ผู้ผลิตเครื่องบินพาณิชย์รายใหญ่ของสหรัฐ “โบอิง โค” ประกาศระงับการผลิตเครื่องบินรุ่น 737 ตั้งแต่เดือนมกราคมปีหน้า เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี หลังจากที่เครื่องบินรุ่นขายดีที่สุดของบริษัท “737 แม็กซ์” โดนสั่งห้ามบินมาเป็นเวลานาน
โบอิง ซึ่งผลิตเครื่องบินรุ่น 737 ในเมืองซีแอตเติล ของสหรัฐ ระบุว่า การตัดสินใจระงับการผลิตดังกล่าว จะไม่มีการปลดพนักงาน ที่มีอยู่เกือบ 12,000 คนในโรงงานแห่งนี้แต่อย่างใด แม้เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อซัพพลายเชนทั่วโลก และต่อเศรษฐกิจสหรัฐด้วย
การตัดสินใจ ที่เกิดขึ้นระหว่างการประชุมบอร์ด 2 วันนั้น มีขึ้นหลังจากที่สำนักงานการบินแห่งชาติสหรัฐ (เอฟเอเอ) ปฏิเสธที่จะอนุมัติให้เครื่องบินโบอิง 737 แม็กซ์ กลับมาให้บริการอีกครั้งก่อนถึงปี 2563 ทั้งสัญญาณที่แสดงให้เห็นว่าสาธารณชนยังไม่ยอมรับในเครื่องบินรุ่นนี้ ทำลายความหวังของโบอิง ที่จะหลุดพ้นจากเรื่องนี้ในเวลาอันรวดเร็ว
ทั้งนี้ โบอิง 737 แม็กซ์ ถูกสั่งห้ามบินมาตั้งแต่เดือนมีนาคมที่ผ่านมา หลังเกิดอุบัติเหตุเครื่องบินรุ่นนี้ตก 2 ครั้งในเวลาเพียงแค่ 5 เดือน ที่อินโดนีเซีย และเอธิโอเปีย ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 ราย ซึ่งการห้ามบินดังกล่าวทำให้โบอิงต้องแบกรับค่าใช้จ่ายไปแล้วมากกว่า 9,000 ล้านดอลลาร์
แม้การระงับผลิตเครื่องบินดังกล่าว จะส่งผลกระทบต่อสายการบินต่างๆ เพียงเล็กน้อย เพราะที่ผ่านมา ก็มีการระงับการส่งมอบไปแล้ว ทำให้หลายสายการบินต้องยกเลิกเที่ยวบิน หรือเช่าซื้อรุ่นที่เก่ากว่ามาแทนไปแล้ว
แต่เรื่องนี้ จะยิ่งทำให้โบอิงตกอยู่ในวิกฤติรุนแรงขึ้น หลังจากที่ผ่านมา บริษัทต้องเจอกับการตรวจสอบประวัติความปลอดภัยอย่างละเอียด โดนลูกค้ากดดันให้จ่ายเงินชดเชย และความสัมพันธ์ที่เคยแน่นแฟ้นกับเอฟเอเอก็ตกอยู่ในสภาวะสั่นคลอน
จนถึงขณะนี้ โบอิงยังผลิตเครื่องบิน 737 แม็กซ์ ในอัตรา 42 ลำต่อเดือน และจัดซื้อช้นส่วนจากซัพพลายเออร์สำหรับการผลิตได้สูงสุด 52 ลำต่อเดือน แม้ว่าจะยังไม่มีการจัดส่งจนกว่าเจ้าหน้าที่คุมกฎระเบียบการบิน จะอนุมัติให้เครื่องบินรุ่นนี้กลับมาให้บริการอีกครั้งหนึ่งก็ตาม
โบอิง ไม่ได้ให้รายละเอียดว่า การระงับผลิตครั้งนี้จะนานเท่าใด ย้ำแต่เพียงว่าเรื่องนี้ขึ้นอยู่กับเอฟเอเอ โดยก่อนหน้านี้ บริษัทเคยออกมาคาดการณ์ไปแล้วครั้งหนึ่งว่า 737 แม็กซ์ อาจจะขึ้นบินได้อีกครั้งหลังจากที่มีการเปลี่ยนซอฟต์แวร์ ซึ่งทำให้โดนเอฟเอเอตอบโต้อย่างรุนแรง