Branding

ครบขวบปี ‘เก็ท’ มุ่งโตยั่งยืน เปลี่ยนธุรกิจ ‘เผาเงิน’ เป็น ‘ทำกำไร’

กระโดดเข้าสู่สมรภูมิฟู้ดเดลิเวอรี่ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2562 ที่ผ่านมา ภายในเวลาไม่ถึงปี “เก็ท” (GET) แอปพลิเคชั่นไลฟสไตล์ออนดีมานด์ ที่ให้บริการเรียกมอเตอร์ไซค์วิน สั่งอาหาร ส่งของ และอีวอลเลต มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว

ทั้งนี้ สะท้อนได้จากยอดดาวน์โหลดเกิน 2 ล้านครั้ง ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายแรกเริ่มเดิมทีที่ เก็ท คาดว่าจะต้องการเข้าถึงคนกรุงเทพฯ กว่า 1 ล้านคนในปีแรก และมีจำนวนคนขับเพิ่มขึ้นจาก 10,000 คนในช่วงเริ่มเปิดตัว เป็นเกือบ 40,000 คนในปลายปีนี้ รวมถึงมียอดสั่งซื้อครบ 10 ล้านทริป ไปเมื่อเดือนตุลาคมที่ผ่านมา

Get Office 02 1

“ในเกือบรอบปีที่ผ่านมา เป็นช่วงที่วางเป้าหมายมุ่งขยายฐานลูกค้าให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ และสร้างการรับรู้ให้ลูกค้ารู้จักให้มากที่สุด เพื่อสร้างการเติบโตให้มากที่สุด แต่สำหรับปี 2563 เป็นต้นไป เราจะเน้นการเติบโตแบบยั่งยืน (Sustainable Growth) ซึ่งเป็นเทรนด์ของทุกองค์กรธุรกิจในปีหน้าเช่นกัน” นายภิญญา นิตยาเกษรวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เก็ท ประเทศไทยกล่าว

นั่นเพราะปัจจุบัน ต้องยอมรับว่า ธุรกิจฟู้ดเดลิเวอรี่ รวมถึงธุรกิจขับรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เป็นธุรกิจที่ไม่ทำกำไรในวันนี้ หรือที่เรียกว่า “ธุรกิจเผาเงิน” (Cash-Burning Business) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีนี้ที่การแข่งขันในธุรกิจแอปฟู้ดเดลิเวอรี่ดุเดือดมาก ทำให้ผู้ประกอบการทุกรายยอมขาดทุนเพื่อสร้างตลาดให้เติบโต แต่เชื่อว่าในระยะกลาง ธุรกิจนี้จะเป็นธุรกิจที่สามารถทำรายได้และกำไรได้ ทั้งในฝั่งของแอปพลิเคชั่นและผู้ขับขี่

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเก็ท ปัจจุบันถือว่าถึงจุดคุ้มทุน และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำกำไรได้ในปีหน้า รวมทั้งมองไปที่การสร้างความยั่งยืนให้อีโคซิสเต็มเป็นหลัก เพราะหากล้มเหลว หมายความว่าคนนับแสนคนที่เป็นผู้ขับขี่ ร้านอาหาร ย่อมได้รับผลกระทบไปด้วย

GETMediaThankyou2019 02

ดังนั้น เก็ทจึงวางแนวทางสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนไว้ 3 แนวทางได้แก่

  • ต้องเพิ่มจำนวนผู้ใช้งาน และเพิ่มความถี่ในการเรียกใช้บริการมากขึ้น เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มาร์จิ้นต่ำมาก การที่จะทำให้คนขับมีรายได้เพิ่มจึงต้องอยู่กับจำนวนครั้งหรือความถี่ในการสั่งที่มากขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มผู้ใช้งานที่มีการใช้ประจำเฉลี่ย 6-7 ครั้งต่อเดือน
  • การควบคุมต้นทุน เพราะปัจจุบันต้องยอมรับว่า ประเทศไทยมีต้นทุนในบริการด้านนี้สูงที่สุดรองจากสิงคโปร์เท่านั้น จึงต้องหากลยุทธ์การดูแลต้นทุน ทั้งในแง่ของพาร์ทเนอร์ร้านอาหาร รวมไปถึงการมองหาโอกาสเพิ่มรายได้ด้านอื่นๆ ให้คนขับ เช่น เพิ่มบริการส่งผู้โดยสาร ส่งของ เป็นต้น
  • การเพิ่มรายได้เก็ท อาทิ การใช้ข้อมูลที่มีมาต่อยอดสร้างรายได้ เช่น การทำโฆษณาการตลาดที่เจาะลึกลงไปในเขตที่มีข้อมูลบอกไว้ชัดเจนว่าตรงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของร้านค้า หรือแบรนด์สินค้า บริการ ซึ่งจะเป็นธุรกิจที่สร้างรายได้อีกทางหนึ่งในปีหน้า รวมถึงการขยายสู่บริการทางการเงิน อย่างการให้สินเชื่อ ไมโครไฟแนนซ์ เป็นต้น

เมื่อถามถึงบริการใหม่ๆ ที่จะเพิ่มขึ้นในปีหน้า ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เก็ท กล่าวว่า อะไรที่ โกเจ็ก ผู้ลงทุนของ เก็ท จากประเทศอินโดนีเซียมี จะสามารถนำมาใช้กับเมืองไทย รวมถึงใการช้ เก็ท ได้ในทุกประเทศ ภายใต้วิชั่นที่ว่า “เก็ท อยากเป็นแอปพลิเคชั่นที่อยากไปไหนก็ได้ ใช้ในประเทศไหนก็ได้ทั้งภูมิภาคอาเซียน”

GET WIN 1

แต่สำหรับกรณีที่โกเจ็ก มีบริการรถสี่ล้อ แต่เก็ท ประเทศไทย ยังไม่มีนั้น ยอมรับว่าอยากทำ แต่ประเด็นสำคัญคือ ยังเป็นบริการที่ไม่ถูกกฏหมายในเมืองไทย ซึ่งหากมีการปรับแก้กฏหมายให้สามารถทำได้ ก็พร้อมจะทำ รวมทั้งต้องทำแล้วไม่ให้เกิดปัญหากับผู้ขับขี่รถแท็กซี่ในปัจจุบันด้วย โดยกล่าวได้ว่า อย่างน้อยในไตรมาสแรกปี 2563 เก็ทจะยังไม่ทำสี่ล้อแน่นอน

สำหรับแผนขยายธุรกิจในปี 2563 เก็ท จะพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพการบริการให้ดียิ่งขึ้น เพื่อรองรับการสเกลอัพของธุรกิจต่อไปในอนาคต เพื่อส่งเสริมให้ร้านค้าแต่ละร้านสามารถมีรายได้มากขึ้น โดยจะเปิดตัวแอปพลิเคชั่นใหม่ของคนขับ แอปสำหรับร้านค้า และบริการ GET PAY อย่างเต็มรูปแบบ รวมไปถึงการมองโอกาสขยายการให้บริการไปยังจังหวัดใหญ่ที่มีความต้องการของลูกค้าและร้านอาหาร

ในขณะที่เทรนด์ของฟู้ดเดลิเวอรี่ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะเติบโตถึง 6 เท่าตัวเมื่อเทียบกับปี 2561 และในปี 2563 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องไม่ต่ำกว่า 2 เท่าตัว ซึ่งการเข้ามาของเก็ท มีส่วนช่วยให้ธุรกิจนี้เติบโตได้มากขึ้นและเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากยิ่งขึ้น

GET Delievery

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เก็ท ปิดท้ายว่า การสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน ต้องเป็นการเติบโตอย่างยั่งยืนทั้ง 3 ฝ่ายคือ

  • ฝั่งผู้บริโภคหรือผู้ใช้บริการ โดยเก็ทจะพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ มาแก้เพนพอยต์ของลูกค้า เช่น การทดลองให้บริการ เก็ท รันเนอร์ หรือคนเดินส่งอาหารในระยะใกล้ ซึ่งพบว่าได้รับการตอบรับอย่างมาก เพราะต้นทุนถูกกว่าและรวดเร็วกว่า จึงจะขยายเพิ่มมากขึ้นในปีหน้า และ การเปิด เก็ท เพย์ สำหรับเพิ่มความสะดวกในการจ่ายเงินสำหรับลูกค้า
  • ฝั่งคนขับ จะพัฒนาแอปพลิเคชั่นใหม่สำหรับผู้ขับขี่เก็ท ให้ทันสมัยมากขึ้น ใช้งานได้ง่ายขึ้น
  • ฝั่งร้านอาหาร การพัฒนาแอปพลิเคชั่นสำหรับร้านอาหารให้สามารถรับออเดอร์ได้โดยตรง เพื่อความรวดเร็ว ลดความผิดพลาด และมีฐานข้อมูลลูกค้าสำหรับจัดโปรโมชั่นให้ลูกค้าได้ง่ายขึ้น และเฉพาะเจาะจงยิ่งขึ้น

Avatar photo