การแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่ประเทศฟิลิปปินส์วันที่ 7 ธันวาคมเป็นการชิงเหรียญทองกันเข้าสู่วันที่ 8 แล้ว โดยทัพนักกีฬาไทยคว้ามาเพิ่มได้อีก 18 เหรียญทอง
ช่วงเช้าประเดิมทองแรกจากจักรยาน ไทม์ไทรอัลทีมชาย ที่ประกอบด้วยร้อยตำรวจโท ธุรกิจ บุญรัตนธนากร, สิบตรี สราวุฒิ สิริรณชัย, สิบตำรวจตรี นวุติ ลี้พงษ์อยู่ และ จ่าอากาศเอก พีรพล ชาวเชียงขวาง ช่วยกันปั่นไล่น็อกเวียดนามที่ปล่อยตัวออกมาก่อนถึง 3 นาที เข้าเส้นชัยทำเวลาดีที่สุด 1 ชั่วโมง 59.39.792 นาที ทวงแชมป์ได้สำเร็จ เฉือนชนะทีมอินโดนีเซียที่คว้าเหรียญเงินแค่ 4.134 วินาทีเท่านั้น ส่วนเหรียญทองแดง ฟิลิปปินส์ เวลา 2 ชั่วโมง 01.38.099 นาที
จากนั้น “น้องปิ่น” เบญจพร ลิ้มพานิชย์ ปลดล็อคให้ยิมนาสติกลีลาไทยหลังคว้าทอง ประเภทคฑาด้วยสกอร์รวมสูงสุด 17.15 คะแนน เป็นทองแรกของทีมยิมนาสติกไทและเป็นเหรียญทองแรกรอบ 8 ปีของทีมยิมนาสติกลีลาไทยในกีฬาซีเกมส์
ถึงคิวเทเบิลเทนนิสสร้างผลงานบ้างเมื่อ อรวรรณ พาระนัง กับ สุธาสินี เสวตรบุตร เอาชนะ นันทนา คาวงศ์ กับ จิณห์นิภา เสวตรบุตร 3-0 เซต คว้าเหรียญทองและเหรียญเงิน เทเบิลเทนนิสหญิง คู่ ซึ่งเป็นการคว้าเหรียญทองให้ทัพลูกเด้งไทย 3 สมัยติดต่อกันและสร้างประวัติศาสตร์คว้าเหรียญทองประเภทหญิงคู่ในรอบ 32 ปี นับตั้งแต่ปี 1985 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ
ต่อมาเป็นผลงานยิงปืน ปองพล กุลชัยรัตนา กระหน่ำลั่นไกทำสกอร์รวม 240.5 คะแนน คว้าเหรียญทองปืนสั้นอัดลม 10 ม.บุคคลชาย เอาชนะ ฮวง ซวน วิน เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2016 จากเวียดนาม ที่ยิงรวม 239.6 คะแนน ได้เพียงเหรียญเงิน
ทีมเทควันโดไทยคว้าทองแรกจากประเภทพุมเซ่ ที่ประกอบด้วยเพ็ญกัญญา ไพศาลเกียรติกุล, อรนวีย์ ศรีสหกิจ เเละ กชวรรณ ชมชื่น 3 สาวดีกรีแชมป์เอเชียนเกมส์ 2018 หลังโชว์ท่ารำทำคะแนนรวม 8.339
เรือใบคือกีฬาที่โกยทองให้ทีพซีเกมส์ไทยได้มากสุดในวันนี้ถึง 5 เหรียญทองจาก พันวา บุณนาค ประเภทออพติมิสต์ ชาย, นัภภัสสร ขุนบุญจันทร์ ประเภทออพติมิสต์หญิง, ชนกชนม์ หวังสุข และปิยะพร เข็มแก้ว ประเภท 420 หญิง, เจตวีร์ ยงยืนนาน และจักรภัทร วิริยะกิตติ ประเภท 420 ชาย และ กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม ประเภทเลเซอร์ เรเดียล และได้อีก 2 เหรียญเงินจาก นาวี ธรรมสุนทร และ ณัฐ บุตรมารศรี ประเภท 470 ชาย และ กีรติ บัวลง ประเภทเลเซอร์ สแตนดาร์ด
ช่วงเย็นทัพกรีฑา กวาด 4 ทอง 3 เงิน 1 ทองแดง จาก ชยุตม์ คงประสิทธิ์ คว้าทองวิ่ง 200 ม.ชาย , คีริน ตันติเวทย์ คว้าทอง 10,000 ม. ชาย, กิตติพงศ์ บุญมาวัน คว้าทองขว้างค้อน ชาย สถิติ 67.56 ม.(ทำลายสถิติซีเกมส์) และ เขย่งก้าวกระโดด จาก ปริญญา เฉื่อยมะเริง สถิติ 13.75 เมตร ส่วนเหรียญเงินได้จาก ศิริพล พันธ์แพ วิ่ง 200 ม.ชาย ,วิ่งผลัดผสม ชาย/หญิง(ปรัชญา ประภาส, ชิเนเยะโอนูโอราห์, อริสา เวฬุวนารักษ์ และ พิพัฒน์พร พ่วงพี่) และ กระโดดค้ำ ชาย จากปรณต ภู่ระหงษ์ สถิติ 5.20เมตร
นอกจากนี้ “เจมส์บอนด์” ณัฐพงษ์ เกษอินทร์ ฉลามหนุ่มไทยปลดล็อกสระไทยในซีเกมส์หนนี้คว้าทอง กบ 200 ม. ด้วยเวลา 2.12.57 นาที คว้าเหรียญทองไปครองเป็นสมัยที่ 5 ติดต่อกันและยังเป็นการทำลายสถิติของตัวเองที่ทำไว้ในซีเกมส์ 2011 ที่อินโดนีเซีย ที่เวลา 2.12.99 นาที
ยูโด คว้าทองประเภททีมชาย (มาซายูกิ เทราดะ, สุรศักดิ์ พันธนาม, กิตติพงศ์ หันตราฐิน, ประสิทธิ์พูลกลาง, เวปูยัง ) และทองแดงทีมหญิง (กชกร วรสีหะ, อิคุมิ โอเอดะ, ยูริโกะ วรสีหะ, สุรัตนา ทองศรี) ส่งท้ายซีเกมส์หนนี้พร้อมครองเจ้าเหรียญทอง ยูโดซีเกมส์ ด้วยผลงาน 7 ทอง 2 เงิน 3 ทองเเดง
นอกจากนี้ยังมี “นกกระจิบ” อวยชัย กองสี คว้าทองหมากรุก ประเภทเกมอาเซี่ยนมาครองเป็นสมัยที่สองติดต่อกัน และยังมี เรือยาวมังกรอีก 1 เหรียญทอง จากประเภทเรือยาวมังกร 22 ฝีพาย ผสม ระยะ 200 เมตร
ขณะที่กีฬาอื่นๆที่น่าสนใจ “แทมมี่” แทมมารีน ธนสุกาญจน์ นักเทนนิสขวัญใจชสวไทยอดีตมือ 19 ของโลก วัย 42 ปี ที่คัมแบ็กช่วยชาติอีกครั้งหลังเล่นทีมชาติครั้งสุดท้ายในศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่ประเทศสิงคโปร์ ปี 2558 คว้า 2 เหรียญเงินจากประเภทหญิงคู่ที่จับคู่กับ “เอิร์ธ” เพียงธาร ผลิพืช หลังพ่าย บีทรีซ กูมูลย่า และ เจสซี่ พริสก้า รอมไพรส์ คู่นักเทนนิสอินโดนีเซีย คู่มือวาง 1 ของรายการ 0-2 เซต 3-6, 3-6 และอีกหนึ่งเงินจากประเภทคู่ผสมจับคู่กับ “ต้อง” สรรค์ชัย รติวัฒน์ พ่าย คริสโตเฟอร์ รุงกัท และ อัลดิล่า ซูต์เจียดี้ คู่มือวาง 1 ของรายการจากอินโดนีเซีย 1-2 เซต 6-4, 4-6 และซูเปอร์ไทเบรก 8-10
ตะกร้อทีมชุดชายไทย เอาชนะ มาเลเซีย 3-0 ทีม คว้า 9 คะแนนเต็มจากการชนะรวด 3 นัด โดยโปรแกรมนัดสุดท้ายกับเมียนมาในวันที่ 8 ธ.ค. เวลา 09.30 น. หากชนะได้จะคว้าเหรียญทองทันที
วอลเล่ย์บอลหญิงไทย แชมป์ 13 สมัย ลงสนามรอบแบ่งกลุ่มนัดสุดท้ายเอาชนะ เวียดนาม 3-0 เซต 25-16,25-20 , 25-15 โดยคู่นี้จะเจอกันอีกครั้งใน รอบชิงชนะเลิศ วันจันทร์ที่ 9 ธ.ค.62 เวลา 17.30 น.
สรุปวันนี้ทัพนักกีฬาไทยคว้าเพิ่ม 18 เหรียญทองทำให้เพิ่มยอดเป็น 41 ทอง 55 เงิน 60 ทองแดง
ขณะที่ผลการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ 2019 ของนักกีฬาไทยที่น่าสนใจ ประจำวันที่ 7 ธันวาคม 2562
เแบดมินตัน รอบก่อนรองชนะเลิศ
ประเภทชายเดี่ยว
– กันตภณ หวังเจริญ ชนะ โรส ลีโอนาท พีโดซา (ฟิลิปปินส์) 2-0 เกม 21-11, 21-11
– สิทธิคมน์ ธรรมศิลป์ ชนะ แลนส์ ราฟ ซาฟา (ฟิลิปปินส์) 2-0 เกม 21-19, 21-8
ประเภทหญิงเดี่ยว
– พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ ชนะ คารอส มาเรีย เบียงก้า ยูซาเบล (ฟิลิปปินส์) 2-0 เกม 21-9, 21-10
– ณิชชาอร จินดาพล ชนะ จัสลีน ฮุ้ย ยู่หยาน (สิงค์โปร์) 2-0 เกม 21-16, 21-14
ประเภทชายคู่
– บดินทร์ อิสสระ / มณีพงศ์ จงจิตร ชนะ ฟาจาร์ อัลเฟี้ยน / มูฮัมหมัด ไรอัน อาเดียนโต (อินโดนีเซีย) 2-0 เกม 21-16, 23-21
– นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / กิตติศักดิ์ นามเดช แพ้ วายู นายากา อาย่า / อาดี้ ยูซูฟ ซานโตโซ (อินโดนีเซีย) 0-2 เกม 16-21, 18-21
ประเภทหญิงคู่
– ผไทมาส เหมือนวงศ์ / ชญานิษฐ์ ฉลาดแฉลม ชนะ อาลิซา ยาสเบล ลีโอนาโด้ / เทียร์มาเรีย โพน่า (ฟิลิปปินส์) 2-0 เกม 21-15, 21-13
– สาวิตรี อมิตรพ่าย / พุธิตา สุภจิรกุล แพ้ เกรเซีย โพลี่ / อาพริลยานี่ ราฮายู (อินโดนีเซีย) 0-2 เกม 7-21, 11 -21
ประเภทคู่ผสม
– นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร / สาวิตรี อมิตรพ่าย แพ้ รินอฟ ริวัลดรี้ / พิตต้า เมนทารี่ (อินโดนีเซีย) 1-2 เกม 23-21,13-21,14-21
– กิตตินุพงษ์ เกตุเรน / พุธิตา สุภจิรกุล แพ้ ตัน เคียงเม้ง / ไล่ เพ่ยจิง (มาเลเซีย) 1-2 เกม 21-18,5-21,16-21
ฮอกกี้
ทีมชาย รอบแรก
– ไทย แพ้ มาเลเซีย 0-2
ทีมหญิง รอบแรก
– ไทย เสมอ มาเลเซีย 2-2
ฮอกกี้น้ำแข็ง รอบรองชนะเลิศ
– ไทย ชนะ มาเลเซีย 15-0
ฟุตบอลชาย รอบรองชนะเลิศ
– เมียนมา เสมอ อินโดนีเซีย 2-2 (ต่อเวลาพิเศษแพ้2-4)
– เวียดนาม ชนะ กัมพูชา 4-0
