นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง โพสข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.อุตตม สาวนายน” ระบุว่าสุดสัปดาห์นี้ผมมีเรื่องแจ้งให้พี่น้องประชาชนทราบ คือ ความคืบหน้าโครงการ “ชิมช้อปใช้” ซึ่งผลตอบรับยังคงดีอย่างต่อเนื่อง และมีการขยายช่องทางการจับจ่ายใช้สอยให้กับพี่น้องประชาชน
โดยวานนี้ (6 ธ.ค.62) กระทรวงการคลัง ร่วมมือกับ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม โดยบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดให้ผู้ที่มีสิทธิ์ในโครงการสามารถใช้เงินใน G Wallet 2 หรือ กระเป๋า 2 ซื้อสินค้าผ่านระบบออนไลน์ ในเว็บไซต์ thailandpostmart.com นอกจากจะได้เงินคืน (Cash Back) 15% จากยอดใช้จ่ายไม่เกิน 30,000 บาท และ 20% ยอดใช้จ่ายตั้งแต่ 30,001-50,000 บาท แล้วยังได้รับคูปองส่วนลด 5% หากสั่งซื้อสินค้าในหมวด “ชิม ช้อป ใช้” ครบ 1,000 บาทขึ้นไป
ผมขอพูดถึงเว็บไซต์ thailandpostmart.com ซึ่งเป็นแหล่งรวมสินค้าจากชุมชนมาจำหน่ายในระบบออนไลน์ โดยแบ่งสินค้าให้เลือกมากมาย ได้แก่ สินค้าในกลุ่ม อร่อยทั่วไทย ของดีประจำจังหวัด สินค้าชุมชน สินค้าไปรษณีย์ สุขภาพและความงาม บ้านและสวน ยานยนต์ และสินค้าฮาลาล เป็นต้น โดยมีสินค้าของดีของเด่นจากทั่วประเทศมากกว่า 17,000 รายการ จากผู้ประกอบการร้านค้ากว่า 4,000 ราย
โดยผมเชื่อมั่นว่าจะสามารถช่วยเพิ่มยอดจำหน่ายสินค้าของวิสาหกิจชุมชนโดยตรงได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะทำให้เกิดการหมุนเวียนของเม็ดเงินในระบบฐานรากได้มากยิ่งขึ้น รับกับบรรยากาศของการเลือกซื้อเลือกหาของขวัญปีใหม่ให้กับ พี่น้องเพื่อนฝูง ญาติผู้ใหญ่ บุคคลที่เคารพ ได้เป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ทางกระทรวงการคลัง ยังได้มอบสิทธิ์ให้ผู้เข้าร่วมมาตรการฯ ในระยะแรก ที่ยังไม่ได้ใช้สิทธิ์ของตัวเอง ภายใน 14 วัน ตามจังหวัดที่ลงทะเบียนไว้ ให้สามารถใช้สิทธิ์ในกระเป๋า 2 ได้ทุกจังหวัด โดยไม่ต้องลงทะเบียนใหม่ แค่ยืนยันตัวตนในระบบแอพพลิเคชั่นก็สามารถใช้สิทธิ์ได้อีกครั้ง
อีกประการหนึ่งครับ สำหรับพี่น้องที่ใช้สิทธิ์กระเป๋า 2 ไปแล้วในช่วงวันที่ 27 กันยายน-30 พฤศจิกายน 2562 จะได้รับเงิน Cash back คืนใน วันที่ 15 ธันวาคม 2562 ที่จะถึงนี้
โดยเงิน Cash back ในงวดที่ 2 รอบการใช้จ่ายช่วงวันที่ 1-31 ธันวาคม 2562 ก็จะได้รับคืนในวันที่ 15 มกราคม 2563 และงวดที่ 3 จะเป็นรอบการใช้จ่ายระหว่างวันที่ 1-31 มกราคม 2563 ที่จะได้รับเงินคืนในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2563
นอกจากนี้ ผมยังได้รับข้อมูลเพิ่มเติมจากกรมบัญชีกลางว่า จะเปิดให้ร้านค้าที่ยังไม่ได้เข้าร่วมสมัครลงทะเบียนเพิ่มเติมได้จนถึงวันที่ 15 มกราคม 2563
วันนี้ภาพรวมการใช้จ่ายในโครงการ “ชิมช้อปใช้” ตั้งแต่วันที่ 27 กันยายน -5 ธันวาคม 2562 พบว่ามีผู้ใช้สิทธิ์ทั้ง 3 เฟส รวมแล้วเป็นจำนวน 11,780,066 ราย มีการใช้จ่ายรวมประมาณ 19,233 ล้านบาท
ตามที่ผมได้กล่าวไปแล้วครับ ว่าการดำเนินมาตรการ “ชิมช้อปใช้” เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้เกิดการหมุนเวียนในระบบฐานราก นอกจากนี้ แล้วยังถือเป็นการต่อยอดการสนับสนุนนโยบาย e-Payment หรือการใช้จ่ายเงินผ่านระบบออนไลน์ของรัฐบาล ส่งเสริมให้พี่น้องประชาชน และผู้ประกอบการในชุมชน เกิดความเข้าใจในระบบดังกล่าวมากยิ่งขึ้น เป็นส่วนหนึ่งการนำร่องการพัฒนาระบบโครงสร้างดิจิทัลของประเทศ นอกเหนือจากโครงการ BigData และโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
