World News

‘หัวเว่ย’ สุดทน ร้องศาลสหรัฐ ค้านคำสั่ง FCC ‘ห้ามซื้อผลิตภัณฑ์หัวเว่ย’

หัวเว่ย ออกแถลงการณ์ ร้องศาลอุทธรณ์ภาคห้าแห่งสหรัฐอเมริกา ขอถอดถอนคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งลงมติดำเนินการทางกฎหมายต่อคณะกรรมการกลางกำกับดูแลกิจการสื่อสาร (FCC) ของสหรัฐฯกรณีสั่งห้ามผู้ให้บริการในชนบทของสหรัฐอเมริกาใช้งบประมาณจากกองทุนเพื่อการให้บริการโทรคมนาคมอย่างทั่วถึง หรือยูเอสเอฟ (USF) ซื้อผลิตภัณฑ์ของหัวเว่ย

ดร.ซ่ง หลิ่วผิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย ระบุในแถลงการณ์ว่า หัวเว่ยร้องขอต่อศาลให้ระงับคำสั่งอันไม่ชอบด้วยกฎหมายของคณะกรรมการกลางฯ เนื่องจากทางคณะกรรมการกลางฯ ไม่ให้โอกาสหัวเว่ยเข้าร่วมกระบวนการทางกฎหมายตามที่ร้องขอ ในกรณีที่ระบุให้หัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงของชาติ

ซ่ง หลิ่วผิง ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมายของหัวเว่ย

ทั้งนี้ เนื่องจาก อาจิต ไพ ประธานคณะกรรมการด้านการสื่อสารของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FCC) และคณะกรรมการคนอื่นๆ ไม่สามารถแสดงหลักฐานใดที่จะพิสูจน์ข้อกล่าวอ้างได้ว่าหัวเว่ยเป็นภัยต่อความมั่นคงจริง ทั้งยังเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงและการคัดค้านของหัวเว่ยและผู้ให้บริการในเขตชนบท หลังจากที่คณะกรรมการกลางฯ เสนอประเด็นดังกล่าวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2561

ดังนั้น หัวเว่ยจึงเชื่อว่าคณะกรรมการกลางฯ ล้มเหลวในการยื่นหลักฐาน หรือเหตุผลที่เหมาะสม หรืองานวิจัยที่จะสนับสนุนการตัดสินโดยพลการครั้งนี้ ซึ่งเป็นการฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา กฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง และกฎหมายอื่นๆ

huawei

“การแบนบริษัทอย่างหัวเว่ยเพียงเพราะเราเริ่มต้นธุรกิจของเราในประเทศจีน ไม่ได้แก้ปัญหาความมั่นคงทางไซเบอร์ใดๆ” ดร.ซ่ง กล่าว

ด้านนายเกลน นาเกอร์ หัวหน้าที่ปรึกษาด้านกระบวนการกฎหมายของหัวเว่ย ระบุว่าคณะกรรมการกลางฯ ประกาศการใช้กฎหมายที่ปราศจากมาตรฐาน ที่ผ่านการอนุมัติโดยพวกเขาเอง ซึ่งกฎหมายดังกล่าวถูกออกแบบมาเพื่อใช้กับหัวเว่ยและบริษัทจีนอื่นๆ ตามเจตจำนงของพวกเขาเท่านั้น ซึ่งถือว่าการตัดสินใจดังกล่าวเกินขอบเขต “อำนาจตามกฎหมาย” ขององค์กร เนื่องจากคณะกรรมการกลางฯ ไม่มีอำนาจในการตัดสินความมั่นคงของชาติ หรือระงับการใช้กองทุนยูเอสเอฟด้วยคำตัดสินดังกล่าว

คาร์ล ซ่ง รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรของหัวเว่ย
คาร์ล ซ่ง

ขณะที่นายคาร์ล ซ่ง รองประธานฝ่ายสื่อสารองค์กรของหัวเว่ย ระบุว่า คำสั่งของคณะกรรมการกลางฯ เป็นภัยคุกคามต่อการพัฒนาการเชื่อมต่อในพื้นที่ชนบทของอเมริกา ซึ่งพึ่งพาอุปกรณ์ของหัวเว่ย เพราะผู้จำหน่ายรายอื่นไม่ยินดีจะทำธุรกิจในพื้นที่ดังกล่าว เนื่องจากอยู่ห่างไกลเกินไป หรืออยู่ในภูมิประเทศที่เข้าถึงยาก หรือมีจำนวนประชากรน้อย ซึ่งคำสั่งแบนหัวเว่ย ผลที่ตามมาจะสร้างความเสียหายมูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์ และจะบีบให้ผู้ให้บริการรายย่อยบางรายต้องล้มละลาย

Avatar photo