CEO INSIGHT

เปิดวิสัยทัศน์ ‘ผู้ก่อตั้งหัวเว่ย’ รับมือปริมาณ ‘ทราฟฟิก’ มหาศาล

“โลกยุคใหม่ต้องอาศัยความร่วมมือที่เปิดกว้างจากทั่วโลก”

คำกล่าวนี้ เป็นวิสัยทัศน์ของ เหริน เจิ้งเฟย ผู้ก่อตั้งและประธานคณะกรรมการบริหารของหัวเว่ย โดยมองว่า นับจากปี 2563 จะเป็นช่วงเวลาของ “การพรั่งพรูของนวัตกรรมในโลกยุคใหม่” ที่มนุษยชาติจะก้าวเข้าสู่โลกที่ชาญฉลาดในอีก 20-30 ปีข้างหน้า ปัจจุบันสังคมเต็มไปด้วยการคิดค้นทฤษฎีและการสร้างสรรค์เทคโนโลยีใหม่ ๆ มากมายมหาศาล ซึ่งโอกาสในการเติบโตมักตามมาด้วยความไม่แน่นอน โลกยังมีอีกหลายคำถามที่ยังรอคนมาตอบ ดังนั้นความร่วมมือที่เปิดกว้างจึงจะเป็นแนวทางที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาที่ยังคิดไม่ตก

Mr. Ren Zhengfei 1

ในวงการอิเล็กทรอนิกส์ ชิปจะมีขนาดลดลงเรื่อย ๆ จนอาจจะเหลือเพียงสามหรือแค่หนึ่งนาโนเมตรเท่านั้น วิวัฒนาการนี้จะยังคงเป็นไปในทิศทางที่ยังไม่อาจคาดเดาได้ แม้กระทั่งกฎของมัวร์ก็กลับกลายเป็นเรื่องล้าสมัย แต่ก่อนเคยเชื่อว่ากราฟีน (Graphene) จะเป็นตัวขับเคลื่อนวิวัฒนาการในยุคปัจจุบัน แต่ในวันนี้ ไม่แน่ใจแล้วว่าความคิดนี้จะยังเป็นจริงอยู่หรือไม่

ทั้งนี้ ในอีกสองถึงสามทศวรรษข้างหน้า จะมีการค้นพบครั้งยิ่งใหญ่ด้านเทคโนโลยีทางพันธุกรรม ซึ่งจะเร่งให้เกิดความก้าวหน้าอย่างก้าวกระโดดในแวดวงวิทยาศาสตร์ชีวภาพ เทคโนโลยีชีวภาพ และเวชศาสตร์นาโน แต่ยังไม่ทราบแน่ชัดว่าการพัฒนาที่สำคัญเหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและการทำงานของมนุษย์ไปในรูปแบบใด วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับโมเลกุลสามารถนำไปใช้สังเคราะห์และสร้างสรรค์เป็นวัสดุที่ยังไม่มีมาก่อนในโลก ไม่มีทางที่จะบอกได้ว่าจะมีวัสดุและเทคโนโลยีใหม่ ๆ แบบใดเกิดขึ้นมา

แต่สิ่งที่เรารู้อย่างแน่ชัด คือจะมีการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ไปใช้อย่างกว้างขวาง แต่ก็ยังคาดเดาไม่ได้ว่า AI จะผลักดันสังคมให้ก้าวไปในทิศทางใดและสร้างความมั่งคั่งให้มากกว่านี้ด้วยวิธีใดบ้าง” นายเหริน กล่าว

เอไอ e1573575013421

ขณะที่ความก้าวหน้าในการสร้างกฎข้อบังคับของเทคโนโลยีแต่ละแขนงกำลังสร้างโอกาสใหม่ ๆ ในอัตราที่น่าประหลาดใจ แต่ผลลัพธ์ที่ได้จากความก้าวหน้าทางด้านสหวิทยาการกลับน่าประหลาดใจยิ่งกว่า นวัตกรรมแห่งอนาคตจะมาพร้อมกับการเติบโตอย่างมหาศาลของทราฟฟิกข้อมูล ซึ่งไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า จะต้องใช้ที่จัดเก็บข้อมูลขนาดเท่าใด หรือระบบส่งถ่ายข้อมูล และการประมวลผลข้อมูลปริมาณขนาดใหญ่มหาศาลมากเพียงใด แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นแน่นอนคือ  ข้อมูลจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ จะถูกจัดเก็บและประมวลผลบนคลาวด์

“แนวคิดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ ทั้งหมดกำลังค่อยๆ เผยโฉมให้เราเห็น คลื่นลูกใหม่ทางนวัตกรรมเทคโนโลยีจะมีลักษณะเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ที่ขยายการพัฒนาออกไปสู่ศาสตร์อื่นๆ ที่หลากหลาย เช่น เทคโนโลยีสารสนเทศได้กลายเป็นพื้นฐานสำหรับงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมในหลากหลายแนวทางปฏิบัติ แถมยังกลายเป็นรากฐานสำหรับการพัฒนาในทุกอุตสาหกรรมอีกด้วย” ผู้ก่อตั้งหัวเว่ยกล่าว

อย่างไรก็ตาม มีสิ่งหนึ่งที่ชัดเจนก็คือ ต้องพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของสังคมแห่งข้อมูลข่าวสารให้แข็งแกร่งมากขึ้น โดยโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นนั้นแบ่งออกเป็นด้านแข็ง (เทคโนโลยีที่จับต้องได้) และ ด้านอ่อน (กฎและทักษะที่เรานำไปใช้)

Mr. Ren Zhengfei 2

ในโครงสร้างพื้นฐานด้านแข็ง คือการมีเครือข่ายออปติก และที่ขาดไม่ได้ก็คือ เทคโนโลยี 5G รวมไปถึง 6G ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต โดย AI จะต้องพึ่งเทคโนโลยีข้อมูลข่าวสารหลายรูปแบบ และจะพัฒนาต่อไม่ได้เลยหากไม่มีการขยายขีดความสามารถของเทคโนโลยีด้านข้อมูลไปเรื่อย ๆ หากจะเปรียบเทียบก็คือ AI เป็นดั่งรถแรงที่วิ่งด้วยความเร็วสูงคันหนึ่ง และเทคโนโลยีสารสนเทศก็ต้องเป็นไฮเวย์ที่มาคอยรองรับความแรงของรถคันนี้

สำหรับโครงสร้างด้านอ่อน คือการมีบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถ มีกฎระเบียบและแนวทางปฏิบัติต่างๆ หัวใจสำคัญอยู่ที่บุคลากรที่มีความสามารถครบครัน การจะก้าวเข้าสู่ยุคใหม่ได้ก็ต่อเมื่อทุกประเทศร่วมกันส่งเสริมและผลักดันการศึกษาอย่างเต็มที่ พร้อมกับการพัฒนาผู้มีความสามารถรอบด้านด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่เปิดอิสระด้านการศึกษาและส่งเสริมอิสรภาพทางความคิด

ทั้งนี้ หัวเว่ยต้องเลือกบทบาทหน้าที่ในโครงสร้างของสังคมใหม่ในอีก 20 ถึง 30 ปีข้างหน้านี้ ที่ปริมาณทราฟิกของข้อมูลจะมีปริมาณมากมายในอนาคต ดังนั้นแนวทางด้านกลยุทธ์ของหัวว่ย จะเน้นในด้านของการจัดช่องทาง การกระจาย การจัดเก็บ และการประมวลผลข้อมูลที่มีจำนวนมหาศาล ซึ่งจะเป็นสิ่งที่เราจะให้ความสำคัญในระยะยาว

Avatar photo