Politics

‘เทพไท’ หวั่นขัดแย้งรอบใหม่ จี้เร่งแก้รัฐธรรมนูญก่อนบานปลาย

วันนี้ (14 ธ.ค.) นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์  ไลฟ์สดผ่านเฟชบุ๊กส่วนตัว “เทพไท เสนพงศ์” กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ประกาศนัดชุมนุมทางการเมืองที่สกายวอล์ค ปทุมวันว่า ส่วนตัวไม่เห็นด้วยกับการเคลื่อนไหวนอกสภาของพรรคอนาคตใหม่

79440647 177281203351816 6575211204912873472 n

นายเทพไท ระบุว่า แม้นายธราธร จะถูกตัดสิทธิ์ออกจากการเป็น ส.ส.แล้วก็ตาม แต่ยังเป็นหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่อยู่ และยังมี ส.ส.ในสังกัดของพรรคอีก 80 คน ก็น่าจะใช้การเคลื่อนไหวการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรก่อน จะเหมาะสมกว่าการเคลื่อนไหวนอกสภา เพราะการเคลื่อนไหวการเมืองนอกสภา อาจก่อให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรงเกิดขึ้นได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทุกฝ่ายในสังคมไม่ต้องการ เพราะสังคมไทยควรจะก้าวผ่านความขัดแย้ง และการชุมนุมของกลุ่มเสื้อสีต่างๆได้แล้ว

“เราเคยมีบทเรียนและประสบการณ์การเคลื่อนไหวบนท้องถนนมา ตั้งแต่ม็อบเสื้อเหลือง ม็อบเสื้อแดง ม็อบหลากสี หรือม็อบนกหวีด จนถึงวันนี้สังคมก็คงไม่อยากเห็นม็อบเสื้อสีส้มอีกครั้ง ทุกคนในสังคมอยากจะก้าวข้ามความขัดแย้งเพราะความขัดแย้งในสังคม ทำให้สังคมไทยเสียโอกาส จมปลักอยู่กับความขัดแย้งเดิมๆ ที่ยืดเยื้อมาเป็นเวลานับสิบๆ ปีแล้ว เป็นการทำลายโอกาสของทุกสิ่งทุกอย่าง ทั้งภาวะทางเศรษฐกิจ สังคม การเมือง ซึ่งมีผลกระทบต่อคนไทยทุกคนและสร้างความเสียหายให้กับประเทศชาติอย่างมหาศาล วันนี้อย่าปล่อยให้ใคร หรือกลุ่มการเมืองใด จับเอาประเทศไทยเป็นตัวประกันทางการเมืองต่อไปอีกเลย”

นายเทพไท บอกด้วยว่า อยากให้ทุกฝ่ายร่วมกันถอดสลักความขัดแย้งทางการเมืองออกไป ซึ่งก่อนหน้านี้นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยออกมาเตือนให้ระวังความขัดแย้งรอบใหม่จะเกิดขึ้น ด้วยเงื่อนไขของรัฐธรรมนูญฉบับปี 2560 และวันนี้ได้เป็นจริงตามที่ได้ตั้งข้อสังเกตไว้

“ความขัดแย้งรอบใหม่นี้ เกิดขึ้นจากปัจจัย 2 ประการคือ 1.เกิดขึ้นจากรัฐธรรมนูญปี 60 ในประเด็นของที่มาในการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญ การแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา และการเข้าสู่อำนาจของรัฐบาล 2.เกิดขึ้นจากตัวพล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา ที่เปลี่ยนสถานะตัวเองจากคนกลาง มาเป็นคู่ขัดแย้งเสียเอง”

ปัจจัย 2 ข้อนี้ อาจนำไปสู่การขัดแย้งในสังคมรอบใหม่ได้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องถอดสลักความขัดแย้งออกไปก่อน ด้วยการเร่งผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย และให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม ซึ่งเป็นนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล และในตอนนี้ญัตติการตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาปัญหา และแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร

Avatar photo