วันนี้ (8 ธ.ค.) นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊คเพจ “ทนายวันชัย สอนศิริ” กล่าวถึงกรณีที่พรรคอนาคตใหม่ ขอขยายเวลายื่นหลักฐานเกี่ยวกับเงินกู้ของพรรค ต่อคณะกรรมการกำกับการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า เป็นเทคนิคในการดึงคดีให้ล่าช้า เป็นลีลาของนักการเมือง และผู้มีอิทธิพล ระบุ ถ้าผิดจะดึงเกมอย่างไรก็ไม่รอด
…….คนรวย มีเงิน มีอำนาจ มีอิทธิพล เวลามีคดีก็จะพยายามทุกวิถีทาง ทุกลูก ทุกเม็ด ทุกดอก ทุกวิธีการ ทั้งมาร และไม่มารที่จะให้คดีของตนหลุดไป หรือลากให้ยาวนานที่สุดด้วยเหตุผลหลายประการ ยิ่งนานสถานการณ์ยิ่งเปลี่ยน คนก็เปลี่ยน พยานหลักฐานบางอย่างก็เปลี่ยน การดึงเกมจึงเป็นเทคนิคอย่างหนึ่ง
อย่างน้อยถ้าจะติดคุกก็นานกว่าจะติด ถ้าจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็นาน ยังลอยหน้าลอยตาเป็นนักการเมืองได้อีกนาน ถ้าจะยุบพรรคก็อีกนานกว่าพรรคจะแตก จึงเป็นเรื่องปกติของคนที่เป็นผู้ต้องหาหรือจำเลย อย่างน้อยๆ ก็ถอยหลังตั้งหลักไว้ก่อน เผื่อจะได้หาช่องทางธรรมชาติหลบลี้หนีไปได้บ้าง ส่วนคนยากคนจนคงไม่ต้องพูดหรอก แค่คิดยังลำบากเลย
ที่คุณธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ขอขยายเวลายื่นเอกสารหลักฐานเกี่ยวกับเงินกู้ของพรรคต่อกกต.ไปอีก 4 เดือนแล้วกกต.ไม่ยอมนั่น ก็เป็นเทคนิคอิหรอบเดียวกันเพื่อทำให้คดีของตนมันช้าที่สุดนานที่สุด อย่างที่บอกเป็นปกติวิสัยของผู้ถูกกล่าวหาหรือจำเลย
การที่กกต.ไม่ยอมนั้นก็ไม่มีใครแกล้งใครอย่างที่ตีโพยตีพาย เป็นเรื่องของไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ ความจริงก็มีหลักฐานชัดอยู่แล้วจะด้วยเอกสารหรือคำพูดก็ชัดเจน แต่ก็ให้เวลาส่งเอกสารมาตามขั้นตอนเท่านั้น แม้ไม่ส่งหรือไม่มีมันก็สามารถพิจารณาวินิจฉัยได้อยู่แล้ว
ส่วนคุณธนาธรและพรรคอนาคตใหม่ก็ขอขยายเวลาเป็นเทคนิคดึงเกม มีลูกเล่น ต่างฝ่ายต่างก็ว่ากันไป แต่สุดท้ายก็ต้องมีที่สิ้นสุด เมื่อไม่ได้ก็ต้องโวยวายเป็นธรรมดา เพราะเป็นเรื่องของนักการเมือง
มีเงินมีอำนาจมีอิทธิพลจะเงียบๆ ได้ไง ก็เสียฟอร์มสิ… แต่ถ้าเป็นคนยากคนจนคนเดินดินก็คงหงอยๆแล้วก็เงียบไป… แต่สุดท้ายเรื่องนี้ก็มีจุดจบครับ มีเงินมีอำนาจมีอิทธิพล ถ้าผิดจะดึงเกมอย่างไรก็ไม่รอด