินค้ามาจำหน่ายในราคาหน้าโรงงานกว่า 1,000 รายการ รวมทั้งลดราคากว่า 20-70%

ของขวัญ1

ทั้งนี้ คาดว่าจะมีผู้ผลิต โรงงาน และเอสเอ็มอี รวม 350 ร้านค้า เข้าร่วมโครงการ โดยแบ่งเป็น 7 โซน ได้แก่

  • โซนเครื่องใช้ไฟฟ้า จำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า มอเตอร์ไซค์ สุขภัณฑ์ และสินค้าราคาพิเศษได้มาตรฐาน มอก.
  • โซนสินค้าดีเด่นจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งคัดสรรโดย สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ
  • โซนสินค้าอุปโภคบริโภคจากโรงงาน ทั้งสินค้าจาก เครือซีพีแรม โอสถสภา ทิปโก้ ไทยวาโก้ ฯลฯ
  • โซนสินค้าจากนิคมอุตสาหกรรม ทั้งยางรถยนต์ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ฯลฯ
สุชาดา แทนทรัพย์
สุชาดา แทนทรัพย์

 

  • โซนสินค้าเอสเอ็มอี โอทอป โดยคัดสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน ที่จัดว่าเป็นสินค้าไทยเด่นมาจำหน่าย และยังมีรถขายอาหารแบบเคลื่อนที่หรือฟู้ดทรัคจากร้านที่มีชื่อเสียงมาร่วมจำหน่ายในงาน
  • โซนจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและอีโคคาร์ จาก 8 ค่ายรถยนต์ ทั้งบีเอ็มดับบลิว ซูซูกิ เอ็มจี นิสสัน มิตซูบิชิ มาสด้า ฮอนด้า และโตโยต้า จัดโปรปังสำหรับข้าราชการและพนักงานรัฐวิสาหกิจดีลพิเศษ
  • โซนสินค้าจากเครือสหพัฒน์ ได้แก่ สินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็น อาทิ ผงซักฟอก ชุดชั้นใน เครื่องสำอาง ผ้าขนหนู ฯลฯ

สำหรับการจัดงานดังกล่าว จะจัดขึ้นที่กระทรวงอุตสาหกรรม ระหว่างวันที่ 24-26 ธ.ค. 62 คาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานประมาณวันละ 1 หมื่นคน และมียอดจำหน่ายมากกว่า 20 ล้านบาทตลอดงาน

ก.อุต

ในส่วนของผู้ประกอบการ ภาคธุรกิจ อุตสาหกรรม ก็ได้จัดของขวัญปีใหม่ให้เช่นกัน โดย นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า ของขวัญสำหรับผู้ประกอบการ จะเน้นการออกมาตรการต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกและลดภาระต้นทุน รวม 6 มาตรการ ได้แก่

  • การจัดทำระบบยื่นคำขอใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงาน (ร.ง. 4) แบบดิจิทัล โดยเชื่อมโยงข้อมูลเอกสารราชการ ผ่านเว็บไซต์ http://dsapp.diw.go.th/ ซึ่งผู้ประกอบกิจการโรงงานสามารถยื่นคำขอออนไลน์ ทำให้ได้รับความสะดวก รวดเร็ว ลดระยะเวลาและประหยัดค่าใช้จ่ายในยื่นคำขอประกอบกิจการ ซึ่งจะเปิดให้ใช้งานนำร่องในเขตกรุงเทพฯ ก่อนในเดือนมกราคม 2563 และขยายไปยังจังหวัดอื่นๆ ต่อไป
  • บริการออกแบบผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ฟรี โดยให้คำปรึกษาแนะนำ ด้านการออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ พร้อมทั้งจัดทำต้นแบบรวมถึงออกแบบโลโก้ ฉลาก ตราสินค้า จากผู้เชี่ยวชาญ ผ่าน ศูนย์ออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ THAI-IDC ของกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล้วยน้ำไท ซึ่งจะทำให้ประหยัดต้นทุนได้กว่า 3,000 บาทต่อราย โดยเปิดให้บริการแก่ผู้ประกอบการ 300 ราย ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 มกราคม 2563
กอบชัย
กอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์

 

  • ระบบป้ายแสดงข้อมูลรถจักรยานยนต์ตามมาตรฐานสากล (Eco Sticker) ซึ่งให้ผู้บริโภคได้รับทราบข้อมูลที่เป็นจริงของรถจักรยานยนต์แต่ละคัน เพื่อเปรียบเทียบก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ อีกทั้งยังเป็นการให้ความสำคัญ กับการแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมและปัญหาฝุ่น PM2.5 พร้อมทั้งอำนวยความสะดวกในการยื่นเอกสารเพื่อประกอบการชำระภาษีสรรพสามิตที่สามารถตรวจสอบและรับรองได้ทางออนไลน์ (24 ชั่วโมง) โดยนี้ผู้ผลิตและผู้นำเข้ารถจักรยานยนต์รุ่นใหม่ทุกคันที่จำหน่ายในประเทศต้องติด Eco Sticker ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป
  • การควบคุมสินค้าออนไลน์ เน้นในกลุ่มสินค้ามาตรฐานบังคับ 115 รายการ โดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) จะมีทีมเจ้าหน้าที่ออกสุ่มตรวจในเว็บไซต์ขายสินค้าออนไลน์ที่มียอดผู้ใช้สูงสุด ว่าสินค้าที่ขายในเว็บไซต์ได้รับเครื่องหมายและฉลาก(รายละเอียดสินค้า) และเครื่องหมาย มอก. ที่ถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการออนไลน์ต้องจำหน่ายสินค้าที่ได้มาตรฐาน

1576830946 2

  • เปิดชำระค่าธรรมเนียมผ่านระบบการชำระเงินกลางภาครัฐ (National E-payment) ซึ่งสามารถพิมพ์ใบแจ้งหนี้ และใบเสร็จรับเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์ได้ด้วยตัวเอง 2 กระบวนงานได้แก่ 1.การชำระค่าธรรมเนียมรายปีโรงงานสำหรับผู้ประกอบกิจการโรงงาน จำพวก 3 ที่ตั้งในเขตพื้นที่ กทม. จำนวน 6,800 ราย และ 2. การชำระค่าธรรมเนียมการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายและใบอนุญาตวัตถุอันตราย กว่า 3,000 ราย ผ่านทาง http://reg2.diw.go.th/epayment/menu.asp
  • พัฒนาระบบการชำระเงินค่าบริการอนุญาต (e-Collecting) เพื่อเพิ่มช่องทางการชำระเงินออนไลน์ให้กับผู้ประกอบการ จากเดิมที่ต้องชำระด้วยตนเองผ่านทางเคาน์เตอร์สำนักงานใหญ่ กนอ. หรือ สำนักงานการนิคมฯ แต่ระบบ e-Collecting จะสามารถชำระค่าบริการอนุญาต ค่าเช่า ค่าสาธารณูปโภค ค่าบำรุงรักษาสิ่งอำนวยความสะดวก ผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส (7-11) และผ่านเคาน์เตอร์ธนาคาร โดยระบบ e-Collecting จะเชื่อมโยงข้อมูลอัตโนมัติเข้ากับระบบอนุมัติอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อออกใบอนุญาตต่อไป

Avatar photo