Branding

บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป รับอานิสงส์ ‘ชิมช้อปใช้’ หนุนตลาดโต ‘ไวไว’ เร่งโกยกลุ่มพรีเมียม

“ไวไว” เผยมาตรการรัฐชิมช้อปใช้ หนุนตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกลับมาโตในรอบ 3-4 ปี เดินหน้าลุยตลาดพรีเมียมดันแชร์เพิ่ม หลังบะหมี่เกาหลีช่วยสร้างตลาดชาม ส่งผลผู้บริโภคเริ่มคุ้นชิน พร้อมจ่าย

นายยศสรัล แต้มคงคา ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไว เปิดเผยว่า ในปีนี้ตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปเริ่มกลับมาเติบโตได้ในอัตรา 5% ซึ่งสูงกว่าปกติที่ตลาดจะเติบโตไม่เกิน 3% และการเติบโตส่วนใหญ่มาจากกลุ่มบะหมี่พรีเมียมและชนิดถ้วย ขณะที่ตลาดชนิดซองไม่เติบโตหรือทรงตัว จากตลาดรวมมูลค่า 17,000 ล้านบาท

C68U7559

ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าว ส่วนหนึ่งเป็นเพราะได้อานิสงส์จากมาตรการชิมช้อปใช้ของรัฐบาล ที่ส่งผลให้ผู้บริโภคซื้อบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมากขึ้น โดยเฉพาะในช่องทางร้านค้าทั่วไป

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพฤติกรรมผู้บริโภคที่มีวิถีชีวิตที่เร่งรีบ สินค้ากลุ่มพร้อมทาน เรดดี้ ทู อีท (Ready To Eat) กำลังเป็นที่นิยมมากสำหรับผู้บริโภค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวเองก็เป็นทางเลือกใหม่ให้กับกลุ่มอาหารประเภทนี้ที่ตอบโจทย์เวลาในชีวิตประจำวันที่มีอย่างจำกัด

ทั้งนี้เห็นได้จากการวางตลาด บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ไวไวปรุงสำเร็จ ชนิดชาม ขนาด 70 กรัม เมือกลางปีที่ผ่านมา และพบว่า ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคอย่างมาก บริษัทจึงออกรสชาติใหม่สำหรับผลิตภัณฑ์กลุ่มดังกล่าว ได้แก่ บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวรสต้มยำ (สูตรดั้งเดิม) (ชนิดชาม) ขนาด 70 กรัม และบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไวไวรสหอยลายผัดฉ่า (ชนิดชาม) ขนาด 70 กรัม เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และเป็นการเพิ่มทางเลือกใหม่ให้แก่ผู้บริโภคมากขึ้น

C68U7632

ขณะเดียวกันยังพบว่า บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปชนิดชาม ยังมีการขยายตัวและสร้างส่วนแบ่งขึ้นมาเป็น 2% แม้ว่าปัจจุบันภาพรวมตลาดส่วนใหญ่หรือ 80% ยังเป็นชนิดซอง และ 18% เป็นชนิดถ้วย แต่ก็ถือได้ว่าเป็นแนวโน้มที่ดีของบะหมี่ชนิดชามที่มองเห็นโอกาสเติบโตได้อีกมาก

นอกจากนี้ การเติบโตของตลาดบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปพรีเมียม โดยเฉพาะชนิดชามนั้น ส่วนหนึ่งยังเป็นผลมาจากการที่บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปจากเกาหลีได้เข้ามาสร้างตลาดชามให้เติบโตมากขึ้น จนเกิดการทะลายกำแพงราคา เข้ามาเป็นเหมือนการทะลายกำแพงราคา ทำให้ผู้บริโภคเริ่มคุ้นเคยกับราคาและสามารถจับจ่ายได้ เห็นได้จากการที่ไวไวออกสินค้ารูปแบบชามาในราคา 25 บาท ก็มีผลตอบรับจากผู้บริโภคอย่างดีเยี่ยม

“หลังจากเข้ามารุกตลาดด้วยชนิดชามแล้ว เชื่อว่าจะเพิ่มมาร์เก็ตแชร์อีก 1% จากปัจจุบันอยู่ในสัดส่วน 23 – 24 % โดยผู้นำตลาดยังคงเป็นแบรนด์ มาม่า 50% ขณะที่แบรนด์ยำยำ 21-22% ที่เหลือเป็นแบรนด์อื่นอีก4-5%”นายยศสรัล กล่าว

Avatar photo