นายวรพจน์ สุรัตวิศิษฏ์ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าการดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ในรูปแบบ“บัลลังก์โมเดล” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 บริษัทได้ส่งเสริมการรวมกลุ่มเกษตรกร พร้อมกับสนับสนุน เครื่องจักรและเทคโนโลยีที่ทันสมัย ช่วยยกระดับการผลิตอย่างต่อเนื่อง
โดยปีนี้ได้นำแอพพลิเคชั่น มาช่วยในการบริหารจัดการการเก็บเกี่ยว และขนส่งร่วมกัน แก่เกษตรกรในพื้นที่ตำบลบัลลังก์และใกล้เคียง เน้นการใช้รถเกี่ยวและรถขนส่งในพื้นที่ เพื่อให้เกิดการกระจายรายได้ระหว่างคนในชุมชน โดยเพิ่มเงินรับซื้อผลผลิตอีก 10 สตางค์ต่อกิโลกรัม จากการใช้แอพพลิเคชั่นและนำผลผลิตมาขายให้โรงอาหารสัตว์ของบริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ โดยตรง
“การนำเทคโนโลยีมาใช้จะช่วยให้บริษัท สามารถตรวจสอบย้อนกลับพื้นที่ปลูกของข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ได้แม่นยำขึ้น สนับสนุน เป้าหมายสูงสุดของโครงการ ที่ต้องการพัฒนามาตรฐานการปลูกข้าวโพดของเกษตรกรไทย สร้างรายได้ที่มั่นคง นำไปสู่การแก้ปัญหาความยากจนและวัฏจักรหนี้สิน รวมทั้งสนับสนุนนโยบายการไม่รับซื้อข้าวโพดจากพื้นที่ผิดกฎหมายหรือรุกป่า ตามแนวทางการจัดหาที่ยั่งยืนของซีพีเอฟ” นายวรพจน์ กล่าว
ร้อยตรีฐนนท์ธรณ์ กวีกิจรัตนา นายกเทศบาลตำบลบัลลังก์ อำเภอโนนไทย จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จากการที่เทศบาลตำบลบัลลังก์ร่วมกับ หน่วยงานภาครัฐ และ บริษัท กรุงเทพโปรดิ๊วส จำกัด (มหาชน) ผู้จัดหาวัตถุดิบอาหารสัตว์ ให้กับ ซีพีเอฟ ดำเนินโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ในรูปแบบ“บัลลังก์โมเดล” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 มีเกษตรกรรายย่อยเข้าร่วมโครงการ 814 ครอบครัว ครอบคลุมพื้นที่ปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์รวม 18,000 ไร่ เทียบกับปีแรก 2559 ที่มีเกษตรกรเข้าร่วม 184 คน พื้นที่ปลูก 4,700 ไร่ ชาวบ้านมีความเชื่อมั่น โครงการ “บัลลังก์โมเดล” และมีเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาขอศึกษารูปแบบเพื่อนำไปขยายผลต่อเนื่อง
“ผลที่ได้รับจาก “บัลลังก์โมเดล” มากกว่าช่วยเพิ่มผลผลิตต่อไร่และลดต้นทุนการผลิต เกษตรกรมีความรู้และมีเทคโนโลยี ช่วยยกระดับผลผลิตให้มีคุณภาพสูงขึ้นช่วยให้ขายได้ราคา สามารถรับมือกับความเสี่ยง ทั้งภัยแล้งและโรคระบาดได้ สุขภาพของคนในชุมชนดีขึ้น และลดผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมลงได้จากการเลิกเผาตอซัง”นายกเทศบาลตำบลบัลลังก์กล่าว
นายพนา ทรงสันเทียะ เกษตรกรชาวตำบลบัลลังก์ ปลูกข้าวโพด 45 ไร่ เข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่ปี 2559 กล่าวว่า ตั้งแต่เข้าร่วมโครงการฯ เห็นการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ตั้งแต่ผลผลิตที่ดีขึ้น จากการมีความรู้ในการปลูกที่ถูกต้อง ปรับเวลาการปลูก โดยดูข้อมูลฝนตกในพื้นที่ย้อนหลังไป 10 ปี การใส่ปุ๋ย และจนถึงวันเก็บเกี่ยวที่เหมาะสม มีแอพพลิเคชั่นอำนวยความสะดวกการเก็บเกี่ยว แม้ว่าในปีนี้ ชุมชนจะเจอภัยแล้งและศัตรูพืชหนัก แต่เกษตรกรจะร่วมกันถอดบทเรียนเพื่อนำไปปรับปรุงการปลูกในฤดูกาลหน้าให้ดีขึ้นต่อไป
“บัลลังก์โมเดล” นับเป็นแห่งแรกของประเทศ ที่ผนึกพลังภาครัฐ เกษตรกร และเอกชน ยกระดับการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ของเกษตรกรรายย่อยแบบครบวงจร ตั้งแต่การปลูกจนถึงมีตลาดรองรับ มีการบริหารจัดการแบบแปลงใหญ่ เป็นโครงการที่ต่อยอดจาก โครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ที่เริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 เพื่อฝึกอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกรปลูกข้าวโพด รู้จักการวิเคราะห์ดินด้วยตนเอง นำไปสู่การใช้ปุ๋ยและจัดการพื้นที่ปลูกที่ถูกต้อง ผลผลิตเพิ่ม ต้นทุนลด และ ไม่เผาตอซัง จนถึงปัจจุบัน มีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการฯ เข้ารับการถ่ายทอดความรู้และเทคโนโลยีแล้ว 9,449 คน รวมพื้นที่เพาะปลูก 239,921 ไร่ ใน 20 จังหวัดทั่วประเทศ