ตลาดหุ้นเอเชียช่วงเช้าวันนี้ (6 ธ.ค.) ปรับตัวขึ้นเป็นส่วนใหญ่ จากการที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังทำให้นักลงทุนมีความหวังถึงการทำข้อตกลงการค้ากับจีน ขณะราคาน้ำมันอยู่ในระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 เดือน หลังชาติผู้ผลิตภายใต้การนำของซาอุดีอาระเบีย และรัสเซีย เห็นพ้องที่จะลดเพดานการผลิตลงมาอีก
ดัชนีนิกเคอิ ตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ของญี่ปุ่น เคลื่อนไหวล่าสุดขยับขึ้นมา 74.32 จุด หรือ 0.32% ที่ 23,374.41 จุด ดัชนีฮั่งเส็งของฮ่องกง เพิ่มขึ้น 126.60 จุด หรือ 0.48% ที่ 26,343.64 จุด ดัชนีคอมโพสิตเซี่ยงไฮ้ ของจีน บวก 2.49 จุด หรือ 0.09% ที่ 2,901.96 จุด และดัชนีสเตรทไทมส์ ของสิงคโปร์ ปรับขึ้น 3.79 จุด หรือ 0.12% มาอยู่ที่ 3,177.98 จุด
ขณะที่ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ของสหรัฐ ปิดซื้อขายเมื่อวานนี้ (5 ธ.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น ที่ 27,677.79 จุด เพิ่มขึ้น 28.01 จุด หรือ 0.10% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ 3,117.43 จุด เพิ่มขึ้น 4.67 จุด หรือ 0.15% และดัชนีแนสแด็กปิดที่ 8,570.70 จุด เพิ่มขึ้น 4.03 จุด หรือ 0.05%
ทรัมป์กล่าวเมื่อวานนี้ว่า การเจรจาการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐยังดำเนินต่อไป สร้างความรู้สึกด้านบวกให้กับตลาด แม้จะยังไม่ได้ข้อตกลงว่า เรื่องการยกเลิกการขึ้นภาษีที่สหรัฐจัดเก็บต่อสินค้านำเข้าจากจีนในขณะนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้วยหรือไม่
นักลงทุนต่างหวังว่า ทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถประนีประนอมกันได้ อย่างน้อยที่สุดก็เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเรื่องที่พวกเขากำลังวิตกกันอยู่ ถึงการที่สหรัฐจะเดินหน้าขึ้นภาษีต่อสินค้านำเข้าล็อตสุดท้ายของจีนมูลค่าราว 156,000 ล้านดอลลาร์ตามกำหนดวันที่ 15 ธันวาคมนี้
อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับข้อตกลงการค้า ทำให้นักลงทุนบางรายเลือกที่จะอยู่รอบนอกตลาด
ทางด้านราคาน้ำมันดิบ ยังทรงตัวอยู่ใกล้ระดับสูงสุดในรอบ 2 เดือน จากการที่บรรดาประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายใหญ่ๆ ต่างเห็นพ้องที่จะลดเพดานการผลิตลงมาอีก 500,000 บาร์เรลต่อวัน ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2563 หลังจากที่ประชุมหารือเรื่องนี้นานเกือบ 6 ชั่วโมง
ราคาน้ำมันดิบเวสต์ เท็กซัส อินเตอร์มีเดียท ซื้อขายที่ตลาดเอเชียช่วงเช้าวันนี้ ขยับลงมา 2 เซนต์ ที่ 58.41 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
