“อุตตม” เผย “EXIM BANK” จัดใหญ่มอบของขวัญปีใหม่ให้ผู้ส่งออก ลั่นออกแรงกันคนละไม้คนละมือ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ มั่นใจปีหน้าส่งออกกลับมาขยายตัวได้อีกครั้ง
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า “ออกแรงกันคนละไม้คนละมือ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ” ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย หรือ EXIM BANK รายงานการคาดการณ์การส่งออกของประเทศไทยปี 2562 จะหดตัว 2.0% ซึ่งเป็นอัตราที่น้อยกว่าอีกหลายประเทศ เช่น เกาหลีใต้ ที่ตั้งแต่ต้นปี 2562 หดตัว 10.7% อินโดนีเซียหดตัว 7.8% มาเลเซียหดตัว 5.0% ญี่ปุ่นหดตัว 4.6% ส่วนการคาดการณ์ส่งออกของไทยในปี 2563 เชื่อว่าจะกลับมาขยายตัวได้อีกครั้งที่ 0-2%
สอดคล้องกับดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมในเดือนพฤศจิกายน 2562 ของสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (สอท.) ที่อยู่ในระดับ 92.3 ปรับเพิ่มขึ้นจากระดับ 91.2 ในเดือนตุลาคม โดยเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้นครั้งแรกในรอบ 6 เดือน สาเหตุมาจากยอดคำสั่งซื้อและยอดขาย ทั้งในประเทศและต่างประเทศเพิ่มขึ้น ในกลุ่มสินค้าประเภท อาหาร สุขภาพความงาม และแฟชั่น เป็นต้น และส่วนหนึ่งมาจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่ช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ
ส่วนตัวผมมีความเชื่อในแนวคิดที่ว่า การงานอะไรก็ตาม หากทุกฝ่ายทุกส่วนลงมือช่วยกัน ปัญหาอุปสรรคแม้จะใหญ่เพียงใด เราก็จะผ่านไปได้ เช่นเดียวกันกับปัญหาการส่งออกหรือภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวนขณะนี้ เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายต้องช่วยกัน
กล่าวถึงมาตรการภาครัฐที่พยายามกระตุ้นการส่งออก ล่าสุด EXIM BANK ได้มอบของขวัญปีใหม่ให้ผู้ประกอบการด้านการส่งออก ผ่าน 2 มาตรการ คือ
1. “EXIM เสริมสภาพคล่องผู้ส่งออก” วงเงิน2,000 ล้านบาท โดยกู้สูงสุด 20 ล้านบาทต่อราย เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน หรือปรับปรุงเครื่องจักร โรงงาน เทคโนโลยี ระยะเวลาชำระคืนสูงสุด 7 ปี
2. มาตรการ “EXIM ลดภาระการชำระหนี้” วงเงินสนับสนุน 4,000 ล้านบาท โดยเป็นการขยายระยะเวลาผ่อนชำระวงเงินเดิมไปอีกไม่เกิน 2 ปี ในอัตราดอกเบี้ยพิเศษ
ทั้ง 2 มาตรการนี้มีระยะเวลาให้บริการ ไปถึง 31 ธันวาคม 2563 ซึ่งคาดว่าจะช่วยอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจได้ราว 15,700 ล้านบาท ช่วยให้เกิดการจ้างงานในระบบ 5,200 ราย และช่วยเหลือผู้ประกอบการ SME ได้กว่า 750 ราย
นอกเหนือจากการช่วยเหลือเอสเอ็มอีด้านการส่งออก โดย EXIM BANK แล้ว ทางธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย หรือ SME D Bank ยังได้ออกมาตรการ “สินเชื่อ SME โตไว ไทยยั่งยืน” เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการรายใหม่ได้เข้าถึงแหล่งเงินทุน เพื่อขยายและปรับปรุงกิจการ โดยมีวงเงิน 3,000 ล้านบาท วงเงินกู้สูงสุดไม่เกิน 3 ล้านบาทต่อราย ดอกเบี้ย 1% ตลอดอายุสัญญากู้สูงสุด 7 ปี และปลอดเงินต้นสูงสุด 1 ปี
แคมเปญของทั้ง EXIM BANK และ SME D Bank ที่กล่าวมาข้างต้นเป็นตัวอย่างของธนาคารภาครัฐ ที่พยายามยื่นมือเข้าช่วยเหลือผู้ประกอบการ เช่นเดียวกับธนาคารรัฐแห่งอื่นๆ ที่ต่างก็มีแคมเปญออกมาในช่วงนี้ ซึ่งผมได้เคยกล่าวถึงไปแล้ว
ดังที่กล่าวข้างต้นว่า ผมเชื่อในความร่วมแรงร่วมใจช่วยกันผ่าฟันอุปสรรค ทุกเรื่องที่เป็นเรื่องยากก็จะง่ายขึ้น รัฐบาลพร้อมที่จะเข้าไปเป็นแรงผลักดันให้กับทุกฝ่าย ขณะเดียวกันคนไทยทุกคนก็มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เช่น ปีใหม่นี้ ผมอยากเชิญชวนให้พี่น้องประชาชน ที่ต้องการซื้อของขวัญปีใหม่มอบให้กับญาติสนิท มิตรสหาย บุคคลที่เคารพนับถือ ช่วยกันอุดหนุนสินค้าจากผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SME วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในท้องถิ่น
ขอบคุณครับ
