ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา “อองซาน ซูจี” ขึ้นให้การต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ไอซีเจ) หรือศาลโลก ในวันนี้ (11 ธ.ค.) ปฏิเสธข้อกล่าวหาจากแกมเบีย ในเรื่องที่กองทัพเมียนมาปฏิบัติการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์โรฮิงญา ชาวมุสลิมชนกลุ่มน้อยของประเทศเมื่อ 2 ปีที่แล้ว
นางซูจี กล่าวต่อหน้าคณะลูกขุนทั้ง 17 คนของศาลโลก ในกรุงเฮค เนเธอร์แลนด์ “ปฏิบัติการกวาดล้าง” กองทัพปลดปล่อยโรฮิงญาอาระกัน (อาร์ซา) ในเดือนสิงหาคม 2560 ของกองทัพเมียนมา ถูกบิดเบือน และถูกประณามอย่างผิดๆ ว่าเป็นสาเหตุที่ทำให้ชาวโรฮิงญาจำนวนมาก พากันอพยพเข้าไปยังบังคลาเทศ
ที่ปรึกษาแห่งรัฐเมียนมา ยังปฏิเสธด้วยว่า ปฏิบัติการของกองทัพเมียนมา ไม่ได้มีเป้าหมายอยู่ที่พลเรือนมุสลิม และว่าทางการได้ดำเนินคดีต่อทหารที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดสิทธิมนุษยชนแล้ว
“เมียนมาไม่อดทนต่อการละเมิดสิทธิมนุษยชนในรัฐยะไข่ หรือในที่ใดๆ ก็ตามภายในประเทศ และไม่ควรที่จะยกเจตนาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์มาเป็นสมมติฐานเดียวในกรณีของชาวมุสลิมในรัฐยะไข่”
เธอบอกด้วยว่า ไม่มีกลไกใดที่สามารถเก็บข้อมูลที่เกี่ยวข้องโดยตรงในข้อกล่าวหาการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวโรฮิงญาได้
“หากการก่ออาชญากรรมสงคราม เกิดขึ้นโดยสมาชิกของกองทัพเมียนมา บุคคลที่ก่อเหตุก็จะถูกระบบยุติธรรมของกองทัพดำเนินการลงโทษ ตามรัฐธรรมนูญของเมียนมา”
ทั้งนี้ แกมเบีย ได้ยื่นเรื่องต่อศาลโลก ฟ้องเมียนมาในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ต่อชาวโรฮิงญา ซึ่งเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาว่าด้วยการป้องกัน และลงโทษความผิดอาญาฐานฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของสหประชาชาติ (ยูเอ็น)
เมื่อวานนี้ (10 ธ.ค.) คณะทนายความของแกมเบีย ยังได้เรียกร้องให้ศาลโลก ดำเนินการอย่างรวดเร็ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมใดๆ ต่อชาวโรฮิงญาอีก
